สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
คุยกับเขาไปตรงๆเลยดีกว่าค่ะว่า ควรจะต้องย้ายออกแล้วนะ เพราะก็ไม่ได้มีบุญคุณ และ เกี่ยวพันกันทางสายเลือดโดยตรง
ตอนนี้สามีก็ตายไปแล้วด้วย ภาระลูกคุณก็ต้องแบกรับอยู่ แล้วไหนจะพ่อแม่ญาติพี่น้องทางฝั่งคุณที่คุณต้องดูแลอีก
กำหนดเวลาให้แน่นอน และก็ช่วยเงินให้ไปตั้งตัวซักก้อนนึงค่ะ บอกเขาไปน่ะว่า ช่วยได้เต็มที่แค่นี้
พาไปจองห้อง ขนของย้ายออกไปห้องพัก ที่เหลือให้เขาดิ้นรนกันเองค่ะ
ไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้ไม่ต้องอยู่คนเดียวนะคะ
คนโตๆ กันแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กเล็ก จะได้ต้องเลี้ยงดูกันไปจนตายไปข้างนึง
ถ้าเขาไม่ดิ้นรนช่วยตัวเอง เราต้องดิ้นรนช่วยเขาด้วยหรอคะ
ถ้าเจ็บป่วย หรือ นิสัยดี อยู่ก็ช่วยงานเรา ทำให้บ้านน่าอยู่ ทำให้คนสบายใจก็ยังดีไปอย่าง
ไม่ต้องคุยกับพี่น้องคนอื่นของเขาหรอกค่ะ มันเป็นหน้าที่น้องสาวสามีคุณไปคุยและพึ่งพาพี่น้องตัวเอง
คุณคุยไป จะเอาภาระไปให้ ไม่มีใครอยากรับหรอกค่ะ เขาก็นิ่งเฉยทั้งนั้นแหล่ะ
ลงมือทำเลยค่ะ ไม่ต้องคิดไรมาก คิดแค่ว่า ปกป้องลูก ปกป้องครอบครัวตัวเอง ก็พอแล้วค่ะ
คิดถึงเวลาลูกโตนะคะ ต้องมาถูกผูกมัดจากการดูแลน้าในยามแก่หรอคะ เขาคิดจะตายที่บ้านคุณเลยน่ะ
เป็นแม่ถ้าไม่จัดการหรือปกป้องอนาคตของลูกไว้เพราะมัวแต่เกรงใจคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง อีกหน่อยลูกจะลำบากนะคะ
เขามองคุณเป็นคนนอก คุณก็มองเขาเป็นคนนอกไปบ้าง อย่าแบกรับทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องที่ตัวเองต้องรับผิดชอบทั้งโลกไว้
ตอนนี้สามีก็ตายไปแล้วด้วย ภาระลูกคุณก็ต้องแบกรับอยู่ แล้วไหนจะพ่อแม่ญาติพี่น้องทางฝั่งคุณที่คุณต้องดูแลอีก
กำหนดเวลาให้แน่นอน และก็ช่วยเงินให้ไปตั้งตัวซักก้อนนึงค่ะ บอกเขาไปน่ะว่า ช่วยได้เต็มที่แค่นี้
พาไปจองห้อง ขนของย้ายออกไปห้องพัก ที่เหลือให้เขาดิ้นรนกันเองค่ะ
ไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้ไม่ต้องอยู่คนเดียวนะคะ
คนโตๆ กันแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กเล็ก จะได้ต้องเลี้ยงดูกันไปจนตายไปข้างนึง
ถ้าเขาไม่ดิ้นรนช่วยตัวเอง เราต้องดิ้นรนช่วยเขาด้วยหรอคะ
ถ้าเจ็บป่วย หรือ นิสัยดี อยู่ก็ช่วยงานเรา ทำให้บ้านน่าอยู่ ทำให้คนสบายใจก็ยังดีไปอย่าง
ไม่ต้องคุยกับพี่น้องคนอื่นของเขาหรอกค่ะ มันเป็นหน้าที่น้องสาวสามีคุณไปคุยและพึ่งพาพี่น้องตัวเอง
คุณคุยไป จะเอาภาระไปให้ ไม่มีใครอยากรับหรอกค่ะ เขาก็นิ่งเฉยทั้งนั้นแหล่ะ
ลงมือทำเลยค่ะ ไม่ต้องคิดไรมาก คิดแค่ว่า ปกป้องลูก ปกป้องครอบครัวตัวเอง ก็พอแล้วค่ะ
คิดถึงเวลาลูกโตนะคะ ต้องมาถูกผูกมัดจากการดูแลน้าในยามแก่หรอคะ เขาคิดจะตายที่บ้านคุณเลยน่ะ
เป็นแม่ถ้าไม่จัดการหรือปกป้องอนาคตของลูกไว้เพราะมัวแต่เกรงใจคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง อีกหน่อยลูกจะลำบากนะคะ
เขามองคุณเป็นคนนอก คุณก็มองเขาเป็นคนนอกไปบ้าง อย่าแบกรับทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องที่ตัวเองต้องรับผิดชอบทั้งโลกไว้
แสดงความคิดเห็น
ตามหลักแล้วหากสามีเสียไปแล้ว คนเป็นพี่สะใภ้ต้องรับหน้าที่ดูแลน้องสามีต่อไหมคะ?
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวคนจีน เรากับสามีเราอยู่กันแฮปปี้กันมาตลอด อาจมีงอนกันบ้างตามประสาลิ้นกับฟัน แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง แต่ด้วยความที่สามีเราเป็นพี่ชายคนโต เลยต้องรับเอาน้องสาวคนโตของเขามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน (บ้านเป็นบ้านมรดกของเรา แต่ค่าน้ำไฟสามีเราเป็นคนจ่ายตลอด เพราะปกติเราทำงานตจว. อาทิตย์นึงกลับบ้านประมาณ1-2ครั้ง บ้านก็จะมีสามีอยู่กับลูก3คนแล้วก็น้องสาวคนโตของสามี) (สามีเรามีพี่น้องสี่คน สามีเราเป็นพี่ชายคนโต ตามด้วยน้องชายคนนึง แล้วก็ตามด้วยน้องสาวคนโต แล้วก็น้องสาวคนเล็ก *น้องสาวคนเล็กของสามีแต่งงานออกไปนานมาแล้ว)
ปกติแล้วน้องสาวคนโตของสามีเราไม่สามารถเข้ากับคนในบ้านได้เลย ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันกับสมาชิกในบ้านตลอดไม่เว้นแต่ละวัน (มีปัญหาทั้งกับตัวสามีเราเอง กับหลานๆ แล้วก็กับเรา*น้องสาวสามีเราหัวโบราณ ชอบมองว่าเราเป็นแค่สะใภ้ เป็นแค่คนที่แต่งเข้ามา)
ทีนี้พอสามีเราเสียไป เราไม่อยากให้น้องสาวคนโตของสามีเราอยู่บ้านเราต่อ เนื่องจากเรายังมีภาระเรื่องลูกๆที่ยังเรียนไม่จบ แล้วตัวน้องสาวคนโตของสามีก็มีปัญหากับเราและลูกๆของเราตลอดๆแม้ว่าสามีเราจะเสียไปแล้วสามเดือนก็ตาม เราเลยอยากทราบว่าหากเราอยากให้น้องชายของสามีมารับตัวน้องสาวของเขาไปอยู่ด้วยนี่เราทำถูกไหม?
ปล. ปกติเรากับสามีใช้เงินกันคนละกระเป๋า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินกันและกัน