สวัสดีค่ะ กิ๊บจาก
www.fallenforadventure.com นะคะ วันนี้เราจะพาไปเที่ยวมาชู ปิกชู กันค่ะ
มาชู ปิกชู (Machu Picchu) เชื่อว่าอยู่ใน Bucket List อันดับต้นๆของใครหลายคน รวมถึงตัวเราด้วย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นหลักฐานสำคัญของอาณาจักรอินคา ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ การวางแผนพังที่ดีในการสร้างเมือง ความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม เกษตรกรรม และด้านดาราศาสตร์ของชาวอินคา โดยที่แห่งนี้ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกของ UNESCO และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย
Machu Picchu คืออาณาจักรของชาวอินคา ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงของเทือกเขาแอนดีส (Andes) อยู่ประมาณ 8,000 ฟุตเหนือน้ำทะเล เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเมื่อปีศตวรรษที่ 15 (15th century) เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของเจ้าหรือเป็นที่ทำพิธีทางศาสนา อย่างไรก็ตามยังมีปริศนาอีกหลายๆอย่างของ Machu Picchu ที่ยังนักประวัติศาสตร์ก็ยังไม่สามารถ resolve ได้จนถึงปัจจุบัน
ขอขอบคุณรูปภาพจาก WWW.MACHUPICCHUBOOK.COM ที่แสดงให้เห็นรายละเอียดของผังเมือง MACHU PICCHU ในอดีต
การจะไปเที่ยว Machu Picchu นั้น ขั้นแรกเราจะต้องเดินทางไปลิม่า (Lima) เมืองหลวงของเปรูซะก่อน เพื่อต่อเครื่องไปยังเมืองคุสโค (Cusco) ซึ่งใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม. 20 นาที
วิวบนเครื่องบินที่เราถ่ายจากมือถือ
Tip: เลือกนั่งด้านซ้ายของเครื่องบินเพื่อจะได้ดูวิวเทีอกเขาที่ปลกคลุมไปด้วยหิมะ สวยงามเกือบตลอดทางเลยค่ะ
หลักจากที่เราถึง Cusco แล้ว เราแนะนำว่าควรไปขึ้นรถไฟเพื่อตรงไปที่ Machu Picchu เลย ซึ่งเราจะต้องไปลงสถานี Aguas Calientes ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับ Machu Picchu มากที่สุดค่ะ สาเหตุที่เราแนะนำให้ไป Machu Picchu เลยเพราะว่า Cusco นั้นตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,000 ฟุต แต่ Aguas Calientes นั้นอยู่สูงจากน้ำทะเล 6,700 ฟุต หลายๆคนอาจจะมีอาการ Altitude Sickness หน้ามืด หายใจไม่ออก เราจึงค่อยๆไต่ระดับให้ร่างกายได้มีเวลาปรับระดับ (Acclimatization) ด้วยเพื่อความปลอดภัยค่ะ
Tip: มียากินสำหรับ Altitude Sickness ด้วย เพื่อนๆควรเตรียมไป เผื่อใครเป็นมากจะได้กินยาได้ทันค่ะ ส่วนตัวเรา หมอให้ยาปรับระดับก่อนไปเลย ต้องกินก่อนไปสักอาทิตย์นึง ไปถึงเราเลยไม่มีอาการเลยค่ะ
คนท้องถิ่นเชื่อว่าใบโคคาช่วยลดอาการ ALTITUDE SICKNESS ได้ เพราะฉะนั้นตามโรงแรมส่วนใหญ่ก็จะมีบริการให้แขกที่เข้ามาพักได้ลองชิม
กลับมาที่การเดินทาง รถไฟที่จะไป Aguas Calientes นั้นมีด้วยกัน 2 เจ้า คือ Peru Rail กับ Inca Rail พวกเรานั่ง Peru Rail Expedition Train คือรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
ด้านในรถไฟ PERU RAIL เป็นกระจกรอบด้านเพื่อให้มองเห็นวิวทิวศัทน์ตลอดเส้นทาง
วิวระหว่างทาง
เมือง Aguas Calientes อย่างที่บอกว่าเป็นเมืองที่ใกล้ Machu Picchu ที่สุด เพราะฉะนั้นโรงแรม ร้านอาหารอะไรจะอยู่ที่นี่หมด จากเมืองนี้เราต้องนั่งบัสขึ้นไป Machu Picchu ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที เราแนะนำว่าควรไปรถที่ออกรอบเช้าที่สุดเลย เพื่อวิวแบบไร้ผู้คนตอนเช้า ไม่ต้องเบียดกับใคร
ลามา สัตว์ประจำชาติเปรู มีเดินอยู่ทั่วบริเวณ MACHU PICCHU เลยค่ะ
นอกจากการเดินเที่ยวรอบๆ Machu Picchu แล้ว คนที่พอร่างกายพอจะฟิตเราขอแนะนำว่าควรจะไปปีน Huayna Picchu หรือ Wayna Picchu ซึ่งคือภูเขาด้านหลัง Machu Picchu เพื่อจะได้เห็นวิว Machu Picchu จากด้านบนซึ่งสวยมากๆ แต่ว่าทางขึ้นชันจริงๆ แล้วยิ่งที่สูง อากาศบางๆ หายใจค่อนข้างยาก ทำให้การเดิน/ปีนขึ้นนั้นค่อนข้างท้าทาย แต่วิวด้านบนคุ้มค่าจริงๆค่ะ
อันนี้ควรต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าสัก 2-3 เดือน โดยเฉพาะช่วง High Season หรือ Weekend เพราะเค้ามีโควต้าวันละ 400 คน รอบเช้า 200 คน และรอบสาย 200 คน เราเลือกไปรอบเช้าเพราะอากาศเย็นๆกำลังดี เวลาเดินขึ้นไม่ร้อนเกินไป
ทางเดินขึ้น HUAYNA PICCHU
คนกลัวความสูงต้องทำใจหน่อยนะคะ
ถึงแล้ว ดีใจมาก
วิวรอบๆด้าน
คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆ เพื่อนๆเห็นถนนด้านซ้ายไม๊คะ อันนั้นคือทางรถบัสขับขึ้นมาที่ MACHU PICCHU ซิกแซกมากๆ คนอินคานี่เก่งจริงๆขึ้นมาสร้างเมืองบนนี้
บนยอดสุดของ HUAYNA PICCHU
จะบอกว่าสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ไม่ชอบ Plan Trip ไม่ชอบจองโน้นนี่เอง เรามีบริษัททัวร์ที่เราใช้มาแนะนำ คือเค้าเป็น Personalized Tour จัดให้ตามความต้องการของแต่ละคนเลย คือดีมาก เพราะเราเวลาลงจากเครื่องบินก็จะมีคน มีรถของเค้ามารอรับไปเที่ยว ไปโรงแรม ไม่ต้องมานั่งหาแท๊กซี่ ต่อรองราคา คือทุกวันมีคนมาช่วยจัดการให้หมดเลย เพราะพวกเราไม่มีใครพูด Spanish ได้เลย อันนี้เลยจะช่วยได้มากสุดๆ
ถ้าใครสนใจ สอบถามได้ที่
fallenforadventure@gmail.com ได้เลยค่ะ สำหรับ Fan Page Fallenforadventure บริษัททัวร์บอกจะให้ราคาพิเศษด้วยนะ
เดี๋ยวตอนหน้าไปเที่ยวอีกที่ที่พิเศษมากในเปรูกันค่ะ
[CR] มาชู ปิกชู (Machu Picchu) หลักฐานที่สำคัญของอารยธรรมอินคา
มาชู ปิกชู (Machu Picchu) เชื่อว่าอยู่ใน Bucket List อันดับต้นๆของใครหลายคน รวมถึงตัวเราด้วย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นหลักฐานสำคัญของอาณาจักรอินคา ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ การวางแผนพังที่ดีในการสร้างเมือง ความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม เกษตรกรรม และด้านดาราศาสตร์ของชาวอินคา โดยที่แห่งนี้ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกของ UNESCO และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย
Machu Picchu คืออาณาจักรของชาวอินคา ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงของเทือกเขาแอนดีส (Andes) อยู่ประมาณ 8,000 ฟุตเหนือน้ำทะเล เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเมื่อปีศตวรรษที่ 15 (15th century) เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของเจ้าหรือเป็นที่ทำพิธีทางศาสนา อย่างไรก็ตามยังมีปริศนาอีกหลายๆอย่างของ Machu Picchu ที่ยังนักประวัติศาสตร์ก็ยังไม่สามารถ resolve ได้จนถึงปัจจุบัน
การจะไปเที่ยว Machu Picchu นั้น ขั้นแรกเราจะต้องเดินทางไปลิม่า (Lima) เมืองหลวงของเปรูซะก่อน เพื่อต่อเครื่องไปยังเมืองคุสโค (Cusco) ซึ่งใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม. 20 นาที
Tip: เลือกนั่งด้านซ้ายของเครื่องบินเพื่อจะได้ดูวิวเทีอกเขาที่ปลกคลุมไปด้วยหิมะ สวยงามเกือบตลอดทางเลยค่ะ
หลักจากที่เราถึง Cusco แล้ว เราแนะนำว่าควรไปขึ้นรถไฟเพื่อตรงไปที่ Machu Picchu เลย ซึ่งเราจะต้องไปลงสถานี Aguas Calientes ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับ Machu Picchu มากที่สุดค่ะ สาเหตุที่เราแนะนำให้ไป Machu Picchu เลยเพราะว่า Cusco นั้นตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,000 ฟุต แต่ Aguas Calientes นั้นอยู่สูงจากน้ำทะเล 6,700 ฟุต หลายๆคนอาจจะมีอาการ Altitude Sickness หน้ามืด หายใจไม่ออก เราจึงค่อยๆไต่ระดับให้ร่างกายได้มีเวลาปรับระดับ (Acclimatization) ด้วยเพื่อความปลอดภัยค่ะ
Tip: มียากินสำหรับ Altitude Sickness ด้วย เพื่อนๆควรเตรียมไป เผื่อใครเป็นมากจะได้กินยาได้ทันค่ะ ส่วนตัวเรา หมอให้ยาปรับระดับก่อนไปเลย ต้องกินก่อนไปสักอาทิตย์นึง ไปถึงเราเลยไม่มีอาการเลยค่ะ
กลับมาที่การเดินทาง รถไฟที่จะไป Aguas Calientes นั้นมีด้วยกัน 2 เจ้า คือ Peru Rail กับ Inca Rail พวกเรานั่ง Peru Rail Expedition Train คือรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
เมือง Aguas Calientes อย่างที่บอกว่าเป็นเมืองที่ใกล้ Machu Picchu ที่สุด เพราะฉะนั้นโรงแรม ร้านอาหารอะไรจะอยู่ที่นี่หมด จากเมืองนี้เราต้องนั่งบัสขึ้นไป Machu Picchu ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที เราแนะนำว่าควรไปรถที่ออกรอบเช้าที่สุดเลย เพื่อวิวแบบไร้ผู้คนตอนเช้า ไม่ต้องเบียดกับใคร
นอกจากการเดินเที่ยวรอบๆ Machu Picchu แล้ว คนที่พอร่างกายพอจะฟิตเราขอแนะนำว่าควรจะไปปีน Huayna Picchu หรือ Wayna Picchu ซึ่งคือภูเขาด้านหลัง Machu Picchu เพื่อจะได้เห็นวิว Machu Picchu จากด้านบนซึ่งสวยมากๆ แต่ว่าทางขึ้นชันจริงๆ แล้วยิ่งที่สูง อากาศบางๆ หายใจค่อนข้างยาก ทำให้การเดิน/ปีนขึ้นนั้นค่อนข้างท้าทาย แต่วิวด้านบนคุ้มค่าจริงๆค่ะ
อันนี้ควรต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าสัก 2-3 เดือน โดยเฉพาะช่วง High Season หรือ Weekend เพราะเค้ามีโควต้าวันละ 400 คน รอบเช้า 200 คน และรอบสาย 200 คน เราเลือกไปรอบเช้าเพราะอากาศเย็นๆกำลังดี เวลาเดินขึ้นไม่ร้อนเกินไป
จะบอกว่าสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ไม่ชอบ Plan Trip ไม่ชอบจองโน้นนี่เอง เรามีบริษัททัวร์ที่เราใช้มาแนะนำ คือเค้าเป็น Personalized Tour จัดให้ตามความต้องการของแต่ละคนเลย คือดีมาก เพราะเราเวลาลงจากเครื่องบินก็จะมีคน มีรถของเค้ามารอรับไปเที่ยว ไปโรงแรม ไม่ต้องมานั่งหาแท๊กซี่ ต่อรองราคา คือทุกวันมีคนมาช่วยจัดการให้หมดเลย เพราะพวกเราไม่มีใครพูด Spanish ได้เลย อันนี้เลยจะช่วยได้มากสุดๆ
ถ้าใครสนใจ สอบถามได้ที่fallenforadventure@gmail.com ได้เลยค่ะ สำหรับ Fan Page Fallenforadventure บริษัททัวร์บอกจะให้ราคาพิเศษด้วยนะ
เดี๋ยวตอนหน้าไปเที่ยวอีกที่ที่พิเศษมากในเปรูกันค่ะ
Facebook: www.facebook.com/fallenforadventure
Instagram: FallenForAdventure
Instagram: Prangvadee