เข้าไปด้วยความหวังที่มีมา150% ซึ่งในหัวคิดว่า ถ้าหากเราอกหักในช่วงนี้ หนังเรื่องนี้คงจะตอบโจทย์เราได้แน่นอน
ซึ่งหลังจากที่ดูเสร็จออกมาจากโรงหนัง ความคิดในหัวต่างๆก็แล่นออกมาว่า "หนังมันจะสื่อไปในทางไหน" โดยผู้เขียนจะแยกเป็นหัวข้อ
1. ตามชื่อหนัง "มิสเตอร์เฮิร์ท"
ความเฮิร์ทที่หนังตัวอย่างเหมือนจะเล่าๆมาประมาณว่า ไอพระเอกเนี่ย (ดอน สีชัง) โดนบอกเลิกจากแฟนที่เป็นนักแสดง (แอนนา) แล้วมันก็คงจะเฮิร์ทมากๆ แล้วความเฮิร์ทของมันเนี่ยจะเป็นยังไงเป็นขนาดไหนจะหลุดยังไง แต่ไม่เลยครับ เหมือนจะเป็นการ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซังกะตายอย่างเดียวมากกว่า โดยหนังจะค่อนไปทางที่การมีตัวละครอีกตัวนึงเข้ามาแล้ว........
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(หากดูตัวอย่างก็คงเดาได้เลย แต่ในใจเราก็คิดว่า มันจะใช่หรอ มันคงไม่ง่ายแบบนี้หรอกม๊างงง!)
2. จะรักก็ยังรู้สึกแปลกๆ
แน่นอนครับ ที่ว่าแปลก นั่นคือตัวของ (ดิว) ที่อยู่ๆแม่มก็ปรากฏตัวออกมา และดูเหมือนอยากจะช่วย ดอน สีชัง ให้คืนดีกับ แอนนา (ผู้เขียนก็ลุ้นว่าหนังจะค่อนไปทางนี้มากกว่าที่ตัวอย่างหนังจะสื่อออกมา) ด้วยวิธีการมากมายหนะหรอ ไม่ใช่เลย!!!!!! ถ้าผู้เขียนเป็นตัวละครที่มองอยู่ห่างๆ ผู้เขียนจะคิดว่า จริงๆแล้วสิ่งที่ดิวทำเนี่ยเหมือนจะทำเพื่อตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่มากกว่า (ซึ่งดูเหมือนจะเยอะไปสำหรับคำว่าเพื่อนในบางครั้ง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ผู้เขียนก็ไม่แปลกใจที่ว่าทำไม ดอน ถึงตกหลุมรักเข้ากับ ดิว .......ก็คนมันอกหักนี่หว่า มันเคว้งนะ!!
3. จะตลกก็ไปไม่สุด
ถ้าผู้เขียนไม่ได้ดูตัวอย่างหนังมาก่อน ฉากนั้นๆจะฮากระจายครับ แต่มันอยู่ในตัวอย่างหนังไปแล้วซะส่วนใหญ่หนะซี้ อันนี้คงจะเป็นการตลาดของหนัง โดยความตลกจริงๆที่ได้หรือการที่ได้อมยิ้มอารมณ์แบบฟิวกู๊ดนิดๆ ผู้เขียนมองว่ามาจากการที่ได้นักแสดงมากฝีมือมาช่วยหนุนที่ทำให้หนังน่าดูน่าตลกขึ้นมา (มากๆด้วย)
4. ความยืดดดดดดดด
ใช่แล้วครับ ความเวิ่นเว้อของหนังที่ยาวเกินไปที่มากเกินไป พูดง่ายๆคือการที่หนังไปเรื่อยๆหรือยืดหนังให้ยาวออกไปเพื่อจะให้จบแบบเท่ๆหรือจบแบบแฮปปี้ ซึ่งมันมีหลายๆฉากที่ถ้าจบตอนนี้ มันอาจจะดีกว่าการจบแบบในหนังจริงๆก็ได้ แต่เหมือนว่าหนังอยากจะใส่ ใส่ๆๆ อะไรลงไปเยอะมาก จนหนังออกมาดูเยอะเกินไป
แต่ไม่ใช่ว่าหนังจะมีแต่ข้อเสียซะอย่างเดียว ข้อดีก็มีอยู่มาก
- ผู้เขียนชอบบางฉากที่หนังสามารถดึงอารมณ์ของเราให้อินไปด้วยได้
- เสน่ห์ที่ตัวนางเอกมี ความทะเล้นปนความบ้าบอของบทดิว ที่ไม่จำเป็นต้องสวยหรือน่ารักมาก
- ดนตรีหรือเพลงในหนัง ซึ่งมันลงตัวเหมาะเจาะและสื่ออารมณ์ได้ดีมากทีเดียว (เอาไปเจ็ดกะโหลกเลย++++)
- ข้อคิดหรือคำพูดบางคำที่ได้จากหนัง ทำให้คิดตามและอาจนำมาใช้ได้จริง
คะแนนที่ได้โดยรวมอยู่ที่ 6/10 ค่อนไปทาง -
รีวิวหนังครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ
บจ.หัวใจเพชร
[CR] (CR) รีวิว มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ [ที่กลายเป็นเราที่เจ็บซะเอง]
เข้าไปด้วยความหวังที่มีมา150% ซึ่งในหัวคิดว่า ถ้าหากเราอกหักในช่วงนี้ หนังเรื่องนี้คงจะตอบโจทย์เราได้แน่นอน
ซึ่งหลังจากที่ดูเสร็จออกมาจากโรงหนัง ความคิดในหัวต่างๆก็แล่นออกมาว่า "หนังมันจะสื่อไปในทางไหน" โดยผู้เขียนจะแยกเป็นหัวข้อ
1. ตามชื่อหนัง "มิสเตอร์เฮิร์ท"
ความเฮิร์ทที่หนังตัวอย่างเหมือนจะเล่าๆมาประมาณว่า ไอพระเอกเนี่ย (ดอน สีชัง) โดนบอกเลิกจากแฟนที่เป็นนักแสดง (แอนนา) แล้วมันก็คงจะเฮิร์ทมากๆ แล้วความเฮิร์ทของมันเนี่ยจะเป็นยังไงเป็นขนาดไหนจะหลุดยังไง แต่ไม่เลยครับ เหมือนจะเป็นการ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ โดยหนังจะค่อนไปทางที่การมีตัวละครอีกตัวนึงเข้ามาแล้ว........ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. จะรักก็ยังรู้สึกแปลกๆ
แน่นอนครับ ที่ว่าแปลก นั่นคือตัวของ (ดิว) ที่อยู่ๆแม่มก็ปรากฏตัวออกมา และดูเหมือนอยากจะช่วย ดอน สีชัง ให้คืนดีกับ แอนนา (ผู้เขียนก็ลุ้นว่าหนังจะค่อนไปทางนี้มากกว่าที่ตัวอย่างหนังจะสื่อออกมา) ด้วยวิธีการมากมายหนะหรอ ไม่ใช่เลย!!!!!! ถ้าผู้เขียนเป็นตัวละครที่มองอยู่ห่างๆ ผู้เขียนจะคิดว่า จริงๆแล้วสิ่งที่ดิวทำเนี่ยเหมือนจะทำเพื่อตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่มากกว่า (ซึ่งดูเหมือนจะเยอะไปสำหรับคำว่าเพื่อนในบางครั้ง) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. จะตลกก็ไปไม่สุด
ถ้าผู้เขียนไม่ได้ดูตัวอย่างหนังมาก่อน ฉากนั้นๆจะฮากระจายครับ แต่มันอยู่ในตัวอย่างหนังไปแล้วซะส่วนใหญ่หนะซี้ อันนี้คงจะเป็นการตลาดของหนัง โดยความตลกจริงๆที่ได้หรือการที่ได้อมยิ้มอารมณ์แบบฟิวกู๊ดนิดๆ ผู้เขียนมองว่ามาจากการที่ได้นักแสดงมากฝีมือมาช่วยหนุนที่ทำให้หนังน่าดูน่าตลกขึ้นมา (มากๆด้วย)
4. ความยืดดดดดดดด
ใช่แล้วครับ ความเวิ่นเว้อของหนังที่ยาวเกินไปที่มากเกินไป พูดง่ายๆคือการที่หนังไปเรื่อยๆหรือยืดหนังให้ยาวออกไปเพื่อจะให้จบแบบเท่ๆหรือจบแบบแฮปปี้ ซึ่งมันมีหลายๆฉากที่ถ้าจบตอนนี้ มันอาจจะดีกว่าการจบแบบในหนังจริงๆก็ได้ แต่เหมือนว่าหนังอยากจะใส่ ใส่ๆๆ อะไรลงไปเยอะมาก จนหนังออกมาดูเยอะเกินไป
แต่ไม่ใช่ว่าหนังจะมีแต่ข้อเสียซะอย่างเดียว ข้อดีก็มีอยู่มาก
- ผู้เขียนชอบบางฉากที่หนังสามารถดึงอารมณ์ของเราให้อินไปด้วยได้
- เสน่ห์ที่ตัวนางเอกมี ความทะเล้นปนความบ้าบอของบทดิว ที่ไม่จำเป็นต้องสวยหรือน่ารักมาก
- ดนตรีหรือเพลงในหนัง ซึ่งมันลงตัวเหมาะเจาะและสื่ออารมณ์ได้ดีมากทีเดียว (เอาไปเจ็ดกะโหลกเลย++++)
- ข้อคิดหรือคำพูดบางคำที่ได้จากหนัง ทำให้คิดตามและอาจนำมาใช้ได้จริง
คะแนนที่ได้โดยรวมอยู่ที่ 6/10 ค่อนไปทาง -
รีวิวหนังครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ