เกิดอะไรขึ้นกับคนไทย แห่ต่อคิวกิน “คาเฟ่” ขนมหวานฟีเวอร์

“คาเฟ่” ขนมหวานฟีเวอร์  แบรนด์แข่งเดือด! ยึดตลาดเมืองไทย
วันจันทร์ 30 มกราคม 2017 3:15 pm

คาเฟ่ขนมหวานฟีเวอร์ สาวกไทยตบเท้าต่อคิวยาว จับตากระแสแรงเว่อร์ทั้งชีสเค้ก แพนเค้ก นํ้าแข็งเกล็ดหิมะ แบรนด์ดังเปิดศึกชิงพื้นที่ทำเลทองในศูนย์การค้า เร่งพัฒนาเมนู แคมเปญตลาดรับไลฟ์สไตล์

กลายเป็นปีทองของคาเฟ่ขนมหวานไปแล้ว เพราะไม่ว่าแบรนด์ใดจะเข้ามาเปิดให้บริการก็ได้รับกระแสฮิตต่อคิวซื้อยาวเหยียด เหมือนแจกฟรี พร้อมกับการแชร์โพสต์เมื่อได้มาครอบครอง และลิ้มรส วันนี้ความแรงของร้านขนมหวานแบรนด์ดังยังไม่ซา ตรงข้ามกับพาเหรดเข้ามาเปิดให้บริการพร้อมสยายปีกต่อเนื่อง โดยนายวิศรุต ศรีรัตนประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท หวานปาก จำกัด เจ้าของร้านขนมหวานแพนเค้ก คาเฟ่,แพนเค้ก เฮ้าส์ และชูครีม BAKESMITH เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เพื่อรองรับกระแสนิยมร้านขนมหวานในปัจจุบัน ร้านแพนเค้ก คาเฟ่มีแผนปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านและอัพเดทเมนูตลอดเวลา เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ลูกค้า โดยจะเปิดตัวเมนูใหม่อย่างน้อย 1 เมนูในทุก 1-2 เดือน พร้อมกับการจัดแคมเปญโปรโมชันตามฤดูกาล เพื่อกระตุ้นและสร้างสีสันหลังจากที่พบว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งแบรนด์ไทยและอินเตอร์แบรนด์เข้ามาจำนวนมากส่งผลให้มีการแข่งขันสูงขึ้น

“ในช่วงแรกบริษัทวางกลุ่มเป้าหมายหลักไว้คือกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ แต่ทว่าเมื่อมีการเปิดตัวจริงจังพบว่ากลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหลักเป็นแม่บ้านที่มีอายุตั้งแต่ 40-50 ปี ดังนั้นทางแบรนด์จึงมีการสร้างกิจกรรมทางการตลาด และโปรโมชันเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย”

ปีนี้บริษัทจะทยอยรีโนเวตสาขาเดิมของร้านแพนเค้ก คาเฟ่ และแพนเค้ก เฮ้าส์ ทั้ง 10 แห่ง เพื่อให้ภาพลักษณ์สดใหม่ ทันสมัยมากขึ้น ภายใต้งบลงทุน 3-4 ล้านบาทต่อสาขา เริ่มต้นจากสาขาสยามพารากอน และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เปิดตัวร้านขนมแบรนด์ใหม่ในชื่อ BAKESMITH ซึ่งเป็นร้านชูครีม ที่มีการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศฝรั่งเศสเข้ามาเสริมพอร์ตแบรนด์ในเครือเพิ่มเติมด้วย

“ปีนี้จะยังไม่มีการขยายสาขาเพิ่มเติม แต่จะให้ความสำคัญกับการปรับโฉมร้านรูปแบบเพื่อให้ภาพลักษณ์สดใหม่และทันสมัยมากขึ้น และรองรับการแข่งขันในตลาดขนมหวานที่มีผู้เล่นหลากหลายและมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30-40%”

http://www.springnews.co.th/th/2017/01/20806/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่