หนาวนี้ตี้เชียงดาว (◕‿◕✿) #ฟินด้วยภาพ
ตู้ด ตู้ด ...
บริษัททัวร์ xxx : สวัสดีคะ ทางบริษัทขอแจ้งว่าทริปเชียงดาวเราไม่มีโควต้าช่วงปีใหม่นะคะ ลูกค้าสะดวกเป็นช่วงอื่นหรือเปลี่ยนทริปมั้ยคะ
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ชั้นอยากไปปีใหม่ที่เชียงดาวววววว >.<
แท้ป แท้ป ...
แอม : ทริปปีใหม่ที่จะไปเชียงดาวล่มอะลุงๆๆๆๆ *^*
ลุงโอ้ท : ถ้าหาได้ไปมั้ยละ ตั้งใจจะไปอยู่แล้วเหมือนกัน
ได้ตั๋วเชียงดาวละนะ 30 ธค - 1 มค
Yeahhhhhhhhh ปีใหม่นี้ตี้เชียงดาวกันเต๊อะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เช้าวันที่ 30 เราออกเดินทางจากบ้านกันตอน 6 โมงเช้า นัดกับลุงแกละ ไกด์ทัวร์ไว้ตอน 7 โมงที่วัดถ้ำเชียงดาวคะ
พอไปถึงเราก็ทานข้าวผัดแสนอร่อย ฝีมือแฟนลุงแกละ ออๆๆ ร้านลุงแกละ ชื่อแกละแปดริ้ว
มีที่มาว่า ลุงแกเป็นคนแปดริ้ว แต่มาหลงรักสาวเชียงดาวและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เจ้าาาาา
ทานข้าวเสร็จก็เข้าห้องน้ำ ทำธุรกรรมส่งแฟ็กกันเรียบร้อย 8 โมงครึ่งเราก็ขนกระเป๋าขึ้นรถเดินทางไปที่ทำการเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่า
ระหว่างทางขอบอกเลยว่าเสียวและฟินมากกกกกกกกก คือเสียวจะตกรถ เพราะพี่แกขับแบบ fast and furious ในขณะที่เส้นทางก็ลูกรัง แถมเป็นไหล่เขาด้วยนะ กว่าจะถึงอุทยานนี่ก้นระบบ แถมเมื่อยแขนที่ต้องคอยเกาะให้แน่นนาจา ^^"
แต่...มันฟินตรงที่อากาศเย็นๆ หมอกขาวๆปะทะหน้านี่แหละ โอ้ยยยย คือดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 。◕‿◕。
หลังจากผ่านการเขย่าลำไส้มาได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงที่ทำการเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว
Let's trekking to Chiang Dao ^O^
ออๆๆ เราขึ้นยอดดอยหลวงเชียวดาวโดยใช้เส้นทางเด่นหญ้าขัดคะ ส่วนขาลงเราจะลงทางปางวัวกันนะคะ
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปบ้าง เดินชมนกชมไม้กันไปบ้าง ชิวๆคะ
เส้นทางการเดินก็ไม่ยากหรืออันตราย มีชื้นแฉะน้ำค้างทำให้ทางเดินลื่นไปบ้างเป็นบางช่วง
แต่อากาศดีมากจร้า วิวก็ให้ล้านดาว ดีงามมมม #ลงรูปรัวๆ
ระหว่างทางเดิน ก็จะเจอเพื่อนเดินทางเป็นระยะๆคะ มีคนมา camping ชมความงามของยอดเชียงดาวแต่ละวันไม่น้อยเหมือนกันนะคะ
เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า ที่นี่เค้าจำกัดอนุญาติให้ขึ้นไปบนยอดได้วันละไม่เกิน 150 คนคะ
แต่เรื่องหน้าเศร้าที่ฟังมาคือ ปีนี้ขยะตกค้างบนยอดดอยมากกว่าทุกๆปี ซึ่งได้เห็นกับตาตัวเองแล้วก็จริงคะ
อยากให้ทุกคนที่มาชมความงามที่นี่ ช่วยกันรักษาความสะอาดและใส่ใจกับเรื่องขยะมากขึ้นนะคะ
เดินมาได้สัก 3 ชั่วโมงเราก็แวะทานข้าวเหนียว ไส้อั่ว ไข่ต้ม และหมูทอด มื้อเที่ยงที่ทางลุงแกละจัดมาให้ ท่ามกลางธรรมชาติ ลมเย็นๆสดชื่นๆ
เพื่อนเดินทางหลายๆคนเหนื่อยอ่อน แต่บางคนก็ยังดูชิลๆ สบายๆ ส่วนเราก็ยังพอไหวคะ ยังคงตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติ และก็สนุกกับการถ่ายภาพไปเรื่อยๆ แต่สำหรับความเก๋าและแกร่งในการเดินการขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ต้องยกให้เหล่าไกด์ทัวร์และลูกน้องที่ต้องแบกของและน้ำดื่ม น้ำหนักรวม 40 - 50 กิโลกรัมคะ ขอคารวะจริงๆจร้า
ทานข้าวเสร็จก็เดินต่อมาอีก ไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็ถึง camp ลุงแกละ เต็นท์ถูกกางไว้หมดแล้วคะ ก็แค่จับจองพื้นที่และเตรียมที่นอน
เวลาที่เรามาถึงกันก็ประมาณบ่ายสามคะ พักผ่อนตามอัธยาศัย รอเวลา 5 โมงเย็น เดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกบนยอดดอยกัน
It's timeeeee
ที่พักเราห่างจากยอดดอยประมาณ 30 นาทีคะ จริงๆแล้วไม่ได้ไกลกันหรอกนะคะ แต่เส้นทางขึ้นยอดนี่ซิ ใช้เวลาน่าดูเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการปีนป่ายมากกว่าเดินนะคะ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางกันพอควร
ถึงจะลำบากและอันตรายไปหน่อย แต่ก็ชื่นใจกับวิวธรรมชาติสวยๆคะ #ลงรูปรัวๆ
บนยอดดอยจะมีลานโล่งๆอยู่ผืนนึงคะ เป็นจุดชมวิว ถ่ายรูปพร้อมป้ายดอยหลวงเชียงดาว ที่เหลือก็เป็นโขดหินปูน แต่ก็พอจะนั่งจะเดินได้สะดวกคะ
เดินชมโดยรอบแล้วก็หาตำแหน่งกางขาตั้งกล้อง รอเก็บภาพพระอาทิตย์ตกคะ ;)
จากมุมนี้จะเห็นยอดเขาสามพี่น้องคะ เอกลักษณ์พระอาทิตย์ตกของที่นี่เค้าละ
และนี้ก็เป็น moment พระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยหลวงเชียงดาวคะ
ฟินมากกกก สวยอ่าๆๆๆๆ เป็นการชมพระอาทิตย์ตก กับฟ้าโปร่งๆ ทิวเขาเขียวๆสุดลบูกหูลูกตา กับลมเย็นๆที่อากาศเพียง 15 องศา สวยประทับใจมากๆเลยคะ
เนื่องจากทริปนี้เป็นความตั้งใจของลุงโอ้ทและตากล้องที่จะมาถ่ายดาวบนยอดเชียงดาว เราจึงตัดสินใจอยู่รอจนฟ้ามืดคะ
หลังจากพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิลดลงเร็วมาก จาก 15 ลงมาเป็น 7 องศาเซลเซียส ภายในสองชั่วโมง
คืนนั้น....ไม่มีใครอยู่ถ่ายดาวบนยอดดอยเลยคะ อยู่กันแค่สองคน กลับความหลอนของเสียงเลียงผาในความมืด กุบๆ กุบๆ ^^"
พอฟ้ามืดสนิท ก็ปรากฎภาพดาวเป็นล้านๆดวงอยู่ตรงหน้า คือสวยมว้ากกกกก ชัดแบบที่เหมือนอยู่ไกล้แค่เอื้อม
เราก็พยายามถ่ายดาวกันคะ และนี่ก็คือผลงานที่ได้มา พอไหวเนอะ 555+
ปล. คืนนั้นตากล้องอธิษฐานตอนดาวตกไปสามรอบเลยคะ ตอนนี้ก็รอเช็คผลคะ 555+
เราอยู่ถ่ายดาวกันซักพัก อากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ บวกกับความหลอนของเสียงที่ไม่อาจมั่นใจ เราจึงตัดสินใจกลับไปพักที่ camp คะ
ก็เป็นอันจบทริปดอยหลวงเชียงดาววันแรกคะ ราตรสวัสดิ์กันไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
เตรียมตัวตื่นตอนตี 5 เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นพรุ่งนี้กันต่อ ;)
31 ธันวาคม 2559 เวลา 4.45 นาฬิกา
ลุงตื่นนนนนนนนนน ไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นกานนนนนน
เช้าวันนี้เราตั้งใจจะถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดดอยหลวงเชียงดาวกันคะ
แต่เอ๊ะ......เค้าไปไหนกันหมด
อ้าว.......เค้าไปดอยกิ่วลมกัน ไม่มีใครมาดอยนี้กับเราเลยเนอะ ^^"
หลังจากปีนป่ายขึ้นยอดดอยมาสำเร็จ ก็หามุมตั้งกล้องกันตามประสาสายแลนด์
และนี่ก็คือแสงแรกของวันใหม่จากยอดดอยหลวงเชียงดาว สวยงามตามท้องเรื่องกันไป
วันนั้นเมฆค่อนข้างบังดวงอาทิตย์คะ และก็แบตเตอรี่กล้องเหลือ 2 ขีด
เลยประหยัดชัตเตอร์ รอถ่ายถาพหมอกและทิวเขาสวยๆหลังพระอาทิตย์ขึ้นแทน #ลงรูปรัวๆ
หลังจากเก็บภาพแสงเช้าเสร็จ ก็กลับมา camp พักผ่อนตามอัธยาศัยรอเวลาเก็บแสงเย็นที่ดอยกิ่วลมกันต่อคะ
วันนี้เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่เดินทางกลับเข้าเมืองเพื่อไป count down ปีใหม่กันคะ camp เราเลยเงียบเหงาซะแล้ว
เย็นวันนั้นท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เมฆค่อนข้างเยอะและก้อนใหญ่คะ เก็บภาพแสงสาดผ่านเมฆที่ดอยกิ่วลมมาได้นิดหน่อย
อากาศวันนี้เย็นกว่าเมื่อวาน และเริ่มมีหมอกจัด เราจึงกลับ camp และหวังว่าพรุ่งนี้ฟ้าจะเปิดให้เราชมทะเลหมอกสวยๆกันคะ
แต่แล้ว....เช้าวันใหม่
หมอกจัดกว่าเดิมอี้กกกกก คือ camp เราโอบล้อมไปด้วยหมอกขาวววววว เย็นยะเยือก
ไม่คะ เราไม่ย่อท้อ ไปคะลุง ไปรอลุ้นชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกสวยๆกัน
เราเดินทางขึ้นดอยกิ่วลมกันอีกครั้ง ท่ามกลางหมอกที่หนาและอากาศเย็น
เรานั่งรอ รอ และรอ แล้วเราก็ได้แค่ภาพหมอกมา 555+
ลุงคำ ไกด์ของเรา เห็นเรานั่งรออยู่นานจึงชวนไปถ่ายรูปที่หน้าผาอีกด้านนึงแทนคะ
จะว่าไป...หมอกจัดๆแบบนี้ ตากล้องคิดว่าก็สวยไปอีกแบบนะคะ ได้ภาพของอารมณ์หนาวๆ ฟินไปอีกแบบ
เพิ่มรอยยิ้มมาอีกนิดหน่อย องค์ประกอบของภาพก็สมบูรณ์ละคะ
ขอบคุณลุงมากนะที่ทำให้ทริปปีใหม่ของตากล้องเป็นจริง
Till next time...
•.★*... หนาวนี้ตี้เชียงดาว ...*★.• #ฟินด้วยภาพ
ตู้ด ตู้ด ...
บริษัททัวร์ xxx : สวัสดีคะ ทางบริษัทขอแจ้งว่าทริปเชียงดาวเราไม่มีโควต้าช่วงปีใหม่นะคะ ลูกค้าสะดวกเป็นช่วงอื่นหรือเปลี่ยนทริปมั้ยคะ
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ชั้นอยากไปปีใหม่ที่เชียงดาวววววว >.<
แท้ป แท้ป ...
แอม : ทริปปีใหม่ที่จะไปเชียงดาวล่มอะลุงๆๆๆๆ *^*
ลุงโอ้ท : ถ้าหาได้ไปมั้ยละ ตั้งใจจะไปอยู่แล้วเหมือนกัน
ได้ตั๋วเชียงดาวละนะ 30 ธค - 1 มค
Yeahhhhhhhhh ปีใหม่นี้ตี้เชียงดาวกันเต๊อะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เช้าวันที่ 30 เราออกเดินทางจากบ้านกันตอน 6 โมงเช้า นัดกับลุงแกละ ไกด์ทัวร์ไว้ตอน 7 โมงที่วัดถ้ำเชียงดาวคะ
พอไปถึงเราก็ทานข้าวผัดแสนอร่อย ฝีมือแฟนลุงแกละ ออๆๆ ร้านลุงแกละ ชื่อแกละแปดริ้ว
มีที่มาว่า ลุงแกเป็นคนแปดริ้ว แต่มาหลงรักสาวเชียงดาวและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เจ้าาาาา
ทานข้าวเสร็จก็เข้าห้องน้ำ ทำธุรกรรมส่งแฟ็กกันเรียบร้อย 8 โมงครึ่งเราก็ขนกระเป๋าขึ้นรถเดินทางไปที่ทำการเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่า
ระหว่างทางขอบอกเลยว่าเสียวและฟินมากกกกกกกกก คือเสียวจะตกรถ เพราะพี่แกขับแบบ fast and furious ในขณะที่เส้นทางก็ลูกรัง แถมเป็นไหล่เขาด้วยนะ กว่าจะถึงอุทยานนี่ก้นระบบ แถมเมื่อยแขนที่ต้องคอยเกาะให้แน่นนาจา ^^"
แต่...มันฟินตรงที่อากาศเย็นๆ หมอกขาวๆปะทะหน้านี่แหละ โอ้ยยยย คือดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 。◕‿◕。
หลังจากผ่านการเขย่าลำไส้มาได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงที่ทำการเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว
Let's trekking to Chiang Dao ^O^
ออๆๆ เราขึ้นยอดดอยหลวงเชียวดาวโดยใช้เส้นทางเด่นหญ้าขัดคะ ส่วนขาลงเราจะลงทางปางวัวกันนะคะ
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปบ้าง เดินชมนกชมไม้กันไปบ้าง ชิวๆคะ
เส้นทางการเดินก็ไม่ยากหรืออันตราย มีชื้นแฉะน้ำค้างทำให้ทางเดินลื่นไปบ้างเป็นบางช่วง
แต่อากาศดีมากจร้า วิวก็ให้ล้านดาว ดีงามมมม #ลงรูปรัวๆ
ระหว่างทางเดิน ก็จะเจอเพื่อนเดินทางเป็นระยะๆคะ มีคนมา camping ชมความงามของยอดเชียงดาวแต่ละวันไม่น้อยเหมือนกันนะคะ
เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า ที่นี่เค้าจำกัดอนุญาติให้ขึ้นไปบนยอดได้วันละไม่เกิน 150 คนคะ
แต่เรื่องหน้าเศร้าที่ฟังมาคือ ปีนี้ขยะตกค้างบนยอดดอยมากกว่าทุกๆปี ซึ่งได้เห็นกับตาตัวเองแล้วก็จริงคะ
อยากให้ทุกคนที่มาชมความงามที่นี่ ช่วยกันรักษาความสะอาดและใส่ใจกับเรื่องขยะมากขึ้นนะคะ
เดินมาได้สัก 3 ชั่วโมงเราก็แวะทานข้าวเหนียว ไส้อั่ว ไข่ต้ม และหมูทอด มื้อเที่ยงที่ทางลุงแกละจัดมาให้ ท่ามกลางธรรมชาติ ลมเย็นๆสดชื่นๆ
เพื่อนเดินทางหลายๆคนเหนื่อยอ่อน แต่บางคนก็ยังดูชิลๆ สบายๆ ส่วนเราก็ยังพอไหวคะ ยังคงตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติ และก็สนุกกับการถ่ายภาพไปเรื่อยๆ แต่สำหรับความเก๋าและแกร่งในการเดินการขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ต้องยกให้เหล่าไกด์ทัวร์และลูกน้องที่ต้องแบกของและน้ำดื่ม น้ำหนักรวม 40 - 50 กิโลกรัมคะ ขอคารวะจริงๆจร้า
ทานข้าวเสร็จก็เดินต่อมาอีก ไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็ถึง camp ลุงแกละ เต็นท์ถูกกางไว้หมดแล้วคะ ก็แค่จับจองพื้นที่และเตรียมที่นอน
เวลาที่เรามาถึงกันก็ประมาณบ่ายสามคะ พักผ่อนตามอัธยาศัย รอเวลา 5 โมงเย็น เดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกบนยอดดอยกัน
It's timeeeee
ที่พักเราห่างจากยอดดอยประมาณ 30 นาทีคะ จริงๆแล้วไม่ได้ไกลกันหรอกนะคะ แต่เส้นทางขึ้นยอดนี่ซิ ใช้เวลาน่าดูเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการปีนป่ายมากกว่าเดินนะคะ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางกันพอควร
ถึงจะลำบากและอันตรายไปหน่อย แต่ก็ชื่นใจกับวิวธรรมชาติสวยๆคะ #ลงรูปรัวๆ
บนยอดดอยจะมีลานโล่งๆอยู่ผืนนึงคะ เป็นจุดชมวิว ถ่ายรูปพร้อมป้ายดอยหลวงเชียงดาว ที่เหลือก็เป็นโขดหินปูน แต่ก็พอจะนั่งจะเดินได้สะดวกคะ
เดินชมโดยรอบแล้วก็หาตำแหน่งกางขาตั้งกล้อง รอเก็บภาพพระอาทิตย์ตกคะ ;)
จากมุมนี้จะเห็นยอดเขาสามพี่น้องคะ เอกลักษณ์พระอาทิตย์ตกของที่นี่เค้าละ
และนี้ก็เป็น moment พระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยหลวงเชียงดาวคะ
ฟินมากกกก สวยอ่าๆๆๆๆ เป็นการชมพระอาทิตย์ตก กับฟ้าโปร่งๆ ทิวเขาเขียวๆสุดลบูกหูลูกตา กับลมเย็นๆที่อากาศเพียง 15 องศา สวยประทับใจมากๆเลยคะ
เนื่องจากทริปนี้เป็นความตั้งใจของลุงโอ้ทและตากล้องที่จะมาถ่ายดาวบนยอดเชียงดาว เราจึงตัดสินใจอยู่รอจนฟ้ามืดคะ
หลังจากพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิลดลงเร็วมาก จาก 15 ลงมาเป็น 7 องศาเซลเซียส ภายในสองชั่วโมง
คืนนั้น....ไม่มีใครอยู่ถ่ายดาวบนยอดดอยเลยคะ อยู่กันแค่สองคน กลับความหลอนของเสียงเลียงผาในความมืด กุบๆ กุบๆ ^^"
พอฟ้ามืดสนิท ก็ปรากฎภาพดาวเป็นล้านๆดวงอยู่ตรงหน้า คือสวยมว้ากกกกก ชัดแบบที่เหมือนอยู่ไกล้แค่เอื้อม
เราก็พยายามถ่ายดาวกันคะ และนี่ก็คือผลงานที่ได้มา พอไหวเนอะ 555+
ปล. คืนนั้นตากล้องอธิษฐานตอนดาวตกไปสามรอบเลยคะ ตอนนี้ก็รอเช็คผลคะ 555+
เราอยู่ถ่ายดาวกันซักพัก อากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ บวกกับความหลอนของเสียงที่ไม่อาจมั่นใจ เราจึงตัดสินใจกลับไปพักที่ camp คะ
ก็เป็นอันจบทริปดอยหลวงเชียงดาววันแรกคะ ราตรสวัสดิ์กันไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
เตรียมตัวตื่นตอนตี 5 เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นพรุ่งนี้กันต่อ ;)
31 ธันวาคม 2559 เวลา 4.45 นาฬิกา
ลุงตื่นนนนนนนนนน ไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นกานนนนนน
เช้าวันนี้เราตั้งใจจะถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดดอยหลวงเชียงดาวกันคะ
แต่เอ๊ะ......เค้าไปไหนกันหมด
อ้าว.......เค้าไปดอยกิ่วลมกัน ไม่มีใครมาดอยนี้กับเราเลยเนอะ ^^"
หลังจากปีนป่ายขึ้นยอดดอยมาสำเร็จ ก็หามุมตั้งกล้องกันตามประสาสายแลนด์
และนี่ก็คือแสงแรกของวันใหม่จากยอดดอยหลวงเชียงดาว สวยงามตามท้องเรื่องกันไป
วันนั้นเมฆค่อนข้างบังดวงอาทิตย์คะ และก็แบตเตอรี่กล้องเหลือ 2 ขีด
เลยประหยัดชัตเตอร์ รอถ่ายถาพหมอกและทิวเขาสวยๆหลังพระอาทิตย์ขึ้นแทน #ลงรูปรัวๆ
หลังจากเก็บภาพแสงเช้าเสร็จ ก็กลับมา camp พักผ่อนตามอัธยาศัยรอเวลาเก็บแสงเย็นที่ดอยกิ่วลมกันต่อคะ
วันนี้เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่เดินทางกลับเข้าเมืองเพื่อไป count down ปีใหม่กันคะ camp เราเลยเงียบเหงาซะแล้ว
เย็นวันนั้นท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เมฆค่อนข้างเยอะและก้อนใหญ่คะ เก็บภาพแสงสาดผ่านเมฆที่ดอยกิ่วลมมาได้นิดหน่อย
อากาศวันนี้เย็นกว่าเมื่อวาน และเริ่มมีหมอกจัด เราจึงกลับ camp และหวังว่าพรุ่งนี้ฟ้าจะเปิดให้เราชมทะเลหมอกสวยๆกันคะ
แต่แล้ว....เช้าวันใหม่
หมอกจัดกว่าเดิมอี้กกกกก คือ camp เราโอบล้อมไปด้วยหมอกขาวววววว เย็นยะเยือก
ไม่คะ เราไม่ย่อท้อ ไปคะลุง ไปรอลุ้นชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกสวยๆกัน
เราเดินทางขึ้นดอยกิ่วลมกันอีกครั้ง ท่ามกลางหมอกที่หนาและอากาศเย็น
เรานั่งรอ รอ และรอ แล้วเราก็ได้แค่ภาพหมอกมา 555+
ลุงคำ ไกด์ของเรา เห็นเรานั่งรออยู่นานจึงชวนไปถ่ายรูปที่หน้าผาอีกด้านนึงแทนคะ
จะว่าไป...หมอกจัดๆแบบนี้ ตากล้องคิดว่าก็สวยไปอีกแบบนะคะ ได้ภาพของอารมณ์หนาวๆ ฟินไปอีกแบบ
เพิ่มรอยยิ้มมาอีกนิดหน่อย องค์ประกอบของภาพก็สมบูรณ์ละคะ
ขอบคุณลุงมากนะที่ทำให้ทริปปีใหม่ของตากล้องเป็นจริง
Till next time...