คำชะโนด - เมืองอุดร ทริปชิล 1 วัน 1 คืน

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้กิมเล้งขอพาไปเที่ยวอุดรและคำชะโนดเมืองพญานาคที่กำลังโด่งดัง
เพราะเค้าว่ากันว่าถ้าไปขอเรื่องงานเรื่องเงินแล้วจะสำเร็จรุ่งเรืองนักแล!
ทริปนี้เราตั้งใจว่าอยากไปด้วยศรัทธาไม่ใช่แค่ตามกระแส Focus ที่คำชะโนดเป็นหลัก
แล้วที่เหลือเราถือว่าเป็นกำไร โดยเราเดินทางไปจากกรุงเทพด้วยเครื่องบินและจ้างรถพร้อมคนขับพาเที่ยวค่ะ

หมายเหตุ
*เนื่องจากเราไปวันอาทิตย์ เจอฝูงคลื่นมหาชนทั้งรถติดและคนติด แต่ด้วยว่าเราตั้งใจกันแล้วว่าจะไปเยือนคำชะโนดแบบ "เกิดประโยชน์กับจิตใจ"
กิมกับแม่ก็เลยอาศัยช่วงเวลาการต่อแถวต่างๆเป็นช่วงทำสมาธิตั้งจิตอธิฐานสงบจิตสงบใจไปชิลๆ อยากแนะนำผู้ที่จะไปให้ใจเย็นๆ
ทำใจสงบเวลาต้องเบียดคน ก็จะทำให้ทริปของท่านมีแต่ความสุข ไม่หงุดหงิดได้ค่ะ
** ตรงคำชะโนดพื้นที่เล็กนิดเดียวค่ะ ส่วนมากคนไปเที่ยวมักวางทริปไปที่อื่นต่ออีก 3 - 4 ที่ถ้าเป็นทริปเต็มวัน
แต่กิมกับแม่ตั้งใจไปสวดมนต์ด้วยเลยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงอยู่ด้านใน (รวมจอดรถ,ต่อแถว นู้นนี้แล้วก็ 3 - 4 ชั่วโมงได้)

*** ตอนแรกตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนรีวิวนี้เพราะคิดว่าคงจะเป็นการดีที่ได้ช่วยแนะนำการมาเที่ยวและมาบูชาองค์พญานาค
....แต่หลังจากที่ไปสัมผัสมาจริงๆ ก็เกิดความกังวลขึ้นมามากกก กอไก่พันตัวค่ะ
เพราะ....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ดังนั้น จุดประสงค์แฝงของการเขียนรีวิวนี้ จึงเปลี่ยนเป็นหวังว่าจะช่วยสร้าง "อีกกระแส"
ให้มีการดูแลรักษา และ ป้องกัน คำชะโนด หรืออย่างน้อยๆ...
ก็ได้เตือนใจท่านที่กำลังคิดจะไปคำชะโนดว่าจะไปอย่างไรให้การไปด้วย ศรัทธานั้นไม่ไป "ทำลาย"
ธรรมชาติเดิมที่มีเสน่ห์ มีมนต์ขลังให้พังทลายไป....เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเสียใจกันทีหลังค่ะ  





เอาล่ะค่ะ....หลังจากบ่นระบายความกังวลไปแล้ว มาเข้าสู่ช่วงการรีวิวทริปค่ะ ^^"

ขอสรุปทริปของเราสั้นๆดังนี้ก่อน

วันอาทิตย์
5.55   :  เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์จากดอนเมืองไปอุดร
7.00   :  ถึงอุดร -  มีรถที่เราโทรจองไว้ล่วงหน้าพร้อมคนขับมารับที่สนามบิน
7.30   :  ถึงตัวเมืออุดร ทานอาหารเช้าที่ริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์
8.15   :  เข้าเช็คอินที่พัก / โรงแรมกวินบุรี ตรงข้ามห้าง Central Plaza
9.00   :  แวะซื้อกาแฟ ทานขนมก่อนออกเดินทางที่ร้าน Beyond Café
9.30   :  ออกเดินทางไป อ.บ้านดุง คำชะโนด
11.00 :  ถึงบ้านดุง แวะซื้อบายศรีเข้าไปบูชาที่ปากทางเข้าวัด (คนเยอะและรถติดค่ะ)
11.45 :  ถึงวัดศิริสุทโธ - คำชะโนด
15.00 :  เดินทางกลับเข้าตัวเมือง
16.00 :  ถึงตัวเมืองอุดร ทานอาหารเย็นที่ร้านแม่หยา
17.00 :  ชมศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน, มูลนิธิสาลเจ้าปู่ย่า
18.30 :  กลับเข้าที่พัก พักผ่อน ชิลลลล (ที่พักอยู่ใกล้ UD Town สามารถไปชิลต่อได้)

รายละเอียด + ค่าใช้จ่าย

- ตั๋วเครื่องบินนกแอร์ ไป - กลับ : เราจองล่วงหน้าประมาณ 1 อาทิตย์ 2 คนก็ประมาณ 3,000
- รถเช่า : ราคาพร้อมคนขับ : 1,700 บาท
เราให้มารับที่สนามบินตอน+พาเที่ยวทั้งวัน แวะไหนยังไงก็ได้ (แต่ต้องตัดจบทริปที่รอบ 19.00 เกินจากนั้นคิดเพิ่มชั่วโมงละ 200 บาท)
เค้าจะเติมน้ำมันมาเต็มถังค่ะ พอหมดวันก็พาเราไปเติมน้ำมันกลับคืนก่อนเราก็จ่ายค่ำน้ำมันให้เค้าค่ะ
ของกิมค่าน้ำมันทั้งหมด 540 บาท

เบอร์โทรติดต่อรถเช่าพร้อมคนขับ (ไม่ได้ค่านายหน้านะคะ แต่พี่เค้าบริการดีจึงยากบอกต่อจ้า)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

- ที่พัก : โรงแรมกวินบุรี อยู่ตรงข้างห้าง Central Plaza ทำเลสะดวกดี คืนละ 1,100 บาท รวมอาหารเช้า (มีบริการรถไปรับ ส่ง สนามบินฟรี + welcome drink เป็นน้ำพันช์ผลไม้ หอมๆ อร่อยดี)

เข้าสู่ช่วงรีวิวพร้อมภาพประกอบกันเลยจ้า

7.30   :  ถึงตัวเมืออุดร พี่อ้วนคนขับพาเรามาทานอาหารเช้าที่ริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์ค่ะ
บรรยากาศดี อาหารเช้าราคาไม่แพง รสชาติใช้ได้ มีให้เลือกหลากหลาย ราคาคร่าว
ไข่กะทะ 30 บาท, ขนมปังเวียดนาม 15 บาท, ข้าวเปียกเส้นสด 45 บาท
(กิมชอบข้าวเปียกเส้นสดที่สุด ซดน้ำซุปร้อนๆเป็นมื้อเช้า สบายตัวสบายท้อง)







ทานเสร็จเราก็เดินเล่นย่อยกันแปปนึง สบายๆ มองผู้คนมาออกกำลังบ้าง ให้อาหารนกพิราบบ้าง
ดูแล้วคนอุดรน่าจะชอบออกกำลังกายค่ะ เพราะในตัวเมืองมียิมอยู่แทบทุกหัวถนน
ส่วนรอบๆสวนนี้มีทั้งคนเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน แถมยังแอบเห็นป้ายชมรมเจ็ทสกีด้วย


ทานอาหารเสร็จเราก็ไปเช็คอินที่พักและเตรียมออกเดินทางไป อ.บ้านดุง
โดยระหว่างทางก็ขอแวะร้านกาแฟเติมความสดชื่นนิดนึง
ในตัวเมืองมีร้านกาแฟสดหลายร้านเลย กิมบอกพี่คนขับว่าให้ช่วยพาไปร้านเด็ดๆของอุดรหน่อย....เค้าก็พาไปที่นี้


Beyond Café แว่บแรกที่เดินเข้าไปนึกว่าอยู่กรุงเทพ
ไฮโซ เก๋ไก๋ ตกแต่งสวยค่ะ ส่วนกาแฟก็อร่อยไม่ผิดหวัง ราคาไม่แพง แก้วละ 50 บาท
แต่พวกเค้กก็ 75 บาทขึ้นไปค่ะ





11.00 :  ถึง อ. บ้านดุง แวะซื้อบายศรีเข้าไปบูชาที่ปากทางเข้าวัด
แดดร้อนมากมายแต่ด้วยความที่เป็นคนชอบงานบายศรี เลยเดินดูเพลินๆไปใช้เวลา 15 นาทีได้
(แอบคิดเล่นๆว่าสบายใจได้อย่างนึงว่าศิลปะงานบายศรีคงจะยังไม่หายไปจากประเทศไทยง่ายๆแน่นอน
ก็นับเป็นเรื่องดี ฮ่าๆ)





ราคาบายศรีเปิดทรัพย์(คล้ายๆบายศรีปกติ) อยู่ที่คู่ละ 180 – 200 บาท
ส่วนบายศรีพญานาคก็แล้วแต่ความอลังการมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลายพันหรืองานสั่งทำระดับหลักหมื่น

ถ้ามีเวลาเดินเลือกดูที่ถูกใจก่อนค่อยตัดสินใจซื้อดีกว่าค่ะ เพราะแต่ละเจ้าราคาใกล้เคียงกันแต่ฝีมือไม่เท่ากัน
จะได้ได้งานที่ปราณีตและที่สำคัญเป็นการส่งเสริมให้คนที่ตั้งใจทำชิ้นงานด้วยใจได้ขายดี ยิ้ม


11.45 :  ถึงวัดศิริสุทโธ - คำชะโนด
คนเยอะม๊ากกกกกกจ้าาาาา !!!
สำหรับข้อปฎิบัตินะคะ คือควรแต่งตัวสุภาพไม่นุ่งสั้นค่ะ ถ้านุ่งสั้นมาทางวัดมีบริการผ้าถุงให้
ส่วนรองเท้าก็ให้ถอดใส่ถุง(เตรียมไปกันเองเด้อ) หาที่ซ่อนๆไว้ตามจุดต่างๆค่ะ ^^”
เพราะชั้นวางรองเท้าที่วัดจัดไว้ ไม่พออย่างแรง
อ้อส่วนห้องน้ำวัดมีน้อยและไม่ค่อยสะอาดนะคะ ยังไงเข้าจากด้านนอกไปก่อนจะดีกว่าค่ะ

พร้อมแล้ว....ก็ไปต่อแถวค่ะ



ขาเดินเข้าไปพวกเราสองแม่ลูกถือบายศรีเต็มมือและตั้งจิตสมาธิเดินเข้าไป จึงไม่ได้มีภาพมาฝากนะคะ

ส่วนตรงทางเชื่อมสะพานที่พูดถึงกันว่าเชื่อมไม่ติด ภาพนี้กิมถ่ายรูปตอนขาออกค่ะ


12.45 ถึงด้านในฝั่งคำชะโนด
บรรยากาศเย็นและร่มรื่นจริงตามที่ผู้คนพูดกันค่ะแม้จะหนาแน่นไปด้วยผู้คน น่าจะเป็นเพราะร่มไม้จากต้นคำชะโนดเป็นหลัก
จุดหลักๆ มี 3 จุดค่ะ คือ
- จุดบูชาเจ้าปู่เจ้าย่า "นาคาศรีสุทโธ และ นาคีศรีปทุมมา"
- บ่อน้ำศักสิทธิ์
- ต้นไทรใหญ่

ในส่วนของการบูชาจะมีคนนำสวดขอพรให้เป็นรอบๆค่ะ
ตามที่ได้ศึกษามา เค้าว่ากันว่าไม่ให้ไปบนบานนะคะ
แต่หากจะขอพรก็ให้เป็นตั้งจิตอธิฐาว่าเราจะทำความดีอะไรถวายดีกว่า
ซึ่งกิมเห็นด้วยมากๆ เพราะสุดท้ายอย่างน้อยคือเราได้มีแรงบันดาลใจทำดี
รักษากาย วาจา ใจ และมีเครื่องยึดเหนี่ยวให้จิตใจเราเข้มแข็งค่ะ ยิ้ม







เกือบบ่ายสามเราก็เสร็จภารกิจทั้ง จิตใจแจ่มใส ชื่นมื่น เตรียมตัวกลับเข้าเมืองอุดรไปพักผ่อนค่ะ
มื้อเย็นของเราเป็นอาหารไทยง่ายๆร้านดั้งเดิมที่มีมานาน ราคาไม่แพง และรสชาติดีที่ร้านแม่หยาในตัวเมืองอุดร

จากนั้นเพราะเวลายังเหลือก่อนจะถึง Deal คืนรถ(พร้อมคนขับ) สองแม่ลูกจึงตัดสินใจไปชิลกันอีกนิดที่ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน, ศาลเจ้าปู่ย่า
ตอนเราไปเจ้าหน้าที่บอกว่าเดี๋ยวช่วง 1 ทุ่มจะมีการแสดงอังกอร์เค้าจึงกำลังเพ้นหน้าผู้แสดงกันอยู่ เลยได้โอกาสเก็บภาพน่าสนใจมาฝากค่ะ


ในส่วนพิพิธภัณฑ์ประวัติท่านขงจื้อถ้าเป็นคนชอบอ่านหรือชอบเรื่องราวแนวนี้ก็เพลินๆ ได้ข้อคิดเตือนใจหลายอย่างอยู่เหมือนกันค่ะ ส่วนตัวแล้วกิมชอบนะคะ อ่านเรื่องของท่านก็สะท้อนมาสอนตัวเองได้ตลอดๆ (ตะเตือนใจเบาๆ ฮ่าๆ)

เป็นอันจบทริปค่ะ แม่ลูกขอขอบคุณที่ติดตามจ้า เลิฟๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่