เรียน  ประธานกรรมการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
        ตามที่  ผมได้ไว้วางใจ ซื้อรถยนต์นิสสันมาร์ช รุ่น 1.2 S MT จากทางบริษัทฯ ปัจจุบัน ใช้งานไปเพียง 18,000  กม. แต่รถดันเกิดปัญหาสตาร์ทไม่ติด ตอนแรกนึกว่าแบตเตอรี่หมด เพราะจอดเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ขับ  แต่จะคอยสตาร์ท ทุก 3-4 วัน   เมื่อวันนี้ได้มาลองสตาร์ทดูปรากฏว่า สตาร์ทไม่ติด  ผมจึงได้นำแบตเตอรี่ ไปชาร์จที่ร้านที่เขาทำเกี่ยวกับซ่อมไฟรถยนต์ (ร้านนี้เก่งที่สุด ในจังหวัด ขนาดรถนำเข้าจากต่างประเทศ ไปศูนย์ซ่อมไม่ได้ยังส่งมาที่นี่เลย)    พอเอาแบตฯ กลับมาใส่ก็ยังสตาร์ทไม่ติดอีก จะพาไปศูนย์ก็ไม่ได้  เลยไปตามช่างที่ร้านที่ซ่อมระบบไฟดังกล่าวมาดู ปรากฏว่า ช่างแจ้งว่า ไม่ได้ยินเสียงปั๊มน้ำมันทำงานเลย (ปกติจะได้ยินเสียง หลังจากที่เสียบกุญแจ และเปิด on สวิทซ์)  จึงได้นำมิเตอร์มาวัดไฟที่ปั๊มน้ำมันเครื่องเชื้อเพลิง (หรือบางคนเรียกปั๊มนี้ว่า “ปั๊มติ๊ก” แต่ปัจจุบันเขาเรียกปั๊มมอเตอร์ไฟฟ้า)   จริงได้ทราบว่า ปั๊มดังกล่าวเสียแล้ว  ผมจึงได้ติดต่อไปที่ศูนย์นิสสัน ประจำจังหวัด  ช่างแจ้งราคาเปลี่ยนปั๊มดังกล่าว มีราคาอะไหล่ชุดละ 4,600 บาท  ยังไม่รวมค่าแรงในการถอดเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ นะครับ  ซึ่งหากรวมเข้าไปคาดว่าน่าจะถึง 5,000 บาทเศษ เลยทีเดียว    
        หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมได้ปรึกษาช่างผู้รู้ ที่มีประสบการณ์อันยาวนาน (ตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้) และพี่ๆ จาก รายการ Speed Chanel และศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจากเว็บต่างๆ ซึ่งมีความเห็นที่ตรงกัน จึงพอสรุปความได้ว่า
1.    สาเหตุอาจเกิดมาจาก การใช้น้ำมัน E20 สลับกับแก๊สโซฮอลล์ 91  ซึ่ง E20 มีส่วนผสมของเอทานอล อยู่มากถึง 20%  พอจอดทิ้งไว้ ไม่ค่อยได้ใช้งาน จึงทำให้เอทานอล แยกตัวกับน้ำ แยกตัวกัน ทำให้เกิดสนิม และเกิดการอุดตันและทำให้ปั๊มเสียในเวลาต่อมา
2.    เอทานอลกัดกร่อน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งแช่อยู่ในน้ำมันตลอดเวลา ทำให้เกิดการพองตัว และชิ้นส่วนชำรุด
3.    คุณภาพของชิ้นส่วนของอะไหล่ ทุกวันนี้มีคุณภาพด้อยลง อาจมาจากสาเหตุการลดต้นทุนในการผลิตก็เป็นได้ หรือการ Q.C. ยังไม่ดีพอ หรือ โอกาส 1 ใน 100  ที่เจอแจ๊คพ๊อต

ในการนี้  ผมจึงอยากถามว่า แล้วทำไม ทางนิสสัน จึงบอกว่ารถคันนี้สามารถเติมน้ำมัน E20 ได้   จนรถผมต้องมาเสียแบบนี้  และต้องเสียค่าบำรุงรักษาที่สูงมาก เทียบไม่ได้เลยกับความประหยัดนำมันเพียงไม่กี่บาท ซึ่งถือว่าไม่คุ้มกันเลยทีเดียว
สุดท้ายนี้  อยากขอความกรุณาท่านประธานกรรมการ บ.นิสสัน ตลอดจนเจ้าหน้าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยอนุเคระห์ ลดราคาค่าอะไหล่ดังกล่าว ให้ในราคาพิเศษด้วย (หากเป็นราคาทุน หรือฟรีค่าอะไหล่ ก็จะเป็นการดีมาก)  เพราะถือว่า รถผมก็ยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกัน ซึ่งต่ำกว่า 100,000 กม. ตามที่บริษัทกำหนด  เพียงแต่อายุรถอาจเกิด 3 ปีไปสักหน่อย   ซึ่งโดยปกติถ้ารถวิ่งไปเยอะแล้ว และเกิดการเสียหายในอุปกรณ์ดังกล่าว ผมจะไม่ว่าเลยสักนิด  แต่นี่วิ่งได้เพียง 18,000 กม. ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ    
จึงอยากรบกวนให้ท่านประธานกรรมการบริษัท นิสสัน ช่วยอนุเคราะห์ในครั้งนี้ด้วย  จะอนุเคราะห์ได้มากน้อยเพียงใด ก็สุดแท้แต่ความกรุณาของท่านครับ

ผมหวังว่า คงมีโอกาสได้ใช้บริการเป็นลูกค้าของนิสสัน รถที่มีคุณภาพดีระดับยอดเยี่ยม เป็นรถแห่งความภาคภูมิใจ และขอขอบคุณในความกล้าหาญของท่านผู้บริหารฯ ทั้งที่บริษัทฯใหญ่ที่ญี่ปุ่น และผู้บริหารชาวไทย  ที่กล้านำร่องในการทำรถ ECO CAR คันแรกของเมืองไทย  ทำให้นิสสันมีชื่อเสียง และพลิกผันมาเป็นที่รู้จักของคนไทยอีกครั้งหนึ่ง  ผมภูมิใจที่มีโอกาสที่ได้ใช้รถที่ดีและมีคุณภาพ อย่างนิสสัน ซึ่งเป็นเบอร์ 2 ของญี่ปุ่น  หากมีโอกาส ผมคงได้ร่วมเป็นครอบครัวนิสสัน และชวนให้เพื่อนๆ ได้มีโอกาสมาใช้รถที่มีคุณภาพอย่างนี้อีกต่อไปครับ

ขอบคุณครับ
ธีรศักดิ์ โทร 08 8835 6445