จะว่าไปแล้วหนังของเฉินหลงไม่เคยห่างหายจากจอภาพยนตร์บ้านเรา ปีที่แล้ว (2016) นอกจาก Skiptrace ที่แสดงร่วมกับ จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ แล้ว ยังมีมาพากย์เสียงใน Kung Fu Panda 3 อีกด้วย ปีก่อนหน้านั้น (2015) ก็มี Dragon Blade ที่มีนักแสดงชั้นนำอย่าง จอห์น คูแสค และเอเดียน โบรดี้ ร่วมแสดงด้วย สำหรับปีนี้เปิดต้นปีด้วย Railroad Tigers ได้ไม่ทันไรพอปลายเดือนก็มี Kung Fu Yoga “โยคะ สู้ ฟัด” ตามมาอีก และยังมีโปรแกรมในปีนี้อีกอย่างน้อย 2 เรื่อง เรียกได้ว่าแฟน ๆ เฉินหลงได้ดูกันอย่างจุใจ
แต่ก็นั่นแหละ หลายคนอาจจะสงสัยว่า เฉินหลง แก่เกินไปหรือยังสำหรับการทำงานหนังแอ๊คชั่นมากมายขนาดนี้
ถ้าดูเฉพาะตัวเลข 64 ปีนับว่าเป็นคนแก่แต่ในอีกมุมหนึ่งประสบการณ์ที่ยาวนานในโลกภาพยนตร์ทำให้เฉินหลงได้กลายเป็นคนแก่ที่มีคุณภาพ จริงอยู่ที่หนังแอ๊คชั่นต้องพึ่งพาความคล่องแคล่วของร่างกายซึ่งสังขารของเฉินหลงได้เสื่อมถอยตามกาลเวลา แต่เขาเลือกที่จะใช้ประโยชน์จากวัยในการสร้างสรรค์ผลงานหลายรูปแบบ (เฉินหลงมีส่วนร่วมในหนังทุกเรื่องที่เขาแสดงแม้จะไม่ได้เป็นผู้กำกับก็ตาม) สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการสร้างทีมนักแสดง หนังแอ๊คชั่นของเฉินหลงในระยะหลังจึงไม่ได้มีเขาเป็นวันแมนโชว์อีกต่อไป
อย่างเช่นผลงานล่าสุดคือ Kung Fu Yoga นอกจากเฉินหลงในบทนำแล้ว ก็ยังมีกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่มาเสริมทัพ ที่พิเศษไปกว่านั้น Kung fu Yoga มีนักแสดงจากต่างประเทศมาร่วมแสดง จากชื่อเรื่องที่บอกอยู่แล้วว่า “โยคะ สู้ ฟัด” นักแสดงจากต่างประเทศเหล่านั้นจึงเป็นชาวอินเดีย สมกับชื่อเรื่องและการเลือกใช้อินเดียเป็นโลเคชั่นหลัก
ถ้าได้ดูจากตัวอย่างหนังจะเห็นได้ว่าหนังของเฉินหลงยังคงเป็นหนังแอ๊คชั่นที่ฉับไวเช่นเดิม อายุที่มากขึ้นของเขาเป็นแค่เพียงตัวเลขและปรับการทำงานเพียงนิดหน่อย ทุกวันนี้อาจจะไม่มีฉากเสี่ยงตายด้วยตัวเองอย่างที่เคยเห็นใน เอไกหว่า หรือ วิ่ง สู้ ฟัด แต่ถูกทดแทนด้วยการตัดต่อที่ฉับไว คิวบู๊ที่สร้างสรรค์และมุกตลกที่มากขึ้น ภาพรวมหนังของเฉินหลงจึงยังไม่เปลี่ยนไป แฟนรุ่นเก่ายังคงรักและติดตามผลงานของเขาอยู่ ในขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ยังให้การยอมรับในการเป็นแอ๊คชั่นซูเปอร์สตาร์ของเขา
คำถามที่ว่าเฉินหลงแก่แล้วหรือยังคำตอบคือ ใช่ เฉินหลง แก่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการทำหนังของเขาเลย
สัปดาห์หน้ามาพิสูจน์กันในหนังเรื่องล่าสุดของเขา Kung Fu Yoga โยคะ สู้ ฟัด
แก่แค่ไหนก็ยังมีไฟอยู่
เฉินหลง แก่แล้วหรือยัง?
จะว่าไปแล้วหนังของเฉินหลงไม่เคยห่างหายจากจอภาพยนตร์บ้านเรา ปีที่แล้ว (2016) นอกจาก Skiptrace ที่แสดงร่วมกับ จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ แล้ว ยังมีมาพากย์เสียงใน Kung Fu Panda 3 อีกด้วย ปีก่อนหน้านั้น (2015) ก็มี Dragon Blade ที่มีนักแสดงชั้นนำอย่าง จอห์น คูแสค และเอเดียน โบรดี้ ร่วมแสดงด้วย สำหรับปีนี้เปิดต้นปีด้วย Railroad Tigers ได้ไม่ทันไรพอปลายเดือนก็มี Kung Fu Yoga “โยคะ สู้ ฟัด” ตามมาอีก และยังมีโปรแกรมในปีนี้อีกอย่างน้อย 2 เรื่อง เรียกได้ว่าแฟน ๆ เฉินหลงได้ดูกันอย่างจุใจ
แต่ก็นั่นแหละ หลายคนอาจจะสงสัยว่า เฉินหลง แก่เกินไปหรือยังสำหรับการทำงานหนังแอ๊คชั่นมากมายขนาดนี้
ถ้าดูเฉพาะตัวเลข 64 ปีนับว่าเป็นคนแก่แต่ในอีกมุมหนึ่งประสบการณ์ที่ยาวนานในโลกภาพยนตร์ทำให้เฉินหลงได้กลายเป็นคนแก่ที่มีคุณภาพ จริงอยู่ที่หนังแอ๊คชั่นต้องพึ่งพาความคล่องแคล่วของร่างกายซึ่งสังขารของเฉินหลงได้เสื่อมถอยตามกาลเวลา แต่เขาเลือกที่จะใช้ประโยชน์จากวัยในการสร้างสรรค์ผลงานหลายรูปแบบ (เฉินหลงมีส่วนร่วมในหนังทุกเรื่องที่เขาแสดงแม้จะไม่ได้เป็นผู้กำกับก็ตาม) สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการสร้างทีมนักแสดง หนังแอ๊คชั่นของเฉินหลงในระยะหลังจึงไม่ได้มีเขาเป็นวันแมนโชว์อีกต่อไป
อย่างเช่นผลงานล่าสุดคือ Kung Fu Yoga นอกจากเฉินหลงในบทนำแล้ว ก็ยังมีกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่มาเสริมทัพ ที่พิเศษไปกว่านั้น Kung fu Yoga มีนักแสดงจากต่างประเทศมาร่วมแสดง จากชื่อเรื่องที่บอกอยู่แล้วว่า “โยคะ สู้ ฟัด” นักแสดงจากต่างประเทศเหล่านั้นจึงเป็นชาวอินเดีย สมกับชื่อเรื่องและการเลือกใช้อินเดียเป็นโลเคชั่นหลัก
ถ้าได้ดูจากตัวอย่างหนังจะเห็นได้ว่าหนังของเฉินหลงยังคงเป็นหนังแอ๊คชั่นที่ฉับไวเช่นเดิม อายุที่มากขึ้นของเขาเป็นแค่เพียงตัวเลขและปรับการทำงานเพียงนิดหน่อย ทุกวันนี้อาจจะไม่มีฉากเสี่ยงตายด้วยตัวเองอย่างที่เคยเห็นใน เอไกหว่า หรือ วิ่ง สู้ ฟัด แต่ถูกทดแทนด้วยการตัดต่อที่ฉับไว คิวบู๊ที่สร้างสรรค์และมุกตลกที่มากขึ้น ภาพรวมหนังของเฉินหลงจึงยังไม่เปลี่ยนไป แฟนรุ่นเก่ายังคงรักและติดตามผลงานของเขาอยู่ ในขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ยังให้การยอมรับในการเป็นแอ๊คชั่นซูเปอร์สตาร์ของเขา
คำถามที่ว่าเฉินหลงแก่แล้วหรือยังคำตอบคือ ใช่ เฉินหลง แก่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการทำหนังของเขาเลย
สัปดาห์หน้ามาพิสูจน์กันในหนังเรื่องล่าสุดของเขา Kung Fu Yoga โยคะ สู้ ฟัด
แก่แค่ไหนก็ยังมีไฟอยู่