เพิ่มเถอะค่ะ สงสารคนชรา
ท่านทำงานอะไรไม่ไหวแล้ว
เงินแค่ 600 บาท คงไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต
ต้องพึ่งพาลูกหลาน ซึ่งบางคนก็ยังลำบากยิ่งเป็นภาระ
ถ้าเพิ่มขึ้นอีก สัก 1500 ก็จะดีนะคะ ได้วันละ 50 บาทก็ยังดี
ขอบคุณรัฐบาลที่เห็นใจประชาชนผู้สูงวัยและลูกหลานค่ะ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า เตรียมเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย รอบ 2 ระหว่างวันที่ 3-30 เมษายนนี้ ผ่านธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. พร้อมออกบัตรประจำตัวชิพการ์ด เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์รูดใช้จ่ายบริการสาธารณูปโภค และรถสาธารณะ ในอัตราสวัสดิการที่รัฐจะจัดให้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน สศค.กำลังศึกษาแนวทางเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ จากปัจจุบันเดือนละ 600 บาท เป็น 1,200-1,500 บาท ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสมต่อสภาพค่าครองชีพ โดยอาจนำเงินส่วนหนึ่งจากผู้ที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ที่มีฐานะ และประสงค์จะสละสิทธิ์ และเงินอีกส่วนจากการตั้งกองทุนชราภาพ ซึ่งเงินเข้าจากภาษีเหล้าและบุหรี่ เดือนละ 100 บาท หรือประมาณปีละ 2 พันล้านบาท
โดยปัจจุบัน มีผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน และมีผู้ไม่มาลงทะเบียน 2 ล้านคน ในจำนวนนี้ 8 ล้านคน ถือเป็นผู้สูงอายุที่มีฐานะดี
ด้านนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า ปัจจุบันภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บได้กว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ได้นำส่งเข้าคลัง เพื่อไปใช้จัดสรรในงบประมาณส่วนต่าง ๆ ซึ่งหากจะมีการตั้งกองทุนชราภาพจากเงินในส่วนนี้ก็สามารถดำเนินการได้
แต่ในส่วนของการออกกฏหมายเฉพาะ เพื่อนำเงินที่เก็บได้จากภาษีบาปไปสนับสนุนงานของกองทุนก็สามารถดำเนินได้ เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส./กองทุนการพัฒนากีฬาแห่งชาติ/องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ก็สามารถที่จะเนินการได้ แต่ต้องขึ้นกับการตัดสินใจในเชิงนโยบาย
http://news.mthai.com/economy-news/finance/546211.html
((มาลาริน)) ^_^ เยี่ยมเห็นด้วยค่ะ..คลังเตรียมเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุจาก 600 บาท เป็น 1,200 บาท เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย
ท่านทำงานอะไรไม่ไหวแล้ว
เงินแค่ 600 บาท คงไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต
ต้องพึ่งพาลูกหลาน ซึ่งบางคนก็ยังลำบากยิ่งเป็นภาระ
ถ้าเพิ่มขึ้นอีก สัก 1500 ก็จะดีนะคะ ได้วันละ 50 บาทก็ยังดี
ขอบคุณรัฐบาลที่เห็นใจประชาชนผู้สูงวัยและลูกหลานค่ะ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า เตรียมเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย รอบ 2 ระหว่างวันที่ 3-30 เมษายนนี้ ผ่านธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. พร้อมออกบัตรประจำตัวชิพการ์ด เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์รูดใช้จ่ายบริการสาธารณูปโภค และรถสาธารณะ ในอัตราสวัสดิการที่รัฐจะจัดให้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน สศค.กำลังศึกษาแนวทางเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ จากปัจจุบันเดือนละ 600 บาท เป็น 1,200-1,500 บาท ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสมต่อสภาพค่าครองชีพ โดยอาจนำเงินส่วนหนึ่งจากผู้ที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ที่มีฐานะ และประสงค์จะสละสิทธิ์ และเงินอีกส่วนจากการตั้งกองทุนชราภาพ ซึ่งเงินเข้าจากภาษีเหล้าและบุหรี่ เดือนละ 100 บาท หรือประมาณปีละ 2 พันล้านบาท
โดยปัจจุบัน มีผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน และมีผู้ไม่มาลงทะเบียน 2 ล้านคน ในจำนวนนี้ 8 ล้านคน ถือเป็นผู้สูงอายุที่มีฐานะดี
ด้านนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า ปัจจุบันภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บได้กว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ได้นำส่งเข้าคลัง เพื่อไปใช้จัดสรรในงบประมาณส่วนต่าง ๆ ซึ่งหากจะมีการตั้งกองทุนชราภาพจากเงินในส่วนนี้ก็สามารถดำเนินการได้
แต่ในส่วนของการออกกฏหมายเฉพาะ เพื่อนำเงินที่เก็บได้จากภาษีบาปไปสนับสนุนงานของกองทุนก็สามารถดำเนินได้ เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส./กองทุนการพัฒนากีฬาแห่งชาติ/องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ก็สามารถที่จะเนินการได้ แต่ต้องขึ้นกับการตัดสินใจในเชิงนโยบาย
http://news.mthai.com/economy-news/finance/546211.html