ดีครับ....หลังจากได้มีการรีวิวเที่ยวแถวในเมือง เดือนทางสะดวกสบายแล้ว เลยลองมาเปลี่ยนแนวเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์บ้าง(แต่ไม่ถึงกับมาก) คราวนี้ไปเที่ยวแบบแนวภูเขา ในเชียงใหม่มีถ้าจะเที่ยวภูเขามีที่เที่ยวหลายที่อยู่ เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยปุย-ดอยสุเทพ ม่อนแจ่ม สะเมิง แต่คราวนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวแถวๆดอยหลวงเชียงดาว หลายคนถ้าพูดถึงดอยหลวงเชียงดาวแล้ว คงนึกถึง”ระเบียงดาว” แต่มีอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “เมืองคอง” ซึ่งเลยระเบียงดาวไปอีก เมื่อเข้าไปแล้วเหมือนหลุดอยู่อีกโลกหนึ่ง เพราะเมืองคองล้อมรอบไปด้วยภูเขา
การเดินทาง
รถประจำทาง ขึ้นรถประจำทางที่ขนส่งช้างเผือก นั่งรถเชียงใหม่-เชียงดาว หรือ เชียงใหม่-ท่าตอน ผ่านเหมือนกัน ค่ารถ 40 บาท ไปลงรถที่ โลตัสเชียงดาว จากเชียงดาวไปรอขึ้นสองแถว เชียงดาว- เมืองคอง 60 บาท สามารถถามคนแถวนั้นก็ได้ครับ ว่าขึ้นรถอยู่ตรงไหน (รถมีอยู่แค่ 1-2 เที่ยวต่อวัน รอบรถไม่แน่นอน) แต่ตอนนี้ไม่รู้ค่ารถจะยังเท่านี้หรือเปล่า แต่ก็ถือว่าไม่แพง (แต่มาเที่ยวครั้งนี้เราอาศัยรถเพื่อนไป)
ระหว่างการเดินทางก็จะได้สัมผัสกับธรรรมชาติสองข้างทาง เดินทางไปตามเส้นทางที่ขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เดินทางมาสักพักจะผ่านระเบียงดาวก่อน เลยแวะถ่ายรูปที่ระเบียงดาว
ระเบียงดาวนี้จะมีเต้นให้เช่านอน แต่ไม่รู้เค้าคิดราคายังไงเพราะเราไม่ได้พักที่นี่ แต่ดูๆไปแล้วก็น่าพักเหมือนกันน่ะ นอนเต้นดูดาวตอนกลางคืน น่าจะฟินดี(ดูจากสถานที่แล้ว)
เมื่อที่ถ่ายรูปเสร็จแล้ว เดือนดูรอบๆระเบียงดาว ได้เหลือบไปเห็นรูปที่ติดผนัง โอ้วววว รูประเบียงดาวสมัยก่อน ปี 2536 ดูวินเทจสุดๆ
จากนั้นก็เดินทางต่อไปเมืองคอง ซึ่งห่างจากระเบียงดาวพอสมควร น่าจะประมาณ 22 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางพอสมควร เพราะเป็นภูเขา เดินทางลัดเลาะมาเรื่อยๆ คิดว่าเมื่อไรจะถึง เริ่มเหนื่อยๆเพราะนั่งแต่ในรถ แต่พอมาถึงก็หายเหนื่อย เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่ง ดูเป็นธรรมชาติมาก และที่พัก มองเห็นวิวโล่งๆ(เหมาะแก่การนั่งจิ๊บเบียร์ แหะๆ) พวกเราพักที่ บ้านไร่ภูตะวัน
เมืองคองตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงดาวประมาณ 42 กิโลเมตร เป็นที่ราบสูงเชิงเขาพื้นที่ทำกินอยู่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติและเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ถนนเข้าสู่ตำบลเป็นถนน คสล. ใช้การได้สะดวกไม่ลำบากในการคมนาคม
คำขวัญของเมืองคองคือ
คำขวัญ ป่าเขียวขจี คนมีน้ำใจ ไปเที่ยวถ้ำ ขี่ช้างล่องแพ แหล่งแพร่ปลามอญ นครเมรัย
ข้อมูลจาก องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคอง
http://www.muangkong.go.th/index.php?op=about
แหม่ๆ คำขวัญท่อนสุดท้ายนี้ น่าสนใจจริงๆ คืนนี้คงจัดซะหน่อย
และพวกเราก็ขับรถออกมาหาซื้อสเบียงสำหรับคืนนี้ขับรถชมรอบๆหมู่บ้าน คนแถวนี้จะอยู่แบบเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่สงบ รูปนี้เป็นรูปที่เก็บได้ตอนเย็นๆ ใกล้พลบค่ำ
พอตกกลางคืนจะวิวก็จะสวยไปอีกแบบ (เป็นรูปที่ถ่ายจากด้านหน้าของที่พัก)
พอดึกๆเริ่มหนาว เริ่มหาเสื้อมาใส่เพิ่มอีก ณ ตอนนี้เบียร์ก็ไม่ช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น 555
หลังจากชมวิวกลางคืน นั่งกินปิ้ง ย่างกันพอสมควรก็เข้านอนเพื่อที่จะมาชมหมอกตอนเช้า แต่วันที่ไปไม่ค่อยหนาวสักเท่าไหร่ เลยมีหมอกลงไม่ค่อยเยอะ แต่ก็ยังสวยอยู่
เมื่อสูดอากาศและดูสายหมอกแล้วก็เก็บของเพื่อที่จะเดินทางกลับ ก่อนจะกลับเลยแวะไหว้พระ วัดที่นี่ก็สวยแปลกตาไปอีกแบบน่ะ ชื่อวัดศรีกลางเมือง
ไว้มีโอกาสจะมีโอกาสจะมาเมืองคองอีกครั้งหนึ่ง อยากจะมาในช่วงฤดูทำนา เพราะอยากมาชมวิวนาขั้นบันได และจะมารีวิวอีกนะครัชชช
ปล.บางรูปอาจไม่ชัดเพราะถ่ายจากมือถือบ้าง
[CR] "เที่ยว ระเบียงดาว - เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมืองเล็กๆบรรยากาศดีๆ"
การเดินทาง
รถประจำทาง ขึ้นรถประจำทางที่ขนส่งช้างเผือก นั่งรถเชียงใหม่-เชียงดาว หรือ เชียงใหม่-ท่าตอน ผ่านเหมือนกัน ค่ารถ 40 บาท ไปลงรถที่ โลตัสเชียงดาว จากเชียงดาวไปรอขึ้นสองแถว เชียงดาว- เมืองคอง 60 บาท สามารถถามคนแถวนั้นก็ได้ครับ ว่าขึ้นรถอยู่ตรงไหน (รถมีอยู่แค่ 1-2 เที่ยวต่อวัน รอบรถไม่แน่นอน) แต่ตอนนี้ไม่รู้ค่ารถจะยังเท่านี้หรือเปล่า แต่ก็ถือว่าไม่แพง (แต่มาเที่ยวครั้งนี้เราอาศัยรถเพื่อนไป)
ระหว่างการเดินทางก็จะได้สัมผัสกับธรรรมชาติสองข้างทาง เดินทางไปตามเส้นทางที่ขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เดินทางมาสักพักจะผ่านระเบียงดาวก่อน เลยแวะถ่ายรูปที่ระเบียงดาว
ระเบียงดาวนี้จะมีเต้นให้เช่านอน แต่ไม่รู้เค้าคิดราคายังไงเพราะเราไม่ได้พักที่นี่ แต่ดูๆไปแล้วก็น่าพักเหมือนกันน่ะ นอนเต้นดูดาวตอนกลางคืน น่าจะฟินดี(ดูจากสถานที่แล้ว)
เมื่อที่ถ่ายรูปเสร็จแล้ว เดือนดูรอบๆระเบียงดาว ได้เหลือบไปเห็นรูปที่ติดผนัง โอ้วววว รูประเบียงดาวสมัยก่อน ปี 2536 ดูวินเทจสุดๆ
จากนั้นก็เดินทางต่อไปเมืองคอง ซึ่งห่างจากระเบียงดาวพอสมควร น่าจะประมาณ 22 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางพอสมควร เพราะเป็นภูเขา เดินทางลัดเลาะมาเรื่อยๆ คิดว่าเมื่อไรจะถึง เริ่มเหนื่อยๆเพราะนั่งแต่ในรถ แต่พอมาถึงก็หายเหนื่อย เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่ง ดูเป็นธรรมชาติมาก และที่พัก มองเห็นวิวโล่งๆ(เหมาะแก่การนั่งจิ๊บเบียร์ แหะๆ) พวกเราพักที่ บ้านไร่ภูตะวัน
เมืองคองตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงดาวประมาณ 42 กิโลเมตร เป็นที่ราบสูงเชิงเขาพื้นที่ทำกินอยู่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติและเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ถนนเข้าสู่ตำบลเป็นถนน คสล. ใช้การได้สะดวกไม่ลำบากในการคมนาคม
คำขวัญของเมืองคองคือ
คำขวัญ ป่าเขียวขจี คนมีน้ำใจ ไปเที่ยวถ้ำ ขี่ช้างล่องแพ แหล่งแพร่ปลามอญ นครเมรัย
ข้อมูลจาก องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคอง http://www.muangkong.go.th/index.php?op=about
แหม่ๆ คำขวัญท่อนสุดท้ายนี้ น่าสนใจจริงๆ คืนนี้คงจัดซะหน่อย
และพวกเราก็ขับรถออกมาหาซื้อสเบียงสำหรับคืนนี้ขับรถชมรอบๆหมู่บ้าน คนแถวนี้จะอยู่แบบเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่สงบ รูปนี้เป็นรูปที่เก็บได้ตอนเย็นๆ ใกล้พลบค่ำ
พอตกกลางคืนจะวิวก็จะสวยไปอีกแบบ (เป็นรูปที่ถ่ายจากด้านหน้าของที่พัก)
พอดึกๆเริ่มหนาว เริ่มหาเสื้อมาใส่เพิ่มอีก ณ ตอนนี้เบียร์ก็ไม่ช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น 555
หลังจากชมวิวกลางคืน นั่งกินปิ้ง ย่างกันพอสมควรก็เข้านอนเพื่อที่จะมาชมหมอกตอนเช้า แต่วันที่ไปไม่ค่อยหนาวสักเท่าไหร่ เลยมีหมอกลงไม่ค่อยเยอะ แต่ก็ยังสวยอยู่
เมื่อสูดอากาศและดูสายหมอกแล้วก็เก็บของเพื่อที่จะเดินทางกลับ ก่อนจะกลับเลยแวะไหว้พระ วัดที่นี่ก็สวยแปลกตาไปอีกแบบน่ะ ชื่อวัดศรีกลางเมือง
ไว้มีโอกาสจะมีโอกาสจะมาเมืองคองอีกครั้งหนึ่ง อยากจะมาในช่วงฤดูทำนา เพราะอยากมาชมวิวนาขั้นบันได และจะมารีวิวอีกนะครัชชช
ปล.บางรูปอาจไม่ชัดเพราะถ่ายจากมือถือบ้าง