คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ข้อแรก "การสมมติฐานต้องตั้งอยู่บนหลักฐานจริง"
1. คนไทยมีแปดขา
2. สมชายเป็นคนไทย
จาก (1) และ (2.) จะสรุปได้ว่า "สมชายมีแปดขา
คณิตศาสตร์ใช้ในการพิสูจน์ความจริงทางฟิสิกส์ได้ "ก็ต่อเมื่อมันตั้งอยู่บนหลักฐานที่เราตรวจสอบแล้วว่าจริง"
ถ้ามโนมาจากสุญญกาศอย่างเดียวโดยไม่ได้ไปตรวจสอบว่าสมมติฐานมันจริงไหม ไม่ได้ไปดูว่าคนไทยมีแปดขาจริงไหม มันก็จริงอยู่แค่ในโลกในจินตนาการ
จากลิ๊งค์จะพูดว่า "Property is positive ifft it is possessed by every God-like being"
"สมบัติเป็นบวก ก็ต่อเมื่อพระเจ้ามีสมบัติ"
ทำไม? จริงๆนี่ไม่ใช่อะไร นี่มันเป็นทริก ที่จะแอบลัดขั้นตอน เพื่อเอาพระเจ้าไปใส่ในสมการ เพื่อจะแอบข้ามขั้นพิสูจน์ว่าพระเจ้ามีจริงไปเลย
เพราะจริงๆแล้ว ข้อนี้เป็นการแอบผูกว่า "ถ้าสมบัติที่เป็นบวกมีจริง พระเจ้าก็ต้องมีจริง (เพื่อมามีสมบัตินั้น) และถ้าไม่มีพระเจ้าจะมีสมบัติที่เป็นบวกไม่ได้ (เพราะฉันแอบนิยามว่าต้องมีพระเจ้ามามีสมบัตินั้น ถึงจะนับว่ามันเป็นสมบัติบวก)"
เสร็จแล้วก็ไปทำเรื่องอื่นเพื่อบอกว่า "จักรวาลนี้มีสมบัติเป็นบวก"
ซึ่งตรงนี้จะไปพิสูจน์อะไรก็ได้ หรือไปยกทฤษฎีอื่นอะไร(ที่มีจริงด้วยซ้ำ)มาก็ได้
แล้วก็แอบลัดว่า "นั่นไง ถ้าโลกนี้ต้องมีสมบัติบวก และสมบัติบวกจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีพระเจ้า(ซึ่งเป็นยาพิษที่ฉันแอบผูกไว้เอง) ก็แสดงว่าพระเจ้ามีความจำเป็นต่อการมีจักรวาล แสดงว่าพระเจ้ามีจริง"
ข้อสอง "การสมมติฐานต้องตั้งอยู่บนหลักฐานจริง"
มาบอกว่า "ทุกสมบัติบวกต้องมีในพระเจ้า" .... มีงานวิจัยวิทยาศาสตร์ไหนว่าเป็นงั้น?
ผมพูดว่า "ทุกสมบัติบวกต้องมีในโดเรมอน" ได้ไหม?
...เย้... ผมพิสจน์ได้แล้วว่าโดเรมอนมีจริง
เนี่ย
ไอ้ข้อที่ว่า "ทุกสมบัติบวกต้องมีในพระเจ้า" มันก็ไม่ต่างจากการพูดว่า "คนไทยมีแปดขา" นั่นแหละ
ถ้ามันไม่มีงานวิจัยหรืออะไรมาพิสูจน์ว่าข้อนี้จริง มันก็คือคุณตั้งการพิสูจน์ทั้งหมดของคุณบนข้อมูลที่ไม่จริง
1. คนไทยมีแปดขา
2. สมชายเป็นคนไทย
จาก (1) และ (2.) จะสรุปได้ว่า "สมชายมีแปดขา
คณิตศาสตร์ใช้ในการพิสูจน์ความจริงทางฟิสิกส์ได้ "ก็ต่อเมื่อมันตั้งอยู่บนหลักฐานที่เราตรวจสอบแล้วว่าจริง"
ถ้ามโนมาจากสุญญกาศอย่างเดียวโดยไม่ได้ไปตรวจสอบว่าสมมติฐานมันจริงไหม ไม่ได้ไปดูว่าคนไทยมีแปดขาจริงไหม มันก็จริงอยู่แค่ในโลกในจินตนาการ
จากลิ๊งค์จะพูดว่า "Property is positive ifft it is possessed by every God-like being"
"สมบัติเป็นบวก ก็ต่อเมื่อพระเจ้ามีสมบัติ"
ทำไม? จริงๆนี่ไม่ใช่อะไร นี่มันเป็นทริก ที่จะแอบลัดขั้นตอน เพื่อเอาพระเจ้าไปใส่ในสมการ เพื่อจะแอบข้ามขั้นพิสูจน์ว่าพระเจ้ามีจริงไปเลย
เพราะจริงๆแล้ว ข้อนี้เป็นการแอบผูกว่า "ถ้าสมบัติที่เป็นบวกมีจริง พระเจ้าก็ต้องมีจริง (เพื่อมามีสมบัตินั้น) และถ้าไม่มีพระเจ้าจะมีสมบัติที่เป็นบวกไม่ได้ (เพราะฉันแอบนิยามว่าต้องมีพระเจ้ามามีสมบัตินั้น ถึงจะนับว่ามันเป็นสมบัติบวก)"
เสร็จแล้วก็ไปทำเรื่องอื่นเพื่อบอกว่า "จักรวาลนี้มีสมบัติเป็นบวก"
ซึ่งตรงนี้จะไปพิสูจน์อะไรก็ได้ หรือไปยกทฤษฎีอื่นอะไร(ที่มีจริงด้วยซ้ำ)มาก็ได้
แล้วก็แอบลัดว่า "นั่นไง ถ้าโลกนี้ต้องมีสมบัติบวก และสมบัติบวกจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีพระเจ้า(ซึ่งเป็นยาพิษที่ฉันแอบผูกไว้เอง) ก็แสดงว่าพระเจ้ามีความจำเป็นต่อการมีจักรวาล แสดงว่าพระเจ้ามีจริง"
ข้อสอง "การสมมติฐานต้องตั้งอยู่บนหลักฐานจริง"
มาบอกว่า "ทุกสมบัติบวกต้องมีในพระเจ้า" .... มีงานวิจัยวิทยาศาสตร์ไหนว่าเป็นงั้น?
ผมพูดว่า "ทุกสมบัติบวกต้องมีในโดเรมอน" ได้ไหม?
...เย้... ผมพิสจน์ได้แล้วว่าโดเรมอนมีจริง
เนี่ย
ไอ้ข้อที่ว่า "ทุกสมบัติบวกต้องมีในพระเจ้า" มันก็ไม่ต่างจากการพูดว่า "คนไทยมีแปดขา" นั่นแหละ
ถ้ามันไม่มีงานวิจัยหรืออะไรมาพิสูจน์ว่าข้อนี้จริง มันก็คือคุณตั้งการพิสูจน์ทั้งหมดของคุณบนข้อมูลที่ไม่จริง
แสดงความคิดเห็น
ช่วยดูทีครับ อ่านตำราเจอนักปรัชญาเขาพิสูจน์การมีอยู่ของพระเจ้าด้วยคณิตศาสตร์ ชาวหว้ากอช่วยตรวจทานทีครับว่าถูกหรือเปล่า?
ช่วยลงรูปให้ทีครับ
http://postto.me/1i/gof