3วัน2คืน ที่ พิษณุโลก x เพชรบูรณ์
ทริปนี้ค่อนข้างกระทันหันและไม่ได้มีการเตรียมตัวไปเยอะเท่าไหร่
แต่เป็นทริปที่ประทับใจสุดสุดดดดด
อะ! มาดูกัน 3วัน2คืนเราได้ไปไหนมาบ้าง
-วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
-อุทยานภูหินร่องกล้า
-ภูลมโล
-ภูทับเบิก
-เขาแผงม้า
-ลานหินปุ่ม
-เขาค้อ
-ทุ่งกังหันลม
-วัดผาซ่อนแก้ว
เราเดินทางจากกรุงเทพถึงพิษณุโลก ใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมงครึ่ง
เริ่มต้นกันที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่เรียกกันว่า 'วัดใหญ่'
เช้าไปเค้าเตอร์เสี่ยงดวงยังไม่เปิดนะจ้ะ รอซักสายๆหน่อย ออกมาเลือกซื้อเลือกเสี่ยงกันได้เต็มที่
ไม่ต้องแย่งกัน มีเป็นสิบร้านค้าให้เลือกสรรค์ 5555
เดินชมเดินนอกไปบ้างแล้ว เข้ามาในตัววัดบ้างดีกว่า
ไหว้พระ ทำบุญเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นตรงตลาดในวัดอีกซักแปป
มีของขายเยอะแยะ เต็มไปหมด
-----อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า------
เสร็จจากวัดใหญ่แล้ว ออกเดินทางไป'อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า' อุทยานตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด
คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเราจะพักกันที่
อุทยานภูหินร่องกล้าเลย
เนื่องจากหลังจากไปวัดเสร็จรถของเรามีปัญหาเล็กน้อย ทำให้เสียเวลากับตรงนั้นไปพอสมควร ถึงอุทยานก็บ่ายกว่าๆแล้ว
แต่โชคดีที่ห้องพักเหลือห้องสุดท้ายพอดิบพอดี ค่าห้องพักตกคนละ 300บ.นะคะ ห้องที่เราพักมี3ห้องนอน 2ห้องน้ำ มีโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่อยู่ด้านนอกบ้าน สามารถปิ้งย่างอะไรได้สะดวกมากๆ เนื่องจากเป็นที่พักในอุทยานอาจจะไม่ได้สวยหรู ดูดีมาก คืออยู่ได้ ปลอดภัยดี น้ำอุ่นมี มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ มีของที่จำเป็นขายครบ ถ้าไม่ได้เอาวิว เอาบรรยากาศอะไรมาก ก็แนะนำนะ เพราะพอหน้าหนาวค่าที่พักหลายๆที่ก็ขึ้นราคากันโหดเหมือนกัน
-----ภูหินลมโล-----
เก็บของเสร็จ เราก็ออกไป ภูหินลมโลกัน
แต่ต้องขอพับแผนนี้เก็บไว้ก่อน เพราะพอขึ้นไปตรงจุดบริการที่จะต่อรถไป
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ดอกพญาเสือโคร่งยังไม่บาน อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่ที่จะต้องนั่งรถต่อขึ้นไป
และแนะนำว่าช่วงที่บานเต็มที่ คือประมาณปลายมกราคม จริงๆเราก็โทรเช็คก่อนขึ้นมาแล้วแหละ
ว่ามันยังไม่บานสวย แต่คิดว่าไหนๆก็มาแล้ว ขึ้นไปชมวิวหน่อยก็ได้ แต่พอมาถึงเห็นทางที่เราจะต่อรถขึ้นไป
บวกกับว่าดอกพญาเสือโคร่งยังไม่บาน ก็เลยต้องขอเก็บแพลนนี้ไว้ก่อนแล้วกัน
*ใครจะมา แนะนำว่าเตรียมผ้าคลุมหน้าคลุมจมูกไว้นะ เพราะว่าพื้นทางขึ้นเขาเป็นดินแดงๆ แล้วต้องนั่งกระบะขึ้นไป
ฝุ่นตะลบมากจ้ะ*
-----ภูทับเบิก-----
อกหักจากภูลมโล เลยขอมาต่อที่ ภูทับเบิกแทนก็ด้ายยยยย
อากาศเย็นๆ วิวสวยๆ นี้มันดีจริงๆ
ชมวิวเสร็จแล้วก็แวะไปเก็บสตรอเบอรี่สดๆจากต้นกันดีกว่า
เลยไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ
มองไม่เห็นเลยใช่มะ?! 5555 อย่างที่บอกไปว่าไปถึงบ่ายๆแล้ว กว่าจะมาถึงนี้ก็ประมาณ4-5โมงเย็น
คงโดนคนเก็บไปเยอะแล้วแหละเนอะ แต่ขนาดเหลือน้อยๆก็เก็บมาได้ครึ่งโลเลยนะ ลูกเล็กแต่หวานดีค่ะ
-----เขาแผงม้า-----
เก็บสตรอเบอรี่จนเหนื่อยแล้ว ที่สุดท้ายของวันนี้ คือเขาแผงม้า
ขับมาจากตรงไร่สตรอเบอรี่ไม่ไกลมากค่ะ
เราจอดรถกันไว้ด้านล่างแล้วเดินขึ้นไปประมาณ10-15นาที
แล้วแต่อายุและเรี่ยวแรง 55555
*แต่ถ้าใครเป็นรถกระบะ หรอรถที่ลุยเขาได้ก็ขับขึ้นไปได้นะคะ*
มีคนมาจับจองกางเต็นท์กัน อากาศช่วงเย็นประมาณ10องศานิดๆค่ะ
อยู่จนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ก็กลับที่พักไปปิ้งหมูกระทะกินกันค่ะ
แถวร้านอาหารใกล้ที่พักมีร้านเครปอยู่ อร่อยมาก แป้งกรอบ ราคาถูก
ใส่3-4ไส้ก็ราคา 30บ.เท่าเดิม ฟินนนน
-----------------------------------------------------------------------------------
DAY2
-----ลานหินปุ่ม-----
ในส่วนที่เที่ยวตรงนี้นั้นนนน บอกเลย ใส่ผ้าใบ เตรียมน้ำดื่ม และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะจ้ะ
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่เราจะไปถึงจุดหมายแบบที่เราวาดฝันไว้ 5555
คือ.....มันเหนื่อย ม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
ระหว่างทางก็จะมีหินนู้น หินนี้ให้ดูไปเรื่อยๆ และมีหินปุ่มเป็นระยะๆ
หลอกดาวมาก เห็นทีไรจะนึกว่าถึงแล้วตลอด
ยัง ยังไม่ถึงอีกกกก
อะๆมีปุ่มๆ แสดงว่าเราใกล้ถึงแล้วว
ถึงแล้ววววว ของจริงสวยมาก แต่ช่วงที่ไปคนเต็มเลย เลยอาจจะเก็บภาพมุมกว้างมาไม่ได้มากเท่าไหร่
เสร็จจากลานหินปุ่ม ก็จะมีผาชูธง แต่ไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ เพราะคุณชายดันต้องการเข้าห้องน้ำด่วน
ทางเดียวที่จะช่วยสามีได้ คือวิ่งลงเขาจ้าาาาา (เอาจริงๆคือเกือบเป็นลม) และค้นพบว่าถ้าหากต้องการมาดูแค่ผาชูธงหรือลานหินปุ่ม
สามารถเดินย้อนมาทางซ้ายได้เลย ใกล้กว่ามากถึงมากที่สุด เหมาะกับใครที่พาคุณแม่หรือบุคคลที่อายุเยอะแล้วมา ก็พอไหวอยู่น้า
ระหว่างวิ่งลงเขา ก็สวนกับคนที่กำลังเดินขึ้น โอ๊ยยยย อารมณ์ดี ยิ้มแย้มกันทุกคน แล้วมองมาทางเราด้วยสายตาแปลกๆ
ประมาณว่า เหงื่อแตกอะไรมา เอ๊ะ ทะเลาะกับหินหรอ? หรือไง? ตอนนั้นคิดในใจว่า หึหึ เดี๋ยวรู้เลยยยย
ใครลงมาสภาพเดิม กราบบบบบบบค่ะ
-----ทุ่งกังหันลม-----
เสร็จจากลานหินปุ่ม มาต่อกันที่ทุ่งกังหันลม(เขาค้อ) วันนี้เจอแต่บททดสอบชีวิตที่หนักหน่วงมาก
ทางขึ้นทุ่งกังหันลมก็โหดไม่แพ้ลานหินปุ่มค่ะ ต่างกันที่อันนี้เป็นการทดสอบสกิลการขับรถ
เอาจริงๆก็ค่อนข้างอันตรายนะ ทางเล็กมาก ถนนยังไม่เสร็จดี เป็นดินแดงๆ ขรุขระ
ตอนไปก็เกือบมีรถไหลลงมาชน
ทุ่งกังหันลม ตั้งอยู่บนพื้นที่ของบ้านเพชรดำในต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
บนยอดเนินเขาที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,050 เมตร บนเนื้อที่ประมาณ 350 ไร่
ใช้เวลาเดินทางจากลานหินปุ่ม ประมาณเกือบชั่วโมง
-----วัดผาซ่อนแก้ว-----
มาต่อกันที่เที่ยวที่สุดท้ายของทริปนี้ แต่ว่าเริ่มหิวกันแล้ว เลยขับเลยวัดผาซ่อนแก้วมาหน่อย
จะเจอร้านคาเฟ่ วิวดีงาม แหมะแก่การแวะพัก จิบกาแฟไป ชมวิวไป
แต่!! วันหยุดอะ คนเลยเยอะมากกก แทบจะไม่มีที่นั่ง สั่งน้ำไปต้องรอประมาณ30นาที
ที่นี้เค้ามีบริการที่พักด้วยนะ แต่ไม่รู้รายละเอียดนะคะ
วิวมองเห็นวัดผาซ่อนแก้ว
เมนูที่สั่งมาคือ บานอฟฟี่ ชาพีช แล้วก็ช็อคโกแลตปั่น
เสร็จจากวัดผ่าซ่อนแก้ว เราก็ไปแวะทานข้าวที่ร้าน ปีนัง ต่อ
เป็นร้านที่ประทับใจมาก
[CR] ไปเหอะ (รีวิว) 3วัน2คืน พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ : ภูทับเบิก เขาแผงม้า ลานหินปุ่ม เขาค้อ ทุ่งกังหันลม วัดผาซ่อนแก้ว
ทริปนี้ค่อนข้างกระทันหันและไม่ได้มีการเตรียมตัวไปเยอะเท่าไหร่
แต่เป็นทริปที่ประทับใจสุดสุดดดดด
อะ! มาดูกัน 3วัน2คืนเราได้ไปไหนมาบ้าง
-วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
-อุทยานภูหินร่องกล้า
-ภูลมโล
-ภูทับเบิก
-เขาแผงม้า
-ลานหินปุ่ม
-เขาค้อ
-ทุ่งกังหันลม
-วัดผาซ่อนแก้ว
เราเดินทางจากกรุงเทพถึงพิษณุโลก ใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมงครึ่ง
เริ่มต้นกันที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่เรียกกันว่า 'วัดใหญ่'
ไม่ต้องแย่งกัน มีเป็นสิบร้านค้าให้เลือกสรรค์ 5555
เดินชมเดินนอกไปบ้างแล้ว เข้ามาในตัววัดบ้างดีกว่า
มีของขายเยอะแยะ เต็มไปหมด
คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเราจะพักกันที่
อุทยานภูหินร่องกล้าเลย
เนื่องจากหลังจากไปวัดเสร็จรถของเรามีปัญหาเล็กน้อย ทำให้เสียเวลากับตรงนั้นไปพอสมควร ถึงอุทยานก็บ่ายกว่าๆแล้ว
แต่โชคดีที่ห้องพักเหลือห้องสุดท้ายพอดิบพอดี ค่าห้องพักตกคนละ 300บ.นะคะ ห้องที่เราพักมี3ห้องนอน 2ห้องน้ำ มีโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่อยู่ด้านนอกบ้าน สามารถปิ้งย่างอะไรได้สะดวกมากๆ เนื่องจากเป็นที่พักในอุทยานอาจจะไม่ได้สวยหรู ดูดีมาก คืออยู่ได้ ปลอดภัยดี น้ำอุ่นมี มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ มีของที่จำเป็นขายครบ ถ้าไม่ได้เอาวิว เอาบรรยากาศอะไรมาก ก็แนะนำนะ เพราะพอหน้าหนาวค่าที่พักหลายๆที่ก็ขึ้นราคากันโหดเหมือนกัน
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ดอกพญาเสือโคร่งยังไม่บาน อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่ที่จะต้องนั่งรถต่อขึ้นไป
และแนะนำว่าช่วงที่บานเต็มที่ คือประมาณปลายมกราคม จริงๆเราก็โทรเช็คก่อนขึ้นมาแล้วแหละ
ว่ามันยังไม่บานสวย แต่คิดว่าไหนๆก็มาแล้ว ขึ้นไปชมวิวหน่อยก็ได้ แต่พอมาถึงเห็นทางที่เราจะต่อรถขึ้นไป
บวกกับว่าดอกพญาเสือโคร่งยังไม่บาน ก็เลยต้องขอเก็บแพลนนี้ไว้ก่อนแล้วกัน
*ใครจะมา แนะนำว่าเตรียมผ้าคลุมหน้าคลุมจมูกไว้นะ เพราะว่าพื้นทางขึ้นเขาเป็นดินแดงๆ แล้วต้องนั่งกระบะขึ้นไป
ฝุ่นตะลบมากจ้ะ*
ชมวิวเสร็จแล้วก็แวะไปเก็บสตรอเบอรี่สดๆจากต้นกันดีกว่า
เลยไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ
คงโดนคนเก็บไปเยอะแล้วแหละเนอะ แต่ขนาดเหลือน้อยๆก็เก็บมาได้ครึ่งโลเลยนะ ลูกเล็กแต่หวานดีค่ะ
ขับมาจากตรงไร่สตรอเบอรี่ไม่ไกลมากค่ะ
เราจอดรถกันไว้ด้านล่างแล้วเดินขึ้นไปประมาณ10-15นาที
แล้วแต่อายุและเรี่ยวแรง 55555
*แต่ถ้าใครเป็นรถกระบะ หรอรถที่ลุยเขาได้ก็ขับขึ้นไปได้นะคะ*
แถวร้านอาหารใกล้ที่พักมีร้านเครปอยู่ อร่อยมาก แป้งกรอบ ราคาถูก
ใส่3-4ไส้ก็ราคา 30บ.เท่าเดิม ฟินนนน
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่เราจะไปถึงจุดหมายแบบที่เราวาดฝันไว้ 5555
คือ.....มันเหนื่อย ม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
หลอกดาวมาก เห็นทีไรจะนึกว่าถึงแล้วตลอด
ทางเดียวที่จะช่วยสามีได้ คือวิ่งลงเขาจ้าาาาา (เอาจริงๆคือเกือบเป็นลม) และค้นพบว่าถ้าหากต้องการมาดูแค่ผาชูธงหรือลานหินปุ่ม
สามารถเดินย้อนมาทางซ้ายได้เลย ใกล้กว่ามากถึงมากที่สุด เหมาะกับใครที่พาคุณแม่หรือบุคคลที่อายุเยอะแล้วมา ก็พอไหวอยู่น้า
ระหว่างวิ่งลงเขา ก็สวนกับคนที่กำลังเดินขึ้น โอ๊ยยยย อารมณ์ดี ยิ้มแย้มกันทุกคน แล้วมองมาทางเราด้วยสายตาแปลกๆ
ประมาณว่า เหงื่อแตกอะไรมา เอ๊ะ ทะเลาะกับหินหรอ? หรือไง? ตอนนั้นคิดในใจว่า หึหึ เดี๋ยวรู้เลยยยย
ใครลงมาสภาพเดิม กราบบบบบบบค่ะ
ทางขึ้นทุ่งกังหันลมก็โหดไม่แพ้ลานหินปุ่มค่ะ ต่างกันที่อันนี้เป็นการทดสอบสกิลการขับรถ
เอาจริงๆก็ค่อนข้างอันตรายนะ ทางเล็กมาก ถนนยังไม่เสร็จดี เป็นดินแดงๆ ขรุขระ
ตอนไปก็เกือบมีรถไหลลงมาชน
ทุ่งกังหันลม ตั้งอยู่บนพื้นที่ของบ้านเพชรดำในต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
บนยอดเนินเขาที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,050 เมตร บนเนื้อที่ประมาณ 350 ไร่
ใช้เวลาเดินทางจากลานหินปุ่ม ประมาณเกือบชั่วโมง
จะเจอร้านคาเฟ่ วิวดีงาม แหมะแก่การแวะพัก จิบกาแฟไป ชมวิวไป
แต่!! วันหยุดอะ คนเลยเยอะมากกก แทบจะไม่มีที่นั่ง สั่งน้ำไปต้องรอประมาณ30นาที
ที่นี้เค้ามีบริการที่พักด้วยนะ แต่ไม่รู้รายละเอียดนะคะ
วิวมองเห็นวัดผาซ่อนแก้ว
เมนูที่สั่งมาคือ บานอฟฟี่ ชาพีช แล้วก็ช็อคโกแลตปั่น
เสร็จจากวัดผ่าซ่อนแก้ว เราก็ไปแวะทานข้าวที่ร้าน ปีนัง ต่อ
เป็นร้านที่ประทับใจมาก