The Red Turtle (Michael Dudok de Wit, 2016) คะแนน B+
By Form Corleone
"ความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยวิถีทางในการดำเนินชีวิต" น่าชื่นชมในความสามารถของ 'ไมเคิล ดูด็อค เดอวิท' ที่บรรยายเรื่องราวธรรมดาๆ ได้อย่างสวยงาม องค์ประกอบของภาพคือหัวใจที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้มากเพราะตลอดระยะเวลาที่ได้นั่งดูอยู่นั้น ภาพทุกภาพที่หนังกำลังสื่อมาถึงเราล้วนแฝงไปด้วยความหมาย ละมุม+ลุ่มลึก ในสเกลทั้งมุมกว้างและมุมแคบ ทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง องค์ประกอบของภาพเกือบทุกฉากสามารถหยุดเป็นภาพนิ่งแล้วตั้งโชว์ไว้ตามมุมบ้านหรืองานโชว์ศิลปะเชิงความหมายได้โดยไม่กล่าวเกินไป เราสมารถที่จะเข้าใจความหมายของหนังโดยไม่ต้องมีบทพูดใดๆเหมือนอย่างที่หนังจงใจกระทำในรูปแบบดังกล่าว คือการไม่ใส่บทพูดมีเพียงเสียงตะโกนของตัวละครเพียงเท่านั้น เพราะฉากต่างๆของตัวหนังสามารถสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้งในตัวของมันเอง ถึงอย่างไรก็ตาม ด้วยข้อแม้บางอย่าง ผนวกกับความเป็นงานเชิงศิลป์ที่แฝงปรัชญาการใช้ชีวิต อาจทำให้บางช่วงบางตอนรู้สึกไม่ต่อเนื่องกัน ไม่สมูทในบางจุด เช่น เส้นเรื่องบางฉากตัดสลับเร็วเกินไปบางฉากก็เนิบช้าเกินไป ถ้าให้คะแนนในส่วนของความสนุกคงไม่สนุกในมุมของความบันเทิง แต่ถ้าให้คะแนนในคุณค่าของตัวงานเองนั้น สำหรับเรา 'The Red Turtle' คือหนังการ์ตูนที่ให้คุณค่า+สะท้อนความคิด สามารถให้ประสบการณ์ครั้งใหม่ในการดูหนังอนิเมชั่นครั้งหนึ่งได้เลย
ความรู้สึกตลอดระยะเวลาที่ได้รับชมนั้น เสมือนเราได้ดูเรื่องราวชีวิตที่ผูกติดอยู่กับธรรมชาติแบบแยกออกจากกันไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันไว้เป็นสายใยที่หนาแน่น เกิดจากธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ มุ่งคืนสู่ธรรมชาติ ความหมายของ 'เต่าแดง' นั้นสามารถที่จะตีความได้หลายแง่มุมแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน ในส่วนพล็อตเรื่องคือ มีผู้ชายติดเกาะ ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ เจอเต่าแดง เจอผู้หญิงหนึ่งคน ใช้ชีวิตร่วมกัน มีลูก ดูจากตัวอย่างหนังก็คงจับประเด็นได้ประมาณนั้น ดูเป็นเรื่องราวสุดแสนธรรมดามากๆ แต่ตัวหนังกับมีมวลพลังงานอย่างมากที่จะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของชายติดเกาะคนหนึ่งได้สวยงาม ร่วมไปถึงเรื่องราวต่างๆในเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เสน่ห์ของการไม่มีบทพูด ความไพเราะของดนตรีประกอบ สามารถยึดโยงเข้ากันได้ดีมาก หนังทิ้งคำถามปลายเปิดไว้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราจะต้องเป็นคนรอยเรียงเชื่อมคำถามเหล่านั้นเข้าด้วยกันหลังดูจบ หลายๆคำถามเหล่านั้น ส่งถึง 'ความหมายหรือคุณค่าของการใช้ชีวิต'
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด 'The Red Turtle' คือหนังอนิเมชั่น ที่สามารถยกเรื่องราวธรรมดาๆ ที่แฝงไปด้วยมุมมองการใช้ชีวิตได้อย่างละเอียดในทุกเฟรมภาพ ความมหัศจรรย์ของ 'เต่าแดง' การผูกโยงเรื่องราวเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ องค์ประกอบเล็กๆ เช่น ปูตัวน้อย ก้อนหิน ต้นไม้ ลูกอ๊อด ทำได้มีเสน่ห์น่ารักน่าชัง แม้ตัวหนังจะมีช่วงเนือยๆ เนิบช้าอยู่ในหลายขณะ แต่การบอกเล่าเรื่องราวที่ดูจริงผสมนิยายเพ้อฝันนั้นก็ทำได้ลงตัว ลายเส้นของหนังอาจไม่คุ้นเคยถ้าใครคิดว่าจะเป็นลายเส้นแบบ 'Ghibli' เพราะมันไม่ใช่หนังที่ 'Ghibli' สร้างเป็นเพียงการร่วมมือกันของสตูดิโอในฝรั่งเศส งานเลยออกแนวไปทางการ์ตูนทางฝั่งนั้น ท้ายสุด The Red Turtle ถือเป็นหนังทางเลือกและน่าดูชมที่สุดเรื่องหนึ่ง 'เราจะได้ค้นพบความหมายของชีวิตระหว่างเดินทางไปพร้อมกันกับชายตึดเกาะ'
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
The Red Turtle (Michael Dudok de Wit, 2016) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยวิถีทางในการดำเนินชีวิต" น่าชื่นชมในความสามารถของ 'ไมเคิล ดูด็อค เดอวิท' ที่บรรยายเรื่องราวธรรมดาๆ ได้อย่างสวยงาม องค์ประกอบของภาพคือหัวใจที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้มากเพราะตลอดระยะเวลาที่ได้นั่งดูอยู่นั้น ภาพทุกภาพที่หนังกำลังสื่อมาถึงเราล้วนแฝงไปด้วยความหมาย ละมุม+ลุ่มลึก ในสเกลทั้งมุมกว้างและมุมแคบ ทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง องค์ประกอบของภาพเกือบทุกฉากสามารถหยุดเป็นภาพนิ่งแล้วตั้งโชว์ไว้ตามมุมบ้านหรืองานโชว์ศิลปะเชิงความหมายได้โดยไม่กล่าวเกินไป เราสมารถที่จะเข้าใจความหมายของหนังโดยไม่ต้องมีบทพูดใดๆเหมือนอย่างที่หนังจงใจกระทำในรูปแบบดังกล่าว คือการไม่ใส่บทพูดมีเพียงเสียงตะโกนของตัวละครเพียงเท่านั้น เพราะฉากต่างๆของตัวหนังสามารถสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้งในตัวของมันเอง ถึงอย่างไรก็ตาม ด้วยข้อแม้บางอย่าง ผนวกกับความเป็นงานเชิงศิลป์ที่แฝงปรัชญาการใช้ชีวิต อาจทำให้บางช่วงบางตอนรู้สึกไม่ต่อเนื่องกัน ไม่สมูทในบางจุด เช่น เส้นเรื่องบางฉากตัดสลับเร็วเกินไปบางฉากก็เนิบช้าเกินไป ถ้าให้คะแนนในส่วนของความสนุกคงไม่สนุกในมุมของความบันเทิง แต่ถ้าให้คะแนนในคุณค่าของตัวงานเองนั้น สำหรับเรา 'The Red Turtle' คือหนังการ์ตูนที่ให้คุณค่า+สะท้อนความคิด สามารถให้ประสบการณ์ครั้งใหม่ในการดูหนังอนิเมชั่นครั้งหนึ่งได้เลย
ความรู้สึกตลอดระยะเวลาที่ได้รับชมนั้น เสมือนเราได้ดูเรื่องราวชีวิตที่ผูกติดอยู่กับธรรมชาติแบบแยกออกจากกันไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันไว้เป็นสายใยที่หนาแน่น เกิดจากธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ มุ่งคืนสู่ธรรมชาติ ความหมายของ 'เต่าแดง' นั้นสามารถที่จะตีความได้หลายแง่มุมแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน ในส่วนพล็อตเรื่องคือ มีผู้ชายติดเกาะ ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ เจอเต่าแดง เจอผู้หญิงหนึ่งคน ใช้ชีวิตร่วมกัน มีลูก ดูจากตัวอย่างหนังก็คงจับประเด็นได้ประมาณนั้น ดูเป็นเรื่องราวสุดแสนธรรมดามากๆ แต่ตัวหนังกับมีมวลพลังงานอย่างมากที่จะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของชายติดเกาะคนหนึ่งได้สวยงาม ร่วมไปถึงเรื่องราวต่างๆในเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เสน่ห์ของการไม่มีบทพูด ความไพเราะของดนตรีประกอบ สามารถยึดโยงเข้ากันได้ดีมาก หนังทิ้งคำถามปลายเปิดไว้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราจะต้องเป็นคนรอยเรียงเชื่อมคำถามเหล่านั้นเข้าด้วยกันหลังดูจบ หลายๆคำถามเหล่านั้น ส่งถึง 'ความหมายหรือคุณค่าของการใช้ชีวิต'
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด 'The Red Turtle' คือหนังอนิเมชั่น ที่สามารถยกเรื่องราวธรรมดาๆ ที่แฝงไปด้วยมุมมองการใช้ชีวิตได้อย่างละเอียดในทุกเฟรมภาพ ความมหัศจรรย์ของ 'เต่าแดง' การผูกโยงเรื่องราวเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ องค์ประกอบเล็กๆ เช่น ปูตัวน้อย ก้อนหิน ต้นไม้ ลูกอ๊อด ทำได้มีเสน่ห์น่ารักน่าชัง แม้ตัวหนังจะมีช่วงเนือยๆ เนิบช้าอยู่ในหลายขณะ แต่การบอกเล่าเรื่องราวที่ดูจริงผสมนิยายเพ้อฝันนั้นก็ทำได้ลงตัว ลายเส้นของหนังอาจไม่คุ้นเคยถ้าใครคิดว่าจะเป็นลายเส้นแบบ 'Ghibli' เพราะมันไม่ใช่หนังที่ 'Ghibli' สร้างเป็นเพียงการร่วมมือกันของสตูดิโอในฝรั่งเศส งานเลยออกแนวไปทางการ์ตูนทางฝั่งนั้น ท้ายสุด The Red Turtle ถือเป็นหนังทางเลือกและน่าดูชมที่สุดเรื่องหนึ่ง 'เราจะได้ค้นพบความหมายของชีวิตระหว่างเดินทางไปพร้อมกันกับชายตึดเกาะ'
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/