สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ผมมีงานชิ้นนึงที่เคยทำ เกี่ยวข้องกับงานสายการผลิตครับ
มันเป็นการใส่วัตถุดิบ A B C D ... ลงไปผสมๆกันแล้วเอาไปรวมใหม่
เนื่องจากตัวแปรมันเยอะมาก และไม่เป็นเชิงเส้น... โดยสมบูรณ์ (บางช่วงไม่เป็นครับ เนื่องจากหลายๆเหตุผล)
ถ้าผมคำนวณแบบไม่คิดมาก ก็คือประมาณให้เป็นเชิงเส้นให้หมดแล้วใช้ DiscreteMath แบบที่เรียนๆกันมา
ผลลัพธ์ผิดพลาดเนื่องจากวัตถุดิบ A, B เสียหายจากส่วนที่ไม่เป็นเชิงเส้น (ผมไม่แก้ก็ได้ครับ มันคุ้มทุนอยู่แล้ว แต่กำไรมันสามารถเพิ่มได้อีก)
จากนั้นแนวคิดในการคำนวณจึงเปลี่ยนไปนิดหน่อย ด้วยการใช้สมการจริงๆ (ที่สร้างมาจากการทดลองซ้ำๆ)
เริ่มจากการใช้ความรู้เรื่อง Calculus มาช่วย เพื่อให้สามารถคำนวณได้แม่นยำยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่แลกมาก็คือความช้าในการคำนวณ เนื่องมาจากสมการประเภทนี้จะค่อนข้างกินกำลัง (Gradient Descent)
ถ้าผมหยุดแค่ตรงนี้ ผมก็ได้คำตอบครับ แต่มันเป็นคำตอบผมเสียเวลามากเกินไปในการหามัน
ถามว่ารอได้ไหม รอได้ครับ แต่ใครจะอยากรอ ??
ผมคนนึงครับ ที่ไม่ว่างมากพอที่จะรอ เนื่องจากการทำงานจริง มีการคำนวณใหม่อยู่ตลอด
เนื่องมาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่นอกเหนือความคาดหมาย (ไม่คำนวณก็ได้ ถ้าไม่ได้จุดที่คุ้มทุนที่สุด)
แต่ถ้าผมปรับปรุงแนวทางการคำนวณให้ดียิ่งขึ้นละ แน่นอนครับ ผมต้องใช้ Advance Mathematical มาช่วย
เช่น Hessian, Advance Linear Algebra ซึ่งศาสตร์จำพวกนี้แหละครับ ที่ทำให้คุณที่เรียนมา แตกต่างจากแรงงานคนอื่นๆ
ผมลองยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าคุณมีคำถามพวกนี้เนื่องจากการที่คุณถูกบังคับให้เรียน (โดยมหาวิทยาลัย)
ว่าจะเรียนไปทำไม ในเมื่อไม่เคยเห็นคนใช้งานจริง ผมอยากจะตอบคุณว่าก็เพราะคนทั่วๆไป เค้าไม่เอามาใช้งานครับ
เรียนแล้วลืม เรียนแล้วไม่สนใจ ถึงเวลาใช้งานจริงๆก็ไม่เข้าใจ ทำไม่เป็น นึกไม่ถึง
แต่มันก็มีบางส่วนที่เค้าทำเป็นจริงๆครับ เค้าก็ออกไปเป็นที่ปรึกษา เป็นอะไรหมดแล้ว ไม่ค่อยไปเจอตามโรงงานทั่วๆไปหรอกครับ
ถ้าให้ตอบตามแนวทางของผมนะครับ
คุณเรียนแล้วพยายามเอาความรู้ที่ได้ ไปเชื่อมโยงกับปัญหาต่างๆดูครับ
ด้วยความที่ผมเรียนจบสายคอมพิวเตอร์มา ผมแนะนำคอร์สพวก Applied Numerical Computing ครับ
มันจะทำให้เราเอาพวกสมการคณิตศาสตร์ที่เละๆเหล่านั้น มาใช้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นครับ
ตอนที่ผมเรียน ผมเรียนมาจากหนังสือของ Prof. L. Vandenberghe ท่านสอนอยู่ที่ UCLA ครับ
พอดีผมต้องออกไปธุระแล้ว
ถ้าสงสัยหรืออยากให้ยกตัวอย่างอื่นๆ ลองถามๆมาก็ได้ครับ จะพยายามตอบเท่าที่พอจะทำได้ครับ
ส่วนตัวอย่างที่เขียนนั้น ด้วยความที่ผมมีความจำเป็นจะต้องรักษาความลับของตัวงาน
ทำให้ไม่สามารถบอกอะไรได้มากครับ ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวจะลองเลือกตัวอย่างอื่นมาให้ครับ
มันเป็นการใส่วัตถุดิบ A B C D ... ลงไปผสมๆกันแล้วเอาไปรวมใหม่
เนื่องจากตัวแปรมันเยอะมาก และไม่เป็นเชิงเส้น... โดยสมบูรณ์ (บางช่วงไม่เป็นครับ เนื่องจากหลายๆเหตุผล)
ถ้าผมคำนวณแบบไม่คิดมาก ก็คือประมาณให้เป็นเชิงเส้นให้หมดแล้วใช้ DiscreteMath แบบที่เรียนๆกันมา
ผลลัพธ์ผิดพลาดเนื่องจากวัตถุดิบ A, B เสียหายจากส่วนที่ไม่เป็นเชิงเส้น (ผมไม่แก้ก็ได้ครับ มันคุ้มทุนอยู่แล้ว แต่กำไรมันสามารถเพิ่มได้อีก)
จากนั้นแนวคิดในการคำนวณจึงเปลี่ยนไปนิดหน่อย ด้วยการใช้สมการจริงๆ (ที่สร้างมาจากการทดลองซ้ำๆ)
เริ่มจากการใช้ความรู้เรื่อง Calculus มาช่วย เพื่อให้สามารถคำนวณได้แม่นยำยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่แลกมาก็คือความช้าในการคำนวณ เนื่องมาจากสมการประเภทนี้จะค่อนข้างกินกำลัง (Gradient Descent)
ถ้าผมหยุดแค่ตรงนี้ ผมก็ได้คำตอบครับ แต่มันเป็นคำตอบผมเสียเวลามากเกินไปในการหามัน
ถามว่ารอได้ไหม รอได้ครับ แต่ใครจะอยากรอ ??
ผมคนนึงครับ ที่ไม่ว่างมากพอที่จะรอ เนื่องจากการทำงานจริง มีการคำนวณใหม่อยู่ตลอด
เนื่องมาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่นอกเหนือความคาดหมาย (ไม่คำนวณก็ได้ ถ้าไม่ได้จุดที่คุ้มทุนที่สุด)
แต่ถ้าผมปรับปรุงแนวทางการคำนวณให้ดียิ่งขึ้นละ แน่นอนครับ ผมต้องใช้ Advance Mathematical มาช่วย
เช่น Hessian, Advance Linear Algebra ซึ่งศาสตร์จำพวกนี้แหละครับ ที่ทำให้คุณที่เรียนมา แตกต่างจากแรงงานคนอื่นๆ
ผมลองยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าคุณมีคำถามพวกนี้เนื่องจากการที่คุณถูกบังคับให้เรียน (โดยมหาวิทยาลัย)
ว่าจะเรียนไปทำไม ในเมื่อไม่เคยเห็นคนใช้งานจริง ผมอยากจะตอบคุณว่าก็เพราะคนทั่วๆไป เค้าไม่เอามาใช้งานครับ
เรียนแล้วลืม เรียนแล้วไม่สนใจ ถึงเวลาใช้งานจริงๆก็ไม่เข้าใจ ทำไม่เป็น นึกไม่ถึง
แต่มันก็มีบางส่วนที่เค้าทำเป็นจริงๆครับ เค้าก็ออกไปเป็นที่ปรึกษา เป็นอะไรหมดแล้ว ไม่ค่อยไปเจอตามโรงงานทั่วๆไปหรอกครับ
ถ้าให้ตอบตามแนวทางของผมนะครับ
คุณเรียนแล้วพยายามเอาความรู้ที่ได้ ไปเชื่อมโยงกับปัญหาต่างๆดูครับ
ด้วยความที่ผมเรียนจบสายคอมพิวเตอร์มา ผมแนะนำคอร์สพวก Applied Numerical Computing ครับ
มันจะทำให้เราเอาพวกสมการคณิตศาสตร์ที่เละๆเหล่านั้น มาใช้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นครับ
ตอนที่ผมเรียน ผมเรียนมาจากหนังสือของ Prof. L. Vandenberghe ท่านสอนอยู่ที่ UCLA ครับ
พอดีผมต้องออกไปธุระแล้ว
ถ้าสงสัยหรืออยากให้ยกตัวอย่างอื่นๆ ลองถามๆมาก็ได้ครับ จะพยายามตอบเท่าที่พอจะทำได้ครับ
ส่วนตัวอย่างที่เขียนนั้น ด้วยความที่ผมมีความจำเป็นจะต้องรักษาความลับของตัวงาน
ทำให้ไม่สามารถบอกอะไรได้มากครับ ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวจะลองเลือกตัวอย่างอื่นมาให้ครับ
แสดงความคิดเห็น
มีใครใช้วิชา แคลคูลัสในการทำงานบ้าง และกับงานอะไรครับ