สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้เรามาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาค Chukogu ประเทศญี่ปุ่น ที่ Chukogu มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆๆ เราเลยขอแบ่งเป็น Part ไปละกันเนาะ แต่วันนี้จะมาเริ่มแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใน 2 จังหวัดแรก นั่นก็คือ จังหวัด Yamaguchi และ จังหวัด Hiroshima ไปดูกันเลยยยยยยยยยยย
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากจังหวัด Fukuoka เกาะ Kyushu ไปยังเมือง Yamaguchi เกาะ Honshu กันค่ะ ซึ่งสองเกาะนี้อยู่ห่างกันเพียง 700 เมตรเท่านั้น มีสะพานแขวนชื่อ Kanmon ที่เชื่อมระหว่างสองเกาะ วิวที่สะพานแขวนนี้สวยงามและโรแมนติกมากๆ ถือว่าเป็นอีกสถานที่นึงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายกันค่ะ
เราเดินทางมาถึง ตลาดปลา Karato ที่นี่เป็นตลาดไปด้วยผู้คนที่ชื่นชอบอาหารทะเลสดใหม่และเชฟที่ต้องการวัตถุดิบสดๆ จากทะเลตลาดปลาที่นี่เค้ามีชื่อเสียงเรื่อง ปลาปักเป้าค่ะ! เพราะว่าจังหวัด Yamaguchi โด่งดังเรื่องปลาปักเป้ามากๆ เนื่องจากเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ปลาชนิดนี้ทำอาหาร ปลาชนิดนี้มีราคาแพงอยู่พิสมควรค่ะ ใครที่อยากลองชิมเนื้อปลาปักเป้าสดๆอร่อยๆแห่งเกาะ Honshu ก็ต้องมาที่นี่นะคะ!
หลังจากเดินชมตลาดปลาจนเหนื่อยแล้ว เราก็มาพักทานซูชิแสนอร่อยกันค่ะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วเราไดดินทางไปยัง Yamaguchi Saikotei ค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ ที่มีวัตถุโบราณให้ชมมากมายค่ะ สมัยก่อนสถานที่นี้เป็นร้านอาหารดั้งเดิมสุดหรูที่เอาไว้คอยรองรับแขกคนสำคัญของญี่ปุ่น เราสามารถเดินชมตึกโบราณและสวนญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ และที่นี่ยังมีบริการให้เช่าชุดกิโมโนอีด้วยนะคะ รู้สึกเหมือนได้สัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นย้อนยุคของแท้เลยละค่ะ
สะพานโค้งที่ดูแปลกต่างจากสะพานในบ้านเรานี้มีชื่อว่า สะพาน Kintai ค่ะ ถือว่าเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ สร้างขึ้นเมื่อ 340 ปีก่อน โดยการวางส่วนโค้ง 5 ส่วนลงบนเสาหิน 4 ต้น ใกล้ๆ กับสะพาน Kintai จะมีสวน kikko และ สวน Momiji ค่ะ เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ญี่ปุ่นแบบนี้ เราจะได้ชื่นชมกับใบไม้เปลี่ยนสีสวยแสนประทับใจกันค่ะ
ภายในสวน kikko มีพิพิธภัณฑ์ Iwakuni Shirohebi เป็นจัดแสดงสัตว์หายาก นั่นก็คือ งูเผือก นั่นเองค่ะ
งูเผือก ถือเป็นงูท้องถิ่นหายากที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง Iwakuni และหาไม่ได้จากพื้นที่อื่นในโลกเลยนะคะ ตามความเชื่อคนญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่างูเผือกจะนำความโชคดีมาให้ล่ะค่ะ หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จเราก็เดินทางไปต่อกันที่จังหวัด Hiroshima
มาถึงจังหวัด Hiroshima กันแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้คือการไปแวะกินหอยนางรมสดๆ กันที่ร้าน Shimado Suisan ค่ะ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อมากๆเรื่องหอยนางรม ถือว่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ
อิ่มท้องกันแล้วก็เดินทางไปยังเกาะ Miyajima โดยเรือเฟอร์รี่ เราจะเดินทางไปไหว้ศาลเจ้า Itsukushima เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเกาะ Miyajima เกาะเล็กๆ ทีห่างจากตัวเมือง Hiroshima ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ Itsukushima เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ไฮท์ไลท์ของศาลเจ้านี้ก็คือ ประตู Torii สีแดงที่ตั้งตระง่าอยู่กลางน้ำค่ะ ซึ่งสถานที่นี้ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สถานที่วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น
รอบๆ บริเวณศาลเจ้า เราสามารถเดินเล่นตามทางเล็กของเกาะ ระหว่างทางก็จะมีร้านค้าของที่ระลึกต่าง ๆ จากท้องถิ่น สวนธรรมชาติสวย ๆ ให้ได้ผ่อนคลายและถ่ายรูปสวยๆกันค่ะ
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการไปกินอาหารชื่อดังของเมือง Hiroshima นั่นก็คือ Okonomiyaki หรือ พิซซ่าญี่ปุ่นสูตรของ Hiroshima นั้งเอาค่ะ ซึ่งมีมากว่า 70 ปีแล้ว ที่ Okonomiyaki village ในเมือง Hiroshima แห่งนี้ เป็นสถานที่ชื่อดังที่รวบรวมร้านขายเมนูนี้ทั้งตึกเลยทีเดียว ถ้าใครไม่ลองเมนูนี้ แสดงว่ามาไม่ถึง Hiroshima นะคะ!
*** สำหรับวันนี้ เราขอจบทริปการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาค Chugoku ไว้เพียงเท่านี้ก่อนไว้เจอกันครั้งหน้า เร็วๆ นี้แน่นอนจ้า มาตะเนะ !!!
[CR] Review ตะลุยเที่ยว ชูโกกุ (Chugoku) Part 1
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากจังหวัด Fukuoka เกาะ Kyushu ไปยังเมือง Yamaguchi เกาะ Honshu กันค่ะ ซึ่งสองเกาะนี้อยู่ห่างกันเพียง 700 เมตรเท่านั้น มีสะพานแขวนชื่อ Kanmon ที่เชื่อมระหว่างสองเกาะ วิวที่สะพานแขวนนี้สวยงามและโรแมนติกมากๆ ถือว่าเป็นอีกสถานที่นึงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายกันค่ะ
เราเดินทางมาถึง ตลาดปลา Karato ที่นี่เป็นตลาดไปด้วยผู้คนที่ชื่นชอบอาหารทะเลสดใหม่และเชฟที่ต้องการวัตถุดิบสดๆ จากทะเลตลาดปลาที่นี่เค้ามีชื่อเสียงเรื่อง ปลาปักเป้าค่ะ! เพราะว่าจังหวัด Yamaguchi โด่งดังเรื่องปลาปักเป้ามากๆ เนื่องจากเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ปลาชนิดนี้ทำอาหาร ปลาชนิดนี้มีราคาแพงอยู่พิสมควรค่ะ ใครที่อยากลองชิมเนื้อปลาปักเป้าสดๆอร่อยๆแห่งเกาะ Honshu ก็ต้องมาที่นี่นะคะ!
หลังจากเดินชมตลาดปลาจนเหนื่อยแล้ว เราก็มาพักทานซูชิแสนอร่อยกันค่ะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วเราไดดินทางไปยัง Yamaguchi Saikotei ค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ ที่มีวัตถุโบราณให้ชมมากมายค่ะ สมัยก่อนสถานที่นี้เป็นร้านอาหารดั้งเดิมสุดหรูที่เอาไว้คอยรองรับแขกคนสำคัญของญี่ปุ่น เราสามารถเดินชมตึกโบราณและสวนญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ และที่นี่ยังมีบริการให้เช่าชุดกิโมโนอีด้วยนะคะ รู้สึกเหมือนได้สัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นย้อนยุคของแท้เลยละค่ะ
สะพานโค้งที่ดูแปลกต่างจากสะพานในบ้านเรานี้มีชื่อว่า สะพาน Kintai ค่ะ ถือว่าเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ สร้างขึ้นเมื่อ 340 ปีก่อน โดยการวางส่วนโค้ง 5 ส่วนลงบนเสาหิน 4 ต้น ใกล้ๆ กับสะพาน Kintai จะมีสวน kikko และ สวน Momiji ค่ะ เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ญี่ปุ่นแบบนี้ เราจะได้ชื่นชมกับใบไม้เปลี่ยนสีสวยแสนประทับใจกันค่ะ
ภายในสวน kikko มีพิพิธภัณฑ์ Iwakuni Shirohebi เป็นจัดแสดงสัตว์หายาก นั่นก็คือ งูเผือก นั่นเองค่ะ
งูเผือก ถือเป็นงูท้องถิ่นหายากที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง Iwakuni และหาไม่ได้จากพื้นที่อื่นในโลกเลยนะคะ ตามความเชื่อคนญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่างูเผือกจะนำความโชคดีมาให้ล่ะค่ะ หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จเราก็เดินทางไปต่อกันที่จังหวัด Hiroshima
มาถึงจังหวัด Hiroshima กันแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้คือการไปแวะกินหอยนางรมสดๆ กันที่ร้าน Shimado Suisan ค่ะ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อมากๆเรื่องหอยนางรม ถือว่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ
อิ่มท้องกันแล้วก็เดินทางไปยังเกาะ Miyajima โดยเรือเฟอร์รี่ เราจะเดินทางไปไหว้ศาลเจ้า Itsukushima เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเกาะ Miyajima เกาะเล็กๆ ทีห่างจากตัวเมือง Hiroshima ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ Itsukushima เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ไฮท์ไลท์ของศาลเจ้านี้ก็คือ ประตู Torii สีแดงที่ตั้งตระง่าอยู่กลางน้ำค่ะ ซึ่งสถานที่นี้ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สถานที่วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น
รอบๆ บริเวณศาลเจ้า เราสามารถเดินเล่นตามทางเล็กของเกาะ ระหว่างทางก็จะมีร้านค้าของที่ระลึกต่าง ๆ จากท้องถิ่น สวนธรรมชาติสวย ๆ ให้ได้ผ่อนคลายและถ่ายรูปสวยๆกันค่ะ
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการไปกินอาหารชื่อดังของเมือง Hiroshima นั่นก็คือ Okonomiyaki หรือ พิซซ่าญี่ปุ่นสูตรของ Hiroshima นั้งเอาค่ะ ซึ่งมีมากว่า 70 ปีแล้ว ที่ Okonomiyaki village ในเมือง Hiroshima แห่งนี้ เป็นสถานที่ชื่อดังที่รวบรวมร้านขายเมนูนี้ทั้งตึกเลยทีเดียว ถ้าใครไม่ลองเมนูนี้ แสดงว่ามาไม่ถึง Hiroshima นะคะ!
*** สำหรับวันนี้ เราขอจบทริปการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาค Chugoku ไว้เพียงเท่านี้ก่อนไว้เจอกันครั้งหน้า เร็วๆ นี้แน่นอนจ้า มาตะเนะ !!!