Review : Kung Fu Yoga (นี่สิหนังเฉินหลงของจริง)
ผู้กำกับ : Stanley Tong (Police Story 3, Police Story 4, The Myth)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับ
https://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
หลังจากที่อกหักกับ Railroad Tigers ไป พอมี Kung Fu Yoga นี้มาอีกผมก็รู้สึกขยาดๆ ถึงแม้ดูตัวอย่างแล้วจะดูดีกว่าเยอะก็ตาม แต่เมื่อมีเวลาว่างไม่มีอะไรทำพอดี (หาโรงดู The Red Turtle ไม่ได้ด้วย จำกัดโรงเกิน) สุดท้ายเลยได้ดู Kung Fu Yoga จนได้ แล้วก็พบว่า “เย้ คราวนี้ตูไม่โดนหลอก 5555”
Kung Fu Yoga เล่าถึง Jack (เฉินหลง) นักโบราณคดีผู้เก่งกาจ ผู้ได้รับการติดต่อจาก Ashmita (Disha Patani) นักโบราณคดีจากอินเดียให้ตามหาขุมทรัพย์โบราณที่สืบสานไปถึงต้นตระกูลราชวงศ์ของอินเดียเลยทีเดียว Jack และลูกทีมจึงต้องออกเดินทางไปถึงทิเบต, อินเดีย และดูไบเพื่อตามหาสมบัติ ในขณะเดียวกัน Randall (Sonu Sood) ผู้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์อินเดียก็หมายตาสมบัติชิ้นนี้ไว้เช่นกัน พวก Jack จะทำสำเร็จหรือไม่ ติดตามใน Kung Fu Yoga ครับ
Kung Fu Yoga ก็เป็นหนังตามสูตรของเฉินหลงครับ คือเป็นแนวบู๊ปนฮา เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ทีมงานสร้างดูทุ่มทุนและตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีครับ งานสร้างดูอลังการ มีโลเคชั่นสวยๆหลายแห่งซึ่งไปถ่ายทำกันหลายที่ในโลกเลยทีเดียว อีกทั้งหนังยังมีฉากบู๊ที่หนักแน่นสวยงาม ทั้งตัวเฉินหลงและนักแสดงสมทบชาวอินเดียต่างก็สอบผ่านหมดในเรื่องนี้ครับ (หนังมีฉากไล่ล่าด้วย Super Car สไตล์ Fast ด้วย ซึ่งถ่ายทำได้ดีเกินคาดเลยทีเดียว) เรื่องของมุกตลกก็สอบผ่านเช่นกัน มีทั้งมุกขำแบบ feel good น่ารักๆและมุกฮาแตกไปเลยก็มี และยังไม่ค่อยมีมุกทะลึ่งตึงตังหรือมุกตลกร้ายอีกด้วย ผมเห็นหลายบ้านพาคุณพ่อคุณแม่มาดูก็สามารถบันเทิงกันได้ทั้งครอบครัวครับ และในช่วงท้ายเรื่อง หนังก็บิดไปกลายเป็นการหาสมบัติสไตล์ Indiana Jones และ Uncharted ซึ่งก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว (มีการ Pay Homage แบบใหม่ด้วย คือพูดชื่อ Indiana Jones ออกมาเลย 5555)
ถึงอย่างไรก็ตามหนังก็ไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟคท์ครับ ซึ่งข้อเสียก็คงพอเดาๆกันได้ คือเรื่องความสมเหตุสมผล และเรื่องของตัวละครที่ยังขาดความลึกซึ้ง บางตัวก้มีค่าแค่มาสวยหล่อออกจอเป็นอาหารตาเท่านั้นครับ หนังยังมีการตัดต่อที่แปลกๆประดักประเดิดหน่อย บางจุดรู้สึกว่าตัดข้ามเสียด้วยซ้ำในช่วงแรกๆ แต่ช่วงหลังๆดีขึ้น ขอติอีกสักอย่าง คือรู้สึกหนังมัน Feel Good โลกสวยเกินไปนี้ด เหมือนมาต่อยกันเอาท่าสวยๆแล้วสุดท้ายก็ดีกันง่ายๆเกินไปชอบกล Conflict มันขาดเนื้อหนังไปนิดครับ แต่เอาเถอะ หากไม่คิดมาก มันก็ให้ความสนุกบันเทิงได้ดีนะ
สรุป : ผมว่าสนุกกว่า xXx อีก ถือเป็นหนังเฉินหลงตามสูตรที่ทำออกมาได้ดีเรื่องนึงเลยครับ บันเทิงดีใช้ได้เลย
คะแนน : ให้ 7.5/10 (B+), ชอบ ครับ
[CR] Review : Kung Fu Yoga (นี่สิหนังเฉินหลงของจริง)
ผู้กำกับ : Stanley Tong (Police Story 3, Police Story 4, The Myth)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับhttps://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
หลังจากที่อกหักกับ Railroad Tigers ไป พอมี Kung Fu Yoga นี้มาอีกผมก็รู้สึกขยาดๆ ถึงแม้ดูตัวอย่างแล้วจะดูดีกว่าเยอะก็ตาม แต่เมื่อมีเวลาว่างไม่มีอะไรทำพอดี (หาโรงดู The Red Turtle ไม่ได้ด้วย จำกัดโรงเกิน) สุดท้ายเลยได้ดู Kung Fu Yoga จนได้ แล้วก็พบว่า “เย้ คราวนี้ตูไม่โดนหลอก 5555”
Kung Fu Yoga เล่าถึง Jack (เฉินหลง) นักโบราณคดีผู้เก่งกาจ ผู้ได้รับการติดต่อจาก Ashmita (Disha Patani) นักโบราณคดีจากอินเดียให้ตามหาขุมทรัพย์โบราณที่สืบสานไปถึงต้นตระกูลราชวงศ์ของอินเดียเลยทีเดียว Jack และลูกทีมจึงต้องออกเดินทางไปถึงทิเบต, อินเดีย และดูไบเพื่อตามหาสมบัติ ในขณะเดียวกัน Randall (Sonu Sood) ผู้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์อินเดียก็หมายตาสมบัติชิ้นนี้ไว้เช่นกัน พวก Jack จะทำสำเร็จหรือไม่ ติดตามใน Kung Fu Yoga ครับ
Kung Fu Yoga ก็เป็นหนังตามสูตรของเฉินหลงครับ คือเป็นแนวบู๊ปนฮา เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ทีมงานสร้างดูทุ่มทุนและตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีครับ งานสร้างดูอลังการ มีโลเคชั่นสวยๆหลายแห่งซึ่งไปถ่ายทำกันหลายที่ในโลกเลยทีเดียว อีกทั้งหนังยังมีฉากบู๊ที่หนักแน่นสวยงาม ทั้งตัวเฉินหลงและนักแสดงสมทบชาวอินเดียต่างก็สอบผ่านหมดในเรื่องนี้ครับ (หนังมีฉากไล่ล่าด้วย Super Car สไตล์ Fast ด้วย ซึ่งถ่ายทำได้ดีเกินคาดเลยทีเดียว) เรื่องของมุกตลกก็สอบผ่านเช่นกัน มีทั้งมุกขำแบบ feel good น่ารักๆและมุกฮาแตกไปเลยก็มี และยังไม่ค่อยมีมุกทะลึ่งตึงตังหรือมุกตลกร้ายอีกด้วย ผมเห็นหลายบ้านพาคุณพ่อคุณแม่มาดูก็สามารถบันเทิงกันได้ทั้งครอบครัวครับ และในช่วงท้ายเรื่อง หนังก็บิดไปกลายเป็นการหาสมบัติสไตล์ Indiana Jones และ Uncharted ซึ่งก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว (มีการ Pay Homage แบบใหม่ด้วย คือพูดชื่อ Indiana Jones ออกมาเลย 5555)
ถึงอย่างไรก็ตามหนังก็ไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟคท์ครับ ซึ่งข้อเสียก็คงพอเดาๆกันได้ คือเรื่องความสมเหตุสมผล และเรื่องของตัวละครที่ยังขาดความลึกซึ้ง บางตัวก้มีค่าแค่มาสวยหล่อออกจอเป็นอาหารตาเท่านั้นครับ หนังยังมีการตัดต่อที่แปลกๆประดักประเดิดหน่อย บางจุดรู้สึกว่าตัดข้ามเสียด้วยซ้ำในช่วงแรกๆ แต่ช่วงหลังๆดีขึ้น ขอติอีกสักอย่าง คือรู้สึกหนังมัน Feel Good โลกสวยเกินไปนี้ด เหมือนมาต่อยกันเอาท่าสวยๆแล้วสุดท้ายก็ดีกันง่ายๆเกินไปชอบกล Conflict มันขาดเนื้อหนังไปนิดครับ แต่เอาเถอะ หากไม่คิดมาก มันก็ให้ความสนุกบันเทิงได้ดีนะ
สรุป : ผมว่าสนุกกว่า xXx อีก ถือเป็นหนังเฉินหลงตามสูตรที่ทำออกมาได้ดีเรื่องนึงเลยครับ บันเทิงดีใช้ได้เลย
คะแนน : ให้ 7.5/10 (B+), ชอบ ครับ