สวัสดีคะนี่เป็นรีวิวครั้งแรก
ได้แรงบันดาลใจจากการอ่านรีวิวดีๆท่านอื่นในPantip บวกกับความเห่อกล้อง Fuji XA2 และเลนส์
35 f1.4 และเมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวทั้งทีเลยลองทำรีวิวนี้ออกมา หวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่สนใจจะไปเที่ยวเพชรบูรณ์ เขาค้อ ภูทับเบิก กังหันลม วัดผาซ่อนแก้ว และ Pino Latte ไม่มากก็น้อย ติชมได้นะคะ
ทริปนี้เราเดินทางไปเที่ยวเพชรบูรณ์ ภูทับเบิก กันคะไปกันทั้งหมด 5 คน เรา พ่อ แม่ เพื่อนแม่ และลูกเพื่อนแม่
ออกเดินทางจากรังสิต 6 โมงเช้าของวันที่ 25 ธ.ค.(อา-จ.) ฟ้ายังมืดราวกับตี 2
เห็นใครๆรีวิวชอบใช้ตุ๊กตาเป็นนางแบบ
เลยเอามั๊ง แต่จะบอกว่าพอไปถึงเพชรบูรณ์จริงๆ ก็หิ้วแต่กล้องลงไปลืมนางแบบ นึกได้อีกทีตอนจะกลับ..
(เชื่อยังว่ามือใหม่ 55)
จากนั้นก็ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆก็ไปถึงเท้า(ตีน)เขาค้อ ด้วยความที่รถเราก็มีอายุมากแล้ว 15 ปี ก็เลยจอดพักรถ
และลงมาหาไรกินกันที่ "CHATTANOOGA KHAOKHO" การเดินทางจากรังสิตมานี้ก็อาศัยดูป้ายมาเรื่อยๆจนมาเข้า
จ.เพชรบูรณ์เราก็ค่อยเปิด Google keyword "เขาค้อ" เพราะไม่เคยมาไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ไม่ได้เตรียมข้อมูลไรมาเลย
มีเพียงรูปที่คนมาเที่ยวเพชรบูรณ์กันแล้วสวยดี เลยอยากมาบ้าง อยากเห็นทะเลหมอก ไร่กะหล่ำปลี วัดผาซ่อนแก้ว บราๆ
ตามที่เคยได้ยินใครๆเขาพูดกัน
หลังจากกินอาหารเสร็จก็เริ่มชับรถต่อ ขึ้นเขา เพื่อไปสถานที่แรกคือ เขาค้อ ณ จุดๆนี้ขอเตือนมือใหม่ทุกคนว่า
ควรเช็คสภาพรถให้ดีๆ และศึกษาการขับรถขึ้นเขาอย่างหนัก เพื่อความปลอดภัยต่อท่านและเพื่อนร่วมทาง
เพราะจะบอกว่ามีขึ้น-ลงเขาเยอะมากสูงชัน (แต่ไม่เท่าเส้นทางปาย-ปางอุ๋ง)
และนี่คือที่แรกที่เรามาถึงจุดชมวิว เขาค้อ?? ใช่ไหม คิดว่าใช่นะ เพราะสวย อากาศดี มีนทท.จอดรถถ่ายรูปกัน
พอสมควร และเขาเขียนว่า "เขาค้อ" เลยคิดว่านี่แหละ Landmark เขาค้อ 555
เดินเล่นถ่ายรูปอย่างเมามันทั้งที่ตอนนั้น 11 โมงกว่าเกือบเที่ยงแล้วแดด แรงแต่อากาศไม่ร้อน มีลมมาตลอด
เย็นสบาย อยู่ตรงจุดชมวิวเขาค้อได้เกือบ 2 ชม. (อยู่ทำอัลไล) ก็แวะหาของกินระหว่างทางเป็นร้านส้มตำเล็กๆ
อันนี้ขอ Skip ไปเพราะรสชาติปกติ เหมือนแถวๆบ้านเรา
แล้วเพื่อนที่บ้านเขาอยู่ที่นั่นก็มารับเรา ลืมบอกไปเราไม่ได้จองที่พัก เราไปนอนบ้านเพื่อน ที่อยู่ใกล้ๆภูทับเบิก
เพราะนางบอกว่าภูทับเบิกทางขึ้น-ลงเขาชันและโค้งเยอะ เดี๋ยวนางพาขึ้นเอง ด้วยความชำนาญทางที่มากกว่า
ดังนั้นวันแรกจึงจบที่การเที่ยวแค่เขาค้อ เพราะเที่ยวเขาหลังเที่ยงไม่สวย ร้อนเหมือนกันหมด
เช้าวันต่อมา ล้อหมุนตั้งแต่หกโมงเพื่อขึ้นภูทับเบิก
จะบอกว่าอย่างที่เพื่อนบอกไว้ขึ้นลงเขาสูง บวก
กับโค้งหักศอกหรือบางทีมากกว่านั้นตลอดเส้นทาง ขนาดรถใหม่ๆยังได้กลิ่นคลัชไหม้เลย ดังนั้น
ขอย้ำอีกครั้งตรวจสภาพรถก่อนมา และ ศึกษาเทคนิคการขับขึ้นเขาด้วย เพราะระหว่างทางเห็นหลายคันเลย
ที่ไม่ได้ไปต่อ รถเสีย.. อ่อนแอ ก็แพ้ไป (เกี่ยวไหม??)
ระหว่างทาง..ก็จะเห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี สดชื่น
แล้วใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดชมวิวภูทับเบิก ประมาณ 6 โมงครึ่ง
วันนี้เป็นวันจันทร์คนเลยไม่เยอะมาก อากาศเย็นสบาย เสียดายไม่มีหมอก
สายๆก็ลงจากเขาและไปต่อที่ อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ จะบอกว่าขนาดมาสายกว่าภูทับเบิกแต่ที่นี่
อากาศดีมาก(กว่า) แนะนำว่าถ้ามาเพชรบูรณ์ต้องมาที่นี่ด้วย ดอกกุหลาบใหญ๋ใหญ่ เสียค่าเข้าด้วย
กี่บาทไม่แน่ใจ เพื่อนจ่ายให้แต่ไม่แพงๆ สบายใจได้
แล้วก็ไปต่อที่กังหันลม นี่ขนาดวันจันทร์นะที่จอดยังเต็ม!! ก็เลยวกรถกลับแล้วไปแวะไร่สตอเบอรี่
ที่อยู่ก่อนถึงกังหันลมหน่อยเดียว จะบอกว่าประทับใจมาก
ถ่ายรูปก็เห็นกังหันลมชัดกว่าขึ้นไปบนนั้นอีก
แถมเขามีสวนให้ถ่ายรูป มีชิงช้าให้เล่น มีไร่สตอเบอรี่ให้เก็บเองจากต้น แถมพ่อค้าใจดีลดให้หนักมาก
รอบหน้าถ้ามา ก็จะมาเช็คอินที่นี่อีก ไม่ขึ้นไปละกังหันลมคนก็เยอะ
จะบอกว่าในเพชรบูรณ์ ประทับใจที่กังหันลมที่สุด ดังนั้นถ้าใครมาเพชรบูรณ์ ห้ามพลาดที่นี่เป็นอันขาด!!
ลงมาจากกังหันบ่ายโมงกว่าๆ มีความหมายมั่นว่าจะมากินขนมจีนหล่มเก่าที่เลื่องชื่อ
ปรากฏว่า หมด!! โกดมากขว้างข้าวข้างของ(มโนในใจ) อาจเพราะวันจันทร์เขาคิดว่าคนน้อย
เลยเตรียมของไม่มาก แต่จะบอกว่าวันนี้คนไม่มากแต่รวมๆก็ไม่น้อยเลยนะ งงไหม นี่ก็งง
ดังนั้นเรื่องอาหารเรา Skip ไป เพราะเลยหาอาหารตามสั่งแถวๆนั้นกินไป
มาต่อที่ ที่ซึ่งใครๆก้ต้องมา Check-in (เพื่อนบอก เพราะก่อนมาไม่ได้ศึกษาไว้) เป็นร้านกาแฟ
ที่เขาว่าวิวดี และคนเยอะทุกวัน (เพื่อนบอก อีกเหมือนกัน55) ก็เลยขอมาโดนสักหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง
เป็นร้านกาแฟที่อยู่ระหว่างทางไปวัดผาซ่อนแก้ว ชื่อร้านไร ทายสิ..เกริ่นขนาดนี้ น่าจะพอรู้กันแล้ว
ชื่อร้าน "Pino Latte coffe" นั่นเอง พอไปถึงต้องบอกชอบเลยนะ แบบขับรถมาเหนื่อยๆ แล้วมานั่งพักรถ ชิลๆ
ที่นี่ มันดี มันโอเคมาก หายเหนื่อยเลย อยากรู้เจ้าของเขาใช้อะไรเลือก ทำเลดีโคตร ท่ามกลางหุบเขาในเวลาบ่าย2
เย็น สดชื่น ฟินเบอร์10 นี่ให้นั่งยัน 5 โมงเย็นยังนั่งได้เลย (อวยไส้แตก) นั่งไปสักพัก ก็ไปสั่งเครื่องดื่มเย็นๆมากิน
แต่มันบ่ายแล้วเลยไม่สั่งกาแฟ โดยรวมอร่อยนะ ชอบทุกแก้ว คือเราไปสั่งไง เลยแอบชิมมาหมด 555
แต่ราคาไม่ต้องพูดถึง..พอๆกับในห้างแหละ ราคาทั่วไปของสถานที่ท่องเที่ยว มันคงไม่ใช่แก้วละ 40-50 หรอก
แต่ไปเที่ยวทั้งที ทำเลที่เขาคัดสรรมาให้ขนาด คุ้ม เชื่อสิ มาเพชรบูรณ์ทั้งที ไงก็ต้องแวะ คราวหน้าถ้ามาอีกก็จะแวะ อิอิ
(นี่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสียอะไรกับทางร้านเลยนะ เพราะถ้าได้จะตั้งอีกอันมาอวยแต่ที่นี่เลย 55
)
Next station วัดผาซ่อนแก้ว ก่อนกลับบ้านยังไงๆก็ต้องมา กราบสักการะ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
เพื่อเป็นศิริมงคล พอมาถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ งดงาม สวยสง่ามาก
ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ลมเย็นสบาย แต่ผู้หญิงควรนุ่งกางเกง/กระโปรงให้เลยเข่านะ
ปิดท้ายก่อนกลับที่ขนม/ร้านของฝาก ด้วยธรรมเนียมคนไทยไปเที่ยวไหนก็ต้องมีของฝาก
ให้กับญาติ ข้างบ้าน และเพื่อนร่วมงาน แต่เราเป็นคนไม่ค่อยชอบกินมะขามก็ไม่รู้จะซื้อไรฝาก
แล้วมาแวะร้านมะขามทอง2 (เลยทางขึ้นวัดผาซ่อนแก้วมานิดนึง) แม่ค้าเขาแนะนำเค้กมะขามหวาน
นี่ก็งงๆ เพราะไม่เคยได้ยิน เขาก็หยิบมาให้ลองชิมฟรี ว้าว เค้กนุ่ม หอมกลิ่นนม/เนย และ เนื้อเค้กมีรสเปรี้ยว
ของมะขามที่มาช่วยตัดให้ไม่เลี่ยนเกินไป อร่อยมากกกกกกก (ลากเสียงไปเรื่อยๆจนกว่าจะสั่งให้หยุด55)
อวยอีกละเรา แต่อร่อยจริงๆนะ ถ้าใครผ่านไปลองแวะไปดู เชื่อหัวไอ้เรืองสิ
ปล.บางภาพไม่ค่อยชัดเพราะใช้มือถือ Samsung A7 ถ่าย เพราะแบต XA2 หมด!!
ลืมเอาที่ชาร์ตไป เคยไปแต่ Day trip เลยลืมคิดไปเลย แหะๆ
[CR] เที่ยวเพชรบูรณ์ ภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน 2560
35 f1.4 และเมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวทั้งทีเลยลองทำรีวิวนี้ออกมา หวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่สนใจจะไปเที่ยวเพชรบูรณ์ เขาค้อ ภูทับเบิก กังหันลม วัดผาซ่อนแก้ว และ Pino Latte ไม่มากก็น้อย ติชมได้นะคะ
ทริปนี้เราเดินทางไปเที่ยวเพชรบูรณ์ ภูทับเบิก กันคะไปกันทั้งหมด 5 คน เรา พ่อ แม่ เพื่อนแม่ และลูกเพื่อนแม่
ออกเดินทางจากรังสิต 6 โมงเช้าของวันที่ 25 ธ.ค.(อา-จ.) ฟ้ายังมืดราวกับตี 2
เห็นใครๆรีวิวชอบใช้ตุ๊กตาเป็นนางแบบ
เลยเอามั๊ง แต่จะบอกว่าพอไปถึงเพชรบูรณ์จริงๆ ก็หิ้วแต่กล้องลงไปลืมนางแบบ นึกได้อีกทีตอนจะกลับ.. (เชื่อยังว่ามือใหม่ 55)
จากนั้นก็ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆก็ไปถึงเท้า(ตีน)เขาค้อ ด้วยความที่รถเราก็มีอายุมากแล้ว 15 ปี ก็เลยจอดพักรถ
และลงมาหาไรกินกันที่ "CHATTANOOGA KHAOKHO" การเดินทางจากรังสิตมานี้ก็อาศัยดูป้ายมาเรื่อยๆจนมาเข้า
จ.เพชรบูรณ์เราก็ค่อยเปิด Google keyword "เขาค้อ" เพราะไม่เคยมาไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ไม่ได้เตรียมข้อมูลไรมาเลย
มีเพียงรูปที่คนมาเที่ยวเพชรบูรณ์กันแล้วสวยดี เลยอยากมาบ้าง อยากเห็นทะเลหมอก ไร่กะหล่ำปลี วัดผาซ่อนแก้ว บราๆ
ตามที่เคยได้ยินใครๆเขาพูดกัน
หลังจากกินอาหารเสร็จก็เริ่มชับรถต่อ ขึ้นเขา เพื่อไปสถานที่แรกคือ เขาค้อ ณ จุดๆนี้ขอเตือนมือใหม่ทุกคนว่า
ควรเช็คสภาพรถให้ดีๆ และศึกษาการขับรถขึ้นเขาอย่างหนัก เพื่อความปลอดภัยต่อท่านและเพื่อนร่วมทาง
เพราะจะบอกว่ามีขึ้น-ลงเขาเยอะมากสูงชัน (แต่ไม่เท่าเส้นทางปาย-ปางอุ๋ง)
และนี่คือที่แรกที่เรามาถึงจุดชมวิว เขาค้อ?? ใช่ไหม คิดว่าใช่นะ เพราะสวย อากาศดี มีนทท.จอดรถถ่ายรูปกัน
พอสมควร และเขาเขียนว่า "เขาค้อ" เลยคิดว่านี่แหละ Landmark เขาค้อ 555
เดินเล่นถ่ายรูปอย่างเมามันทั้งที่ตอนนั้น 11 โมงกว่าเกือบเที่ยงแล้วแดด แรงแต่อากาศไม่ร้อน มีลมมาตลอด
เย็นสบาย อยู่ตรงจุดชมวิวเขาค้อได้เกือบ 2 ชม. (อยู่ทำอัลไล) ก็แวะหาของกินระหว่างทางเป็นร้านส้มตำเล็กๆ
อันนี้ขอ Skip ไปเพราะรสชาติปกติ เหมือนแถวๆบ้านเรา
แล้วเพื่อนที่บ้านเขาอยู่ที่นั่นก็มารับเรา ลืมบอกไปเราไม่ได้จองที่พัก เราไปนอนบ้านเพื่อน ที่อยู่ใกล้ๆภูทับเบิก
เพราะนางบอกว่าภูทับเบิกทางขึ้น-ลงเขาชันและโค้งเยอะ เดี๋ยวนางพาขึ้นเอง ด้วยความชำนาญทางที่มากกว่า
ดังนั้นวันแรกจึงจบที่การเที่ยวแค่เขาค้อ เพราะเที่ยวเขาหลังเที่ยงไม่สวย ร้อนเหมือนกันหมด
เช้าวันต่อมา ล้อหมุนตั้งแต่หกโมงเพื่อขึ้นภูทับเบิก
จะบอกว่าอย่างที่เพื่อนบอกไว้ขึ้นลงเขาสูง บวก
กับโค้งหักศอกหรือบางทีมากกว่านั้นตลอดเส้นทาง ขนาดรถใหม่ๆยังได้กลิ่นคลัชไหม้เลย ดังนั้น
ขอย้ำอีกครั้งตรวจสภาพรถก่อนมา และ ศึกษาเทคนิคการขับขึ้นเขาด้วย เพราะระหว่างทางเห็นหลายคันเลย
ที่ไม่ได้ไปต่อ รถเสีย.. อ่อนแอ ก็แพ้ไป (เกี่ยวไหม??)
ระหว่างทาง..ก็จะเห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี สดชื่น
แล้วใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดชมวิวภูทับเบิก ประมาณ 6 โมงครึ่ง
วันนี้เป็นวันจันทร์คนเลยไม่เยอะมาก อากาศเย็นสบาย เสียดายไม่มีหมอก
สายๆก็ลงจากเขาและไปต่อที่ อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ จะบอกว่าขนาดมาสายกว่าภูทับเบิกแต่ที่นี่
อากาศดีมาก(กว่า) แนะนำว่าถ้ามาเพชรบูรณ์ต้องมาที่นี่ด้วย ดอกกุหลาบใหญ๋ใหญ่ เสียค่าเข้าด้วย
กี่บาทไม่แน่ใจ เพื่อนจ่ายให้แต่ไม่แพงๆ สบายใจได้
แล้วก็ไปต่อที่กังหันลม นี่ขนาดวันจันทร์นะที่จอดยังเต็ม!! ก็เลยวกรถกลับแล้วไปแวะไร่สตอเบอรี่
ที่อยู่ก่อนถึงกังหันลมหน่อยเดียว จะบอกว่าประทับใจมาก ถ่ายรูปก็เห็นกังหันลมชัดกว่าขึ้นไปบนนั้นอีก
แถมเขามีสวนให้ถ่ายรูป มีชิงช้าให้เล่น มีไร่สตอเบอรี่ให้เก็บเองจากต้น แถมพ่อค้าใจดีลดให้หนักมาก
รอบหน้าถ้ามา ก็จะมาเช็คอินที่นี่อีก ไม่ขึ้นไปละกังหันลมคนก็เยอะ
จะบอกว่าในเพชรบูรณ์ ประทับใจที่กังหันลมที่สุด ดังนั้นถ้าใครมาเพชรบูรณ์ ห้ามพลาดที่นี่เป็นอันขาด!!
ลงมาจากกังหันบ่ายโมงกว่าๆ มีความหมายมั่นว่าจะมากินขนมจีนหล่มเก่าที่เลื่องชื่อ
ปรากฏว่า หมด!! โกดมากขว้างข้าวข้างของ(มโนในใจ) อาจเพราะวันจันทร์เขาคิดว่าคนน้อย
เลยเตรียมของไม่มาก แต่จะบอกว่าวันนี้คนไม่มากแต่รวมๆก็ไม่น้อยเลยนะ งงไหม นี่ก็งง
ดังนั้นเรื่องอาหารเรา Skip ไป เพราะเลยหาอาหารตามสั่งแถวๆนั้นกินไป
มาต่อที่ ที่ซึ่งใครๆก้ต้องมา Check-in (เพื่อนบอก เพราะก่อนมาไม่ได้ศึกษาไว้) เป็นร้านกาแฟ
ที่เขาว่าวิวดี และคนเยอะทุกวัน (เพื่อนบอก อีกเหมือนกัน55) ก็เลยขอมาโดนสักหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง
เป็นร้านกาแฟที่อยู่ระหว่างทางไปวัดผาซ่อนแก้ว ชื่อร้านไร ทายสิ..เกริ่นขนาดนี้ น่าจะพอรู้กันแล้ว
ชื่อร้าน "Pino Latte coffe" นั่นเอง พอไปถึงต้องบอกชอบเลยนะ แบบขับรถมาเหนื่อยๆ แล้วมานั่งพักรถ ชิลๆ
ที่นี่ มันดี มันโอเคมาก หายเหนื่อยเลย อยากรู้เจ้าของเขาใช้อะไรเลือก ทำเลดีโคตร ท่ามกลางหุบเขาในเวลาบ่าย2
เย็น สดชื่น ฟินเบอร์10 นี่ให้นั่งยัน 5 โมงเย็นยังนั่งได้เลย (อวยไส้แตก) นั่งไปสักพัก ก็ไปสั่งเครื่องดื่มเย็นๆมากิน
แต่มันบ่ายแล้วเลยไม่สั่งกาแฟ โดยรวมอร่อยนะ ชอบทุกแก้ว คือเราไปสั่งไง เลยแอบชิมมาหมด 555
แต่ราคาไม่ต้องพูดถึง..พอๆกับในห้างแหละ ราคาทั่วไปของสถานที่ท่องเที่ยว มันคงไม่ใช่แก้วละ 40-50 หรอก
แต่ไปเที่ยวทั้งที ทำเลที่เขาคัดสรรมาให้ขนาด คุ้ม เชื่อสิ มาเพชรบูรณ์ทั้งที ไงก็ต้องแวะ คราวหน้าถ้ามาอีกก็จะแวะ อิอิ
(นี่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสียอะไรกับทางร้านเลยนะ เพราะถ้าได้จะตั้งอีกอันมาอวยแต่ที่นี่เลย 55 )
Next station วัดผาซ่อนแก้ว ก่อนกลับบ้านยังไงๆก็ต้องมา กราบสักการะ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
เพื่อเป็นศิริมงคล พอมาถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ งดงาม สวยสง่ามาก
ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ลมเย็นสบาย แต่ผู้หญิงควรนุ่งกางเกง/กระโปรงให้เลยเข่านะ
ปิดท้ายก่อนกลับที่ขนม/ร้านของฝาก ด้วยธรรมเนียมคนไทยไปเที่ยวไหนก็ต้องมีของฝาก
ให้กับญาติ ข้างบ้าน และเพื่อนร่วมงาน แต่เราเป็นคนไม่ค่อยชอบกินมะขามก็ไม่รู้จะซื้อไรฝาก
แล้วมาแวะร้านมะขามทอง2 (เลยทางขึ้นวัดผาซ่อนแก้วมานิดนึง) แม่ค้าเขาแนะนำเค้กมะขามหวาน
นี่ก็งงๆ เพราะไม่เคยได้ยิน เขาก็หยิบมาให้ลองชิมฟรี ว้าว เค้กนุ่ม หอมกลิ่นนม/เนย และ เนื้อเค้กมีรสเปรี้ยว
ของมะขามที่มาช่วยตัดให้ไม่เลี่ยนเกินไป อร่อยมากกกกกกก (ลากเสียงไปเรื่อยๆจนกว่าจะสั่งให้หยุด55)
อวยอีกละเรา แต่อร่อยจริงๆนะ ถ้าใครผ่านไปลองแวะไปดู เชื่อหัวไอ้เรืองสิ
ปล.บางภาพไม่ค่อยชัดเพราะใช้มือถือ Samsung A7 ถ่าย เพราะแบต XA2 หมด!!
ลืมเอาที่ชาร์ตไป เคยไปแต่ Day trip เลยลืมคิดไปเลย แหะๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น