ชีสสัตว์ในประเทศไทย ที่สัตว์เลี้ยงสามารถกินได้แน่นอนมีให้เลือกแค่
2 แบบ เท่านั้นคือ
"ชีสนมวัว” จากเอเย่นใหญ่ที่
มีเจ้าของเพียงคนเดียวในไทยเท่านั้น และดิลรายย่อยที่รับของเจ้านี้ไปขายต่อ (โดยรายย่อยที่รับของไปขายต่อ **เค้าจะมีใบการันตีอเมริกาของแท้จากเอเย่นใหญ่ ที่ให้ผู้ค้ารายย่อยไว้ให้ลูกค้าดูแน่นอน**)
“ชีสนมแพะ” สั่งนำเข้าจากเรา”Munch Maew"ที่เริ่มกระจายProductให้เป็นที่รู้จัก ออกสู่ท้องตลาดได้เกือบทั่วประเทศแล้ว
(ซึ่งการผลิตชีสแพะให้สัตว์ในไทยไม่มี จึงสันนิฐานว่าหากใครอ้างว่าเป็นชีสแพะสำหรับสัตว์ณ.เวลานี้ แสดงว่า90%เจ้านั้นๆมีสิทธ์ที่จะเอาชีสของคนกิน หรือชีสปลอม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่อันตรายต่อสัตว์มาขาย)
ก่อนหน้านี้มีคนมาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยที่ขอเอาไปรีแบรนด์แต่ใช้ข้อมูลเราทุกอย่าง ซึ่งก็ถูกค่ะเพราะเป็นสินค้าจากทางเรา
และเรื่องระบบตัวแทนจำหน่ายมันก็จะมีกฎเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะสินค้าชนิดไหนก็ตาม ว่า ”ถ้าหากตัวแทนขาดการติดต่อครบ 1เดือนขึ้นไป หรือตามกำหนด จะหมดสภาพการเป็นตัวแทนจำหน่ายทันที ไม่สามารถนำข้อมูลหรือรูปสินค้าไปใช้ต่อได้ เพื่อป้องกันความมักง่ายของคนที่จะเอาไปใช้หาผลประโยชน์ต่อในทางที่ผิด เช่น
"ต้องการเครดิตและข้อมูลความน่าเชื่อถือจากแบรนด์นี้ๆ แต่ตัวเองนำสินค้าปลอมหรือด้อยคุณภาพมาขายให้ลูกค้าอื่นๆต่อไปแทน เท่ากับหลอกลวงผู้บริโภค”
(และเราเชื่อตลอดมาว่าถ้าคนมันจะขายของจริงๆต่อให้ขายเป็นรายได้เสริมเล่นๆ ใน1เดือนมันจะขายไม่ได้เลยซักนิด มันคงอยู่ไม่ได้หรอก หรือไม่เดาอีกแบบคือ เค้าได้เลิกขายไปแล้ว)
ซึ่งถ้าวันนึงมันเกิดความเสียหายจากลูกค้าคุณมา ทางต้นแบรนด์มันก็จะเดือดร้อน....
และวันนี้!!!......เราเจอเหตุการ์ณคนมักง่ายทั้งหมดนี้แล้วด้วยตัวเอง
จากคนที่เข้ามาในรูปแบบตัวแทนจำหน่ายเราคนหนึ่ง วันนึงเค้าเลิกสั่งจากเราไป แล้วไปรับสินค้าจากไหนก็ไม่รู้มาขายต่อเอง โดยที่ข้อมูลและทุกๆอย่างก็ยังใช้ของเราทั้งหมด!!!
เบาะแสทุกอย่างเรารู้ได้เพราะมีลูกค้าทั้งใหม่และเก่ามาให้ข้อมูลร้านนี้.....
…….ตอนแรกเราก้ปล่อยผ่าน เพราะ1.คิดว่าตัวแทนจำหน่ายเราแหล่ะ และ
2.คิดว่าไม่ว่าธุรกิจวงการไหนก็คงจะมีคนประเภทนี้อยู่ที่พยายามCopy แต่ยังไงคุณภาพและอะไรหลายๆอย่างไม่เท่ากันหรอก
.......แต่แล้ววันนึงก็มีลูกค้ามาถามว่า"ชีสชื่อเดียวกันทุกอย่างเหมือนกันหมดเลย เชื่อใจได้มั้ย เป็นตัวแทนจำหน่ายเรารึเปล่า?” วันนั้นรู้สึกเหมือนอะไรดลใจให้เราต้องเข้าไปหาดูตามลูกค้าบอก...........
สิ่งที่เห็นคือ...คนนี้.....................
……..เคยเป็นตัวแทนจำหน่ายเราจริง แต่ขาดการติดต่อไปแล้ว และล็อตสุดท้ายที่ส่งให้เมื่อปลายปีที่แล้วก็ไม่ได้เยอะด้วย!!!! สินค้าไม่มีทางพอขายมาถึงตอนนี้แน่ๆ.........
ไม่ใช่ละ!!! คนนี้เอาชีสอะไรมาขาย แต่ใช้ชื่อชีสเรา!!? หรือพูดว่าง่ายๆ copy paste ข้อมูลเลยแหละ
…...เราเริ่มไล่ตอบคำถามนั้นกับคนที่เข้ามาถามเรียงคนว่า “คนนี้ไม่ใช่ชีสแพะจากเราแน่นอน เพราะขาดการติดต่อกันไปแล้ว และชีสที่นำมาขายนั้นชีสอะไรไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นชีสวัวอันที่สัตว์กินได้นั้น ลูกค้าก็สามารถรู้ได้เช่นกันโดย.....**มีใบการันตีความปลอดภัยชีสสัตว์แท้จากอเมริกา**"
!!ประเด็น!!
เอกสารลิขสิทธิ์ ทะเบียนการค้า ทุกอย่างต่างๆนาๆ ของเรายังไม่เสร็จสมบูรณ์เป็นรายลักษณ์อักษร
เพราะมันยุ่งยากหลายขั้นตอนทั้งฝั่งสวิตฝั่งไทย....
เราแค่รู้สึกว่าถ้าเขาจะขายเขาควรเอาข้อมูลจากทางชีสที่เขารับมารึป่าว?? ไม่ใช่ก็อปปี้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาขนาดนี้ และลูกเพจเราก็เข้าใจว่านั้นคือชีสทางร้านเรา
เลยอยากปรึกษาว่าเราควรทำยังไงต่อไปดีคะ???
ขอคำปรึกษาเรื่องลิขสิทธิ์เอาไว้สู้กับพวกคนมักง่ายสำหรับทางธุรกิจหน่อยค่ะ!!!
"ชีสนมวัว” จากเอเย่นใหญ่ที่มีเจ้าของเพียงคนเดียวในไทยเท่านั้น และดิลรายย่อยที่รับของเจ้านี้ไปขายต่อ (โดยรายย่อยที่รับของไปขายต่อ **เค้าจะมีใบการันตีอเมริกาของแท้จากเอเย่นใหญ่ ที่ให้ผู้ค้ารายย่อยไว้ให้ลูกค้าดูแน่นอน**)
“ชีสนมแพะ” สั่งนำเข้าจากเรา”Munch Maew"ที่เริ่มกระจายProductให้เป็นที่รู้จัก ออกสู่ท้องตลาดได้เกือบทั่วประเทศแล้ว
(ซึ่งการผลิตชีสแพะให้สัตว์ในไทยไม่มี จึงสันนิฐานว่าหากใครอ้างว่าเป็นชีสแพะสำหรับสัตว์ณ.เวลานี้ แสดงว่า90%เจ้านั้นๆมีสิทธ์ที่จะเอาชีสของคนกิน หรือชีสปลอม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่อันตรายต่อสัตว์มาขาย)
ก่อนหน้านี้มีคนมาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยที่ขอเอาไปรีแบรนด์แต่ใช้ข้อมูลเราทุกอย่าง ซึ่งก็ถูกค่ะเพราะเป็นสินค้าจากทางเรา
และเรื่องระบบตัวแทนจำหน่ายมันก็จะมีกฎเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะสินค้าชนิดไหนก็ตาม ว่า ”ถ้าหากตัวแทนขาดการติดต่อครบ 1เดือนขึ้นไป หรือตามกำหนด จะหมดสภาพการเป็นตัวแทนจำหน่ายทันที ไม่สามารถนำข้อมูลหรือรูปสินค้าไปใช้ต่อได้ เพื่อป้องกันความมักง่ายของคนที่จะเอาไปใช้หาผลประโยชน์ต่อในทางที่ผิด เช่น
"ต้องการเครดิตและข้อมูลความน่าเชื่อถือจากแบรนด์นี้ๆ แต่ตัวเองนำสินค้าปลอมหรือด้อยคุณภาพมาขายให้ลูกค้าอื่นๆต่อไปแทน เท่ากับหลอกลวงผู้บริโภค”
(และเราเชื่อตลอดมาว่าถ้าคนมันจะขายของจริงๆต่อให้ขายเป็นรายได้เสริมเล่นๆ ใน1เดือนมันจะขายไม่ได้เลยซักนิด มันคงอยู่ไม่ได้หรอก หรือไม่เดาอีกแบบคือ เค้าได้เลิกขายไปแล้ว)
ซึ่งถ้าวันนึงมันเกิดความเสียหายจากลูกค้าคุณมา ทางต้นแบรนด์มันก็จะเดือดร้อน....
และวันนี้!!!......เราเจอเหตุการ์ณคนมักง่ายทั้งหมดนี้แล้วด้วยตัวเอง
จากคนที่เข้ามาในรูปแบบตัวแทนจำหน่ายเราคนหนึ่ง วันนึงเค้าเลิกสั่งจากเราไป แล้วไปรับสินค้าจากไหนก็ไม่รู้มาขายต่อเอง โดยที่ข้อมูลและทุกๆอย่างก็ยังใช้ของเราทั้งหมด!!!
เบาะแสทุกอย่างเรารู้ได้เพราะมีลูกค้าทั้งใหม่และเก่ามาให้ข้อมูลร้านนี้.....
…….ตอนแรกเราก้ปล่อยผ่าน เพราะ1.คิดว่าตัวแทนจำหน่ายเราแหล่ะ และ
2.คิดว่าไม่ว่าธุรกิจวงการไหนก็คงจะมีคนประเภทนี้อยู่ที่พยายามCopy แต่ยังไงคุณภาพและอะไรหลายๆอย่างไม่เท่ากันหรอก
.......แต่แล้ววันนึงก็มีลูกค้ามาถามว่า"ชีสชื่อเดียวกันทุกอย่างเหมือนกันหมดเลย เชื่อใจได้มั้ย เป็นตัวแทนจำหน่ายเรารึเปล่า?” วันนั้นรู้สึกเหมือนอะไรดลใจให้เราต้องเข้าไปหาดูตามลูกค้าบอก...........
สิ่งที่เห็นคือ...คนนี้.....................
……..เคยเป็นตัวแทนจำหน่ายเราจริง แต่ขาดการติดต่อไปแล้ว และล็อตสุดท้ายที่ส่งให้เมื่อปลายปีที่แล้วก็ไม่ได้เยอะด้วย!!!! สินค้าไม่มีทางพอขายมาถึงตอนนี้แน่ๆ.........
ไม่ใช่ละ!!! คนนี้เอาชีสอะไรมาขาย แต่ใช้ชื่อชีสเรา!!? หรือพูดว่าง่ายๆ copy paste ข้อมูลเลยแหละ
…...เราเริ่มไล่ตอบคำถามนั้นกับคนที่เข้ามาถามเรียงคนว่า “คนนี้ไม่ใช่ชีสแพะจากเราแน่นอน เพราะขาดการติดต่อกันไปแล้ว และชีสที่นำมาขายนั้นชีสอะไรไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นชีสวัวอันที่สัตว์กินได้นั้น ลูกค้าก็สามารถรู้ได้เช่นกันโดย.....**มีใบการันตีความปลอดภัยชีสสัตว์แท้จากอเมริกา**"
!!ประเด็น!!
เอกสารลิขสิทธิ์ ทะเบียนการค้า ทุกอย่างต่างๆนาๆ ของเรายังไม่เสร็จสมบูรณ์เป็นรายลักษณ์อักษร
เพราะมันยุ่งยากหลายขั้นตอนทั้งฝั่งสวิตฝั่งไทย....
เราแค่รู้สึกว่าถ้าเขาจะขายเขาควรเอาข้อมูลจากทางชีสที่เขารับมารึป่าว?? ไม่ใช่ก็อปปี้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาขนาดนี้ และลูกเพจเราก็เข้าใจว่านั้นคือชีสทางร้านเรา
เลยอยากปรึกษาว่าเราควรทำยังไงต่อไปดีคะ???