นั่งนับวันรอที่เราจะได้เจอกันอีกครั้ง และวันนั้นก็มาถึงจนได้ แต่ด้วยความงกและอยากสบายเราเลยซื้อตั๋วการบินไทยลงมิวนิก จนเลยเถิดเกิดมาหลายทริป ตอนแรกก็คิดว่าจะมารับที่มิวนิกแล้วกลับออสเตรีย แต่ความจริงคือเค้าจองตั๋วเซอร์ไพรส์ไว้หลายที่ จองไว้ก็ไปสิ!
มารอรับที่สนามบินแต่เช้าเลย เจอกันไม่ทันไร เค้าก็มากระซิบบอกว่า พรุ่งนี้เรามีไฟล์บินแต่เช้าเลยนะ ยูอยากรู้มั้ยล่ะว่าจะไปไหน (ที่แน่ๆไม่ได้บินกลับไปเวียนนาแน่นอน เพราะตั๋วบินในยุโรปบินมาเวียนนาค่อนข้างแพง นั่งรถไฟ รถบัสถูกกว่าเห็นๆ) เลยตอบไปว่า I don’t wanna know ใจเต้นตึกๆ จะพาไปไหน? พอถึงตอนเช็คอิน ต้องหลับตา ตอนจะขึ้นเครื่องก็หลับตา
ลืมตาขึ้นมาอีกที ที่นี้มันที่ไหน ลงเครื่องมาก็มีแต่คนมาถามว่าจะเข้าไปในเมืองมั้ย คนละ 15€ ที่นี้ยังอยู่ในยุโรปหรอ ยังกะอยู่บ้านเรา ลงรถทัวร์แล้วก็มีคนมาถาม สุดท้ายก็เลยหันไปถามเค้า ว่าตกลงเราอยู่ที่ไหนกัน …We are in “ROME” (เราอยู่ที่โรมกัน 2 วัน เป็น 2วันที่สุดคุ้มเพราะเดินรอบโรม ขอข้ามไปเล่าทริปซิซิเลียเลยละกัน)
จาก ROME ไป Palermo เราก็หลับตาตลอดทาง จนมารู้ก็ตอนถามเค้าเมื่อลงเครื่อง เพราะนึกไม่ออกจริงๆว่าที่นี้มันที่ไหน บินข้ามทะเลมาไกลๆ มันอยู่ส่วนไหนของยุโรปเนี้ย หลังจากลงเครื่องเรายังคงต้องไปต่อ ทริปนี้เราเช่ารถขับ 2 วัน กับบริการของ Sicilyby Car ซึ่งค่าเช่าถูกแบบ เค้าทำแล้วได้เงินหรอ เราเช่า 2 วัน จ่ายไป 14€ ค่าน้ำมันยังแพงกว่าหลายเท่า จ่ายค่าน้ำมันไปตั้ง 60€ เราพูดกันเล่นๆว่า อาจจะเป็นของมาเฟียก็ได้
Do you know Mt.Etna? tonight we will sleep here ค้นสิค่ะ “ดินแดนมาเฟีย”,”Mt.Etna”,” ซิซิเลีย” อ่ออออ wowwww คือเราเคยบอกเค้าว่าเราไม่ชอบเดินเที่ยวในเมือง ชมสถาปัตยกรรมอะไรทำนองนั้น แต่เราชอบแบบ แอดแวนเจอร์ ขึ้นป่า ขึ้นเขา เจอหมี เจอแพนด้า มันสนุกกว่าเยอะ เค้าเลยคิดว่าที่นี้น่าจะเหมาะกับเรา ซึ่งมันก็ใช่ บอกเลยว่าตลอดทริปยุโรป เราประทับใจที่นี้มากที่สุดแล้ว และอีกเหตุผลที่เค้าเลือกมาที่นี้เค้าบอกว่า น่าจะเป็นที่ที่หนาวน้อยที่สุดในยุโรปแล้วเพราะเป็นเกาะ ติดทะเล (จริงหรอ?) และที่สำคัญซิซิเลีย เป็นถิ่นของมาเฟีย เราค้นใหญ่เลย มาเฟียอิตาลี มีบางกระทู้บอก จอดรถแล้วมีคนมาเคาะให้เปิด แล้วขนของไปหมดเลย ... ยุคสมัยเปลี่ยนไป มันไม่มีแล้วมั้งงงง???
ใช้ Google Map นำทาง ขับไปตามเส้นทางไฮเวย์ วิวสองข้างทางสวยมาก หิมะตกยังไม่เยอะเท่าไหร่ ขับไปเรื่อยๆแล้วเหลือบเห็นหมู่บ้านบนยอดเขาไม่ไกลจากเส้นทางของเรา เลยถามว่าเรายังพอมีเวลาแวะมั้ย ได้สิ As you want!
เราขับออกจากไฮเวย์ เพื่อไปยังจังหวัด Enna ตามมาจากภาพหมู่บ้านบนยอดเขาที่เราเห็นระหว่างทาง
คราวนี้แหละจาก Enna ไปยัง Mt.Etna เราเลือกทางผิด จากที่ตั้งใจจะวิ่งบนทางไฮเวย์ต่อไป ดันขับไปทางธรรมดา แต่ใจเราอยากไปทางนี้ อยากชมวิวสองข้างทาง วิวสวนส้ม สวนมะกอก วิวดอกไม้ ฟาร์มแกะ สวยกว่าวิวไฮเวย์ตั้งเยอะ เราเลยบอกไปทางนี้แหละ ไม่เป็นไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า "ความหิว" ขับเว้นนี้คงหาร้านอาหารได้ยาก แต่ด้วยความโชคร้ายทั้งหมด ยังมีความโชคดีอยู่ในนั้น เมื่อเราเหลือบไปเห็นร้านอาหารร้านหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเปิดอยู่หรือเปล่า และความหิวก็ชนะทุกอย่าง ขับเข้าไปแล้วถามเจ้าของร้าน "ใช่ร้านยังเปิดอยู่" ขอบคุณพระเจ้าเป็นร้านอาหารที่เราประทับใจ และเข้าใจวิถีการทานอาหารของคนอิตาลีมากขึ้น ครอสแรกเสิร์ฟขนมปังกับชีสต์และแฮมต่างๆ พร้อมไวน์ ด้วยความหิวและไม่รู้ กินกันไปเกือบหมด แล้วเจ้าของร้านก็มาถามต่อว่า ครอสที่สองเป็นพาสต้า รับเป็นพาสต้าอะไรดี ห๊าาา มีอีกหรอ ก็ได้เอาพาสต้านี้ละกัน กินกันไปสักพัก ต้องการเมนูเนื้อเพิ่มอีกมั้ย หืมมม ยังมีอีกหรอ สุดท้ายต้องตัดใจ บอกไปว่าอิ่มแล้ว ทั้งหมดนี้เราจ่ายไป 30€ ประทับใจมาก
(แผนที่
https://goo.gl/maps/mtZo3ddCvfF2 -รูปภาพประกอบมาจากลิ้งนี้นะคะ เนื่องจากเราไปถึงมืดและหิวมาก เลยไม่ได้ถ่ายอะไรไว้ ร้านนี้ก็กลับมาดูในแผนที่เอาอีกที)
เต็มอิ่มกับอาหารอิตาลีแบบดั้งเดิม พร้อมขับรถไปยัง Mt.Etna สักที อยากรู้จริงๆมันจะเป็นยังไง ตอนกลางคืน ถนนหนทางมืดตึดตือเลย คนขับก็รีบซะจริง พาไปทางลัดซะเลย ถนนไม่ได้มีการเคลียหิมะออกจากถนน เลยเป็นน้ำแข็ง รถขับขึ้นไม่ได้ เอาไงละสิทีนี้ ทำไง ฉันจะได้ไปที่ Mt.Etna จริงๆหรอ พอตั้งสติเลยขับรถถอยหลังลงจากถนนเส้นนั้น แล้วไปใช้ถนนอีกเส้นหนึ่ง สุดท้ายเราก็มาถึงที่พักของเรา ที่พักที่ใกล้ทางขึ้น Mt.Etna บรรยากาศหนาวเหน็บ
เนื่องจากในวันนั้นพายุค่อนข้างแรง Cable Car จึงไม่สามารถเปิดให้บริการ ดังนั้นจึงอดขึ้นไปบนยอดเขา ทำได้แค่เพียงเที่ยวชมบรรยากาศรอบโรงแรม กับลมแรงๆที่พัดหิมะเข้าเต็มๆหน้า ถึงเวลาลงจากเขาแล้วละ แต่จะลงได้ยังไง Winter Chain ช่วยได้ในราคา 60€ ราคาแพงกว่าที่พักพร้อมอมหารเช้าของฉันสะอีก ช๊อคแปบ แต่เพื่อความปลอดภัยซื้อแล้วติดให้ด้วยนะคะ รูปภาพบรรยากาศที่เก็บมาได้ เป็นระหว่างทางลงจาก Mt.Etna
สุดท้ายทุกการเชื่อมต่อ และการใช้งานอินเตอร์เน็ตตลอดทริป รวมถึงยอดเขา Mt.Etna บอกเลยว่าประทับใจ อากาศหนาวเครื่องก็ไม่ดับ แต่ในขณะที่โทรศัพท์ของเราดับ ดีใจที่ตัดสินใจพกมา Tripizee Pocket WiFi for Europe
แต่ละทริป แฟนเราชอบถามถึงความประทับใจ
ทริปนี้ต้องบอกเลยว่า คนที่นี้นิสัยดี เฟรนลี่สุดๆ อย่างคุณป้าเจ้าของร้านอาหาร ออกจากครัวมาทีไร ต้องมีของติดมือมาให้เราทานทุกครั้ง , ที่โรงแรมที่เราพัก เราได้รู้จักสามีภรรยาและลูกชายสุดน่ารัก สามีเป็นคนอิตาลี ส่วนภรรยาเป็นคนรัสเซีย ภรรยาบอกว่า อากาศกำลังดี (คือเข้าใจนะคะว่ารัสเซียคงจะหนาวสุดโหด) ทริปนี้เหมาะกับการขับรถชิลล์ๆ ถ้าเป็นหน้าร้อนบรรยากาศคงสวยกว่านี้มาก แต่หน้าหนาวก็สวยไปอีกแบบ หวังว่ากระทู้ของเราจะพอเป็นไกด์แนะนำสำหรับใครที่อยากไปเที่ยวดินแดนมาเฟียซิซิเลีย ดินแดนที่ผู้คนน่ารัก
หนีร้อนไปหารัก กับเมืองน่าจะหนาวน้อยที่สุดในยุโรปตอนนี้ ที่เกาะซิซิลี อิตาลีตอนใต้
มารอรับที่สนามบินแต่เช้าเลย เจอกันไม่ทันไร เค้าก็มากระซิบบอกว่า พรุ่งนี้เรามีไฟล์บินแต่เช้าเลยนะ ยูอยากรู้มั้ยล่ะว่าจะไปไหน (ที่แน่ๆไม่ได้บินกลับไปเวียนนาแน่นอน เพราะตั๋วบินในยุโรปบินมาเวียนนาค่อนข้างแพง นั่งรถไฟ รถบัสถูกกว่าเห็นๆ) เลยตอบไปว่า I don’t wanna know ใจเต้นตึกๆ จะพาไปไหน? พอถึงตอนเช็คอิน ต้องหลับตา ตอนจะขึ้นเครื่องก็หลับตา
ลืมตาขึ้นมาอีกที ที่นี้มันที่ไหน ลงเครื่องมาก็มีแต่คนมาถามว่าจะเข้าไปในเมืองมั้ย คนละ 15€ ที่นี้ยังอยู่ในยุโรปหรอ ยังกะอยู่บ้านเรา ลงรถทัวร์แล้วก็มีคนมาถาม สุดท้ายก็เลยหันไปถามเค้า ว่าตกลงเราอยู่ที่ไหนกัน …We are in “ROME” (เราอยู่ที่โรมกัน 2 วัน เป็น 2วันที่สุดคุ้มเพราะเดินรอบโรม ขอข้ามไปเล่าทริปซิซิเลียเลยละกัน)
จาก ROME ไป Palermo เราก็หลับตาตลอดทาง จนมารู้ก็ตอนถามเค้าเมื่อลงเครื่อง เพราะนึกไม่ออกจริงๆว่าที่นี้มันที่ไหน บินข้ามทะเลมาไกลๆ มันอยู่ส่วนไหนของยุโรปเนี้ย หลังจากลงเครื่องเรายังคงต้องไปต่อ ทริปนี้เราเช่ารถขับ 2 วัน กับบริการของ Sicilyby Car ซึ่งค่าเช่าถูกแบบ เค้าทำแล้วได้เงินหรอ เราเช่า 2 วัน จ่ายไป 14€ ค่าน้ำมันยังแพงกว่าหลายเท่า จ่ายค่าน้ำมันไปตั้ง 60€ เราพูดกันเล่นๆว่า อาจจะเป็นของมาเฟียก็ได้
Do you know Mt.Etna? tonight we will sleep here ค้นสิค่ะ “ดินแดนมาเฟีย”,”Mt.Etna”,” ซิซิเลีย” อ่ออออ wowwww คือเราเคยบอกเค้าว่าเราไม่ชอบเดินเที่ยวในเมือง ชมสถาปัตยกรรมอะไรทำนองนั้น แต่เราชอบแบบ แอดแวนเจอร์ ขึ้นป่า ขึ้นเขา เจอหมี เจอแพนด้า มันสนุกกว่าเยอะ เค้าเลยคิดว่าที่นี้น่าจะเหมาะกับเรา ซึ่งมันก็ใช่ บอกเลยว่าตลอดทริปยุโรป เราประทับใจที่นี้มากที่สุดแล้ว และอีกเหตุผลที่เค้าเลือกมาที่นี้เค้าบอกว่า น่าจะเป็นที่ที่หนาวน้อยที่สุดในยุโรปแล้วเพราะเป็นเกาะ ติดทะเล (จริงหรอ?) และที่สำคัญซิซิเลีย เป็นถิ่นของมาเฟีย เราค้นใหญ่เลย มาเฟียอิตาลี มีบางกระทู้บอก จอดรถแล้วมีคนมาเคาะให้เปิด แล้วขนของไปหมดเลย ... ยุคสมัยเปลี่ยนไป มันไม่มีแล้วมั้งงงง???
ใช้ Google Map นำทาง ขับไปตามเส้นทางไฮเวย์ วิวสองข้างทางสวยมาก หิมะตกยังไม่เยอะเท่าไหร่ ขับไปเรื่อยๆแล้วเหลือบเห็นหมู่บ้านบนยอดเขาไม่ไกลจากเส้นทางของเรา เลยถามว่าเรายังพอมีเวลาแวะมั้ย ได้สิ As you want!
เราขับออกจากไฮเวย์ เพื่อไปยังจังหวัด Enna ตามมาจากภาพหมู่บ้านบนยอดเขาที่เราเห็นระหว่างทาง
คราวนี้แหละจาก Enna ไปยัง Mt.Etna เราเลือกทางผิด จากที่ตั้งใจจะวิ่งบนทางไฮเวย์ต่อไป ดันขับไปทางธรรมดา แต่ใจเราอยากไปทางนี้ อยากชมวิวสองข้างทาง วิวสวนส้ม สวนมะกอก วิวดอกไม้ ฟาร์มแกะ สวยกว่าวิวไฮเวย์ตั้งเยอะ เราเลยบอกไปทางนี้แหละ ไม่เป็นไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า "ความหิว" ขับเว้นนี้คงหาร้านอาหารได้ยาก แต่ด้วยความโชคร้ายทั้งหมด ยังมีความโชคดีอยู่ในนั้น เมื่อเราเหลือบไปเห็นร้านอาหารร้านหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเปิดอยู่หรือเปล่า และความหิวก็ชนะทุกอย่าง ขับเข้าไปแล้วถามเจ้าของร้าน "ใช่ร้านยังเปิดอยู่" ขอบคุณพระเจ้าเป็นร้านอาหารที่เราประทับใจ และเข้าใจวิถีการทานอาหารของคนอิตาลีมากขึ้น ครอสแรกเสิร์ฟขนมปังกับชีสต์และแฮมต่างๆ พร้อมไวน์ ด้วยความหิวและไม่รู้ กินกันไปเกือบหมด แล้วเจ้าของร้านก็มาถามต่อว่า ครอสที่สองเป็นพาสต้า รับเป็นพาสต้าอะไรดี ห๊าาา มีอีกหรอ ก็ได้เอาพาสต้านี้ละกัน กินกันไปสักพัก ต้องการเมนูเนื้อเพิ่มอีกมั้ย หืมมม ยังมีอีกหรอ สุดท้ายต้องตัดใจ บอกไปว่าอิ่มแล้ว ทั้งหมดนี้เราจ่ายไป 30€ ประทับใจมาก
เต็มอิ่มกับอาหารอิตาลีแบบดั้งเดิม พร้อมขับรถไปยัง Mt.Etna สักที อยากรู้จริงๆมันจะเป็นยังไง ตอนกลางคืน ถนนหนทางมืดตึดตือเลย คนขับก็รีบซะจริง พาไปทางลัดซะเลย ถนนไม่ได้มีการเคลียหิมะออกจากถนน เลยเป็นน้ำแข็ง รถขับขึ้นไม่ได้ เอาไงละสิทีนี้ ทำไง ฉันจะได้ไปที่ Mt.Etna จริงๆหรอ พอตั้งสติเลยขับรถถอยหลังลงจากถนนเส้นนั้น แล้วไปใช้ถนนอีกเส้นหนึ่ง สุดท้ายเราก็มาถึงที่พักของเรา ที่พักที่ใกล้ทางขึ้น Mt.Etna บรรยากาศหนาวเหน็บ
เนื่องจากในวันนั้นพายุค่อนข้างแรง Cable Car จึงไม่สามารถเปิดให้บริการ ดังนั้นจึงอดขึ้นไปบนยอดเขา ทำได้แค่เพียงเที่ยวชมบรรยากาศรอบโรงแรม กับลมแรงๆที่พัดหิมะเข้าเต็มๆหน้า ถึงเวลาลงจากเขาแล้วละ แต่จะลงได้ยังไง Winter Chain ช่วยได้ในราคา 60€ ราคาแพงกว่าที่พักพร้อมอมหารเช้าของฉันสะอีก ช๊อคแปบ แต่เพื่อความปลอดภัยซื้อแล้วติดให้ด้วยนะคะ รูปภาพบรรยากาศที่เก็บมาได้ เป็นระหว่างทางลงจาก Mt.Etna
สุดท้ายทุกการเชื่อมต่อ และการใช้งานอินเตอร์เน็ตตลอดทริป รวมถึงยอดเขา Mt.Etna บอกเลยว่าประทับใจ อากาศหนาวเครื่องก็ไม่ดับ แต่ในขณะที่โทรศัพท์ของเราดับ ดีใจที่ตัดสินใจพกมา Tripizee Pocket WiFi for Europe
แต่ละทริป แฟนเราชอบถามถึงความประทับใจ
ทริปนี้ต้องบอกเลยว่า คนที่นี้นิสัยดี เฟรนลี่สุดๆ อย่างคุณป้าเจ้าของร้านอาหาร ออกจากครัวมาทีไร ต้องมีของติดมือมาให้เราทานทุกครั้ง , ที่โรงแรมที่เราพัก เราได้รู้จักสามีภรรยาและลูกชายสุดน่ารัก สามีเป็นคนอิตาลี ส่วนภรรยาเป็นคนรัสเซีย ภรรยาบอกว่า อากาศกำลังดี (คือเข้าใจนะคะว่ารัสเซียคงจะหนาวสุดโหด) ทริปนี้เหมาะกับการขับรถชิลล์ๆ ถ้าเป็นหน้าร้อนบรรยากาศคงสวยกว่านี้มาก แต่หน้าหนาวก็สวยไปอีกแบบ หวังว่ากระทู้ของเราจะพอเป็นไกด์แนะนำสำหรับใครที่อยากไปเที่ยวดินแดนมาเฟียซิซิเลีย ดินแดนที่ผู้คนน่ารัก