รีวิว Resident Evil : The Final Chapter [by ที่นั่งธรรมดา]

Resident Evil : The Final Chapter (2017) อวสานผีชีวะ
กำกับโดย : Paul W.S. Anderson

     เรียกได้ว่าจบสักทีกับหนังภาคต่อเรื่องนี้ ถ้านับตั้งแต่ภาคแรกที่ออกมานั้น ก็กินเวลาไปเกือบๆ 14 ปีเห็นจะได้ ซึ่งภาคสุดท้ายนี้ห่างจากภาคที่แล้วประมาณ 4 ปี ทำเอาลืมไปเลยว่าภาคก่อนนั้นเป็นยังไง ต้องกลับไปนั่งรื้อฟื้นเรื่องราวกันใหม่
    
     โดยในภาค The Final Chapter จะเป็นการดำเนินต่อจากภาค Retribution ในครั้งก่อน เมื่อเผ่าพันธุ์มนุษยชาติผู้เหลือรอดได้ดำเนินมาถึงปลายทางของการดำรงอยู่  อลิซ (รับบทโดย Milla Jovovich) หนึ่งในผู้รอดชีวิตจำนวนไม่มาก จึงเป็นความหวังเดี่ยวที่จะต่อสู้กับเหล่าซอมบี้ต่อไป แต่การเดินหน้าไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับครั้งนี้ เพราะเธอต้องย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้นของหายนะ ณ เมือง Raccoon City เมื่อ The Umbrella Corporation กำลังรวบรวมกำลังพล เพื่อกำจัดมนุษยชาติผู้เหลือรอดเป็นครั้งสุดท้าย ให้สิ้นซาก อลิซจึงต้องผนึกกำลังกับมิตรเก่าและสหายใหม่ เพื่อต่อสู้กับศึกสองด้านในสงครามครั้งสุดท้ายนี้
    

     เมื่อตามมาแล้วเราก็คงต้องต่อมันให้จบ ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของซีรี่ย์ Resident evil แต่สำหรับตัวผู้เขียนที่ดูมาตั้งแต่ภาคแรกนั้นภาคนี้ก็คงจะพลาดไม่ได้ หนังเดินเรื่องเป็นเส้นตร๊งตรงซึ่งบางอย่างก็เดาได้ตั้งแต่แรก ในภาคนี้นั้นก็เป็นการวกเข้าฝั่งหลังจากออกทะเลมานานแสนนาน ซึ่งจัดเต็มมากในเรื่องของ jump scare ในแบบที่นิดหน่อยแกก็เอาประหนึ่งผู้กำกับแกจะทำเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย ในบางช็อตนั้นคนดูอย่างเราๆก็พอจะเดาได้นั่นแหละว่าจะมี แต่ก็ตกใจทุกทีเพราะซาวด์ประกอบ

     อลิซของเราก็ยังโชว์เทพเช่นเคย แม้นจะโดนรุมรึเจอสัตว์ประหลาดเธอก็ไม่หวั่นแม้แต่น้อย แต่ก็แอบคิดว่านั่นแหละคือเสน่ห์ของหนังซีรี่ย์นี้ เรื่องที่อยากติงอีกเรื่องคือฉากบู๊ ไม่รู้ว่าผู้เขียนเป็นคนเดียวหรือเปล่า คือฉากมันตัดไปตัดมาเร็วเกิ๊น ดูไม่ทัน ขนาดว่านั่งไกลๆแล้วนะ ต้องใช้สมาธิอย่างมากในการดูฉากแบบนี้ เรื่อง CG ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานเหมือนภาคก่อนๆ


     บทสรุปของภาคนี้เป็นภาคที่ทำให้เราได้รู้จักตัวตนของอลิซ เฉลยเรื่องราวไขปมทุกอย่างที่ปูมา ซึ่งนับว่าจบได้ดีนะ คือการไปดูหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เหมือนๆกับการไปดูซีรี่ย์ Transformer นั่นแหละ ดูเอาสนุก เอาความมันส์ แต่หนังก็หาทางลงได้ดี (ถึงจะจบแบบเปิดไปหน่อย เหมือนว่าถ้าอยากจะทำภาคต่อก็ทำได้)

ปล.1 จะบอกว่าเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวก็ไม่ผิดนะเนี่ย สามีกำกับ ภรรยาและลูกสาวแสดงซึ่งตัวลูกสาวที่รับบทเป็น The Red Queen ก็น่ารักไม่ใช่เล่น
ปล.2 Milla นี่ก็สวยไม่สร่าง เป็นหนึ่งในผู้หญิงไม่กี่คนที่เหมาะกับบทบู๊แบบนี้


หากใครชื่นชอบสามารถไปกดติดตามเพจได้นะครับ อมยิ้ม15
https://www.facebook.com/ordinaryseats/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่