ครั้งนี้มีโอกาสได้ไปพักที่โรงแรม Radisson Blu Resort Hua Hin ในวันที่ 14 มกราคม 2560 เห็นในอินเตอร์เน็ตยังไม่ค่อยมีการรีวิวโรงแรมนี้ ก็เลยขอรีวิวเฉพาะโรงแรมนี้ไปซะเลยครับ เป็นการรีวิวครั้งที่สองของชีวิตครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ

รีสอร์ทนี้อยู่ในเครือของ Radisson Blu ที่มีอยู่ทั่วโลกครับ ที่นี่ถึงแม้ชื่อจะเป็นหัวหิน แต่จริงๆแล้วตั้งอยู่ที่ชะอำ เพชรบุรี ดังนั้นใครไม่มีรถส่วนตัวก็อาจลำบากนิดนึง หากจะต้องไปเที่ยวในตัวหัวหิน

การเดินทางสะดวกสุดคือมาโดยรถส่วนตัวครับ ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม หากมาจากทางชะอำไปหัวหิน โรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ คืออยู่ทางหาดนั่นเอง ทางเข้าหาป้ายยากนิดนึง แต่ถ้าจะไม่ให้หลงคือ เข้าทางเดียวกับ ป้าย Sheraton ครับ ซึ่งป้ายเค้าใหญ่กว่ามาก 555  หรือเห็น FN Outlet ทางเข้าโรงแรมจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยครับ



ป้ายทางเข้าโรงแรม สังเกตยาก ต้องสังเกตโรงแรมเชอราตันแทนครับ เข้าไปซัก 200-300 เมตร จะเจอกับป้ายโรงแรม เลี้ยวเข้าไปเลยครับ



ตอนเข้าไปจะเห็นที่จอดรถนะครับ โดยไม่ผ่านป้อมพี่รปภ. แต่แนะนำให้บอกพี่รปภ.ว่ามาเช็คอิน พี่รปภจะให้เราขับไปจอดตรงlobby ซึ่งใครของเยอะก็เอาลงตรงนี้เลย แล้วจะมีพนักงานเอารถมาจอดแล้วเอากุญแจมาคืนให้ครับ

ทางเข้า lobby จะตกแต่งสีฟ้าเข้ม เหมือนน้ำทะเลครับ ตัดกับสีทองของประติมากรรมแม่นกกับลูกนก ที่ใครมาจะแวะมาถ่ายจุดนี้ครับ





ตัว Lobby นี่เป็นแบบโอเพ่นแอร์ ตรงกลางเป็นอ่างน้ำ มีสายโซ่ร้อยมาจากด้านบน แล้วก็ปล่อยสายน้ำลงมา มีเคาน์เตอร์ให้เช็คอินสองถึงสามที่ และมี welcome drink เป็นน้ำส้มให้



ด้านตรงข้ามฝั่ง Lobby จะเป็น The Lounge มีหนังสือให้นั่งอ่านมีสนุ๊กเกอร์ให้เล่น เข้าไปใช้ได้ฟรีๆ เปิด 8.00 - 23.00 น. มีเครื่องดื่มทั้งชากาแฟ และแอลกอฮอล์ขายด้วยครับ และมี Happy Hour ด้วย









ข้างๆ กับเคาน์เตอร์เช็คอินก็จะเป็นห้องอาหาร The Exchange ครับ เดี๋ยวไว้จะให้ดูตอนทานอาหารเช้า

ถัดจาก lobby มาจะเดินไปห้อง ก็จะเห็นวิวนี้เลยครับ เป็นสระว่ายน้ำ ขนาบไปด้วยตึกเตี้ยๆสองข้าง หากมองไปจนสุดลูกหูลูกตาจะเห็นทะเล





มุมเดียวกัน แต่ตอนกลางคืนครับ



การเดินไปห้องต้องเดินไปข้างล่างก่อน จะผ่านสระว่ายน้ำใสๆหนึ่งสระก่อน ผ่านกำแพง(คล้ายๆกับศาลาอยุธยา) ตกแต่งด้วยกระเบื้องที่เขาบอกว่าได้แรงบันดาลใจมากจากดอกผักบุ้งทะเล และจะมีน้ำตกไหลลงมาตามกำแพงครับ  ผ่านกำแพงนี้ไปก็จะถึงตึกห้องพักละครับ





แต่ละหว่างทาง หากยังไม่เข้าห้องพักก็จะเป็น pool อยู่ตรงกลางจนถึงสระว่ายน้ำรวม (แต่จริงๆทุกคนที่เข้าพักสามารถเล่นสระตรงไหนก็ได้นะครับ)

ก่อนถึงสระรวมจะเห็นลานที่เบื้องหลังเป็นกระเบื้องที่มีคนใส่ชุดหลายชาติ ผมว่าเก๋ดี สามารถจัดงานตรงนี้ได้ รวมทั้งถ้ามีตลาดนัดเล็กๆจะฟินมาก



สระว่ายน้ำจะเป็น infinity pool edge เห็นทะเลจนสุดลูกหูลูกตาโดยไม่มีอะไรบัง ฟินมาก











จะเดินไปเล่นทะเลก็ได้ แต่น้ำไม่ค่อยใสเท่าไรครับ แต่ก็พอมีชาวต่างชาติไปเล่นอยู่บ้าง





ด้านข้างสระว่ายน้ำจะเป็น The Ivy มีชั้นสองซึ่งเปรียบเสมือนเป็น rooftop เปิดตั้งแต่ 8.00 - 23.00 นะครับ แถมมี Happy Hour ด้วย อย่าลืมไปติดตามกัน





มาในส่วนของห้องพักบ้าง ผมพักแบบ Superior Room นอนวันเสาร์ ราคาอยู่ประมาณ 4500-5500 แล้วแต่เว็บและช่วงวันเวลาที่เข้าพักครับ ห้องพักขนาด 44 ตารางเมตร ไม่เล็กไม่ใหญ่ มาดูห้องกัน



ตัวเตียงก็ถือว่าโอเค ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีโซฟาให้หนึ่งตัว ทีวีเป็น Digital TV ดูยูทูปได้ ลำโพงเชื่อมต่อไปถึงห้องน้ำได้ครับ แต่ตัวทีวีไม่ได้รองรับ application ในมือถือ ทำให้ใช้ลำบากนิดนึง









ห้องน้ำไม่เล็กไม่ใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ ติดกระจกใสกับห้องนอน ทำให้ดูทีวีไปได้ด้วย











อันนี้ที่ minibar ฟรีน้ำเปล่าสองขวด ชา กาแฟ แต่อย่างอื่นคิดเงินเพิ่มครับ











ในห้องแถมคุ้กกี้มาให้สองชิ้น



ตรงระเบียงใหญ่มาก ผมว่ากว้างเกือบกว่าห้องน้ำอีก 555 มีเตียงด้านนอก นอนได้สบายๆสองคน มีโต๊ะเก้าอี้พร้อม และเห็นวิวสระว่ายน้ำด้านล่าง







อาหารเช้าทานที่ห้องอาหาร The Exchange มีทั้งในส่วน indoor และ outdoor ห้องอาหารนี้ไม่ติดทะเลนะครับ เลยเลือกที่จะนั่งindoor ดีกว่า ไลน์อาหารมีไม่เยอะ สลัด ผลไม้ อาหารไทยน้อยมาก 3-4 อย่าง เมนูไข่ต้องมา ขนมปัง เบเกอรี่ก็ค่อนข้างน้อยอย่างครับ เดินไปตักสองครั้งก็หมดละ ก็ไม่รู้จะทานไรละ























สรุปโรงแรมนี้มาพักกันได้ ห้องดี สระว่ายน้ำแจ่ม แต่ราคาก็ค่อนข้างแรง อาหารเช้ายังน้อยไปนิดครับ

สุดท้ายนี้ก็จบการรีวิวด้วยนกหรือไก่หรืออะไรก็ตามที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิว