กลยุทธ์ใหม่ บนเส้นทางเดิมของ MONO29


ในขณะทีวีดิจิทัลเกิดสภาวะ “โอเวอร์ ซัพพลาย” มีทั้งข่าว ละคร เกมโชว์ มิวสิคโชว์ ทอล์กโชว์ และรายการวาไรตี้ต่าง ๆ ให้เลือกดูมากมายถึง24 ช่อง โดยคอนเซ็ปต์ของหลาย ๆ รายการซ้ำ ๆ กัน

โมโน 29 ที่รันด้วยคอนเทนต์หลักเป็นหนังจากต่างประเทศเกือบ 90% เลยมีจุดแตกต่าง กลายเป็นช่องที่แทบจะไม่มีคู่แข่ง และปีที่ผ่านมาสามารถขึ้นไปอยู่ Top 4 รองจากช่อง 7, 3 และเวิร์คพ้อยท์

นวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ “Marketeer” ถึงภาพรวมในอุตสาหกรรม ทีวีดิจิทัล และแนวทางของ โมโน 29 ในปี 2560 ไว้อย่างน่าสนใจ

ช่องข่าวน่าห่วง แต่ช่องวาไรตี้ก็ใช่ว่าจะง่าย

นวมินทร์ มีความเห็นเหมือนหลาย ๆ คนว่าการทำข่าวสร้างความแตกต่างยาก เพราะมีผู้เล่นเข้ามาจำนวนมาก และนอกจากจะมีช่องข่าวโดยตรง 7 ช่องแล้ว ช่องที่เป็นวาไรตี้ ตามเงื่อนไขก็ต้องมีข่าว 25% ด้วย

“สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเมื่อมีการสัมภาษณ์คนที่อยู่ในกระแส ไมค์ไม่รู้กี่ช่องถูกจ่อปาก คำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ วนไปมา แล้วออนตอนไหนดูไม่ทันเลย เยอะมาก ที่สำคัญปรากฏว่าช่องวาไรตี้หลายช่องไปทำข่าวต่อทำข่าวได้ดีกว่าช่องข่าวโดยตรง ทำให้เรตติ้งของช่องข่าวยิ่งลดลงไปอีก”

อย่างไรก็ตามกรณีการเข้ามาถือหุ้นในช่องอัมรินทร์ ของกลุ่มไทยเบฟ และการเข้ามาเพิ่มทุนของ กลุ่มปราสาททองโอสถในช่อง ONE ก็สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารช่องวาไรตี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

“ช่องวาไรตี้ก็น่าห่วงนะ เพราะต้นทุนในการผลิตคอนเทนต์สูงมาก ต้นทุนสูงกว่าทำข่าว อย่างช่อง ONE ฐานคนดูเดิมจากช่อง 5 ก็มี ละครก็ดี คุณบอย ถกลเกียรติก็เก่ง แต่การบริหารทั้งช่องปัญหามากกว่าการบริหารแค่ละคร ครั้งนี้ไม่ได้ต้องการแค่เรตติ้งแค่ช่วงละครที่ผลิต แต่ต้องบริหารเรตติ้งทั้ง 24 ชั่วโมง”

เขายังให้ความเห็นว่า ถึงแม้อัมรินทร์ จะเป็น King of Content แต่การเข้ามาทำทีวีคนละแฟลตฟอร์มกัน การเล่าคอนเทนต์เพื่อดึงคนดูก็คนละแบบกัน

“ง่าย ๆ ทีวีมีแสง สี เสียง เอ็ฟเฟกต์ หลากหลายมิติ แต่หนังสือคือเขียน เล่าเรื่อง ถ่ายภาพนิ่ง ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เคยมีต่างกับการทำทีวีแน่นอน แล้วเขาเองอาจจะจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เป็นคนกลุ่มบน ยิ่งทำให้บริหารเรตติ้งยากขึ้น

“อีกปัญหาหนึ่งคือช่องวาไรตี้ เมื่อก่อนจำนวนช่องน้อย แต่ละช่องจะมีความเด่นของคอนเทนต์ต่างกัน แต่วันนี้จำนวนช่องเยอะมาก รูปแบบทำรายการเลยซ้ำ ๆ กัน เช่น เรื่องกิน เรื่องเที่ยว ดังนั้นเม็ดเงินโฆษณาก็ต้องมาเฉลี่ยกัน เช่นเดียวกับละครเคยมีแข่งกัน 2 ช่อง ตอนนี้ทุกช่องทำละคร กเกิดโอเวอร์ซัพพลายเหมือนกัน”

โมโน 29 ยุทธศาสตร์เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสีสัน

กว่าจะถึงเดือน พฤษภาคม 2560 อาจจะมีข่าวการเพิ่มทุน หรือเปลี่ยนกลุ่มทุนใหม่ในทีวีดิจิทัลบางช่อง แต่สำหรับช่องที่ไม่มีปัญหา การแถลงข่าวในเรื่องแผน หรือนโยบายใหม่คงไม่จำเป็น เพระเชื่อว่าทุกช่องกำลังเดินไปตามแนวยุทธศาสตร์ที่วางไว้

“ปีนี้ โมโน คงไม่ต้องแถลงนโยบาย เพราะผมคิดว่ามันผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว เราอยู่ในระหว่างทำตามแผนให้เป็นช่องของ “หนังดี ซีรีส์ดัง” ถ้าแถลงอีกเดี๋ยวจะสับสนว่าแผนที่พูดไปผิดพลาดเหรอ ถ้าแถลงก็อาจโฟกัสในเรื่องเปิดตัวละครใหม่อะไรพวกนั้นมากกว่า”

จากจุดแข็งของช่องตามสโลแกน “หนังดี ซีรีส์ดัง” หรือ Motion Non-Stop Channel จนกลายเป็นการสร้างพฤติกรรมการเปิดแช่ช่องโมโน 29 และสร้างเรตติ้งที่ต่อเนื่อง ดังนั้นการกว้านซื้อลิขสิทธิ์หนังใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพมาไว้ในมือ การจับมือพันธมิตรค่ายบันเทิงระดับโลก อาทิ วอร์เนอร์, ยูนิเวอร์แซล, พาราเม้าท์ ฯลฯ รวมไปถึงค่ายหนังในประเทศไทย ในการรับสิทธิ์ภาพยนตร์ระดับพรีเมี่ยมมาออกอากาศประจำโปรแกรมหลักของช่อง “พรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์”, โปรแกรม “ฮิต มูวี่ส์” และ โปรแกรม “แฮปปี้ แฟมิลี่ไทม์” ก็ยังต้องทำต่อไป

ที่สำคัญโมโนต้องแข่งกับตัวเองโดยต้องเน้นในเรื่องคุณภาพของโปรดักท์ และต้องหารายการที่เป็นเหมือนหมัดฮุคแรง ๆ เพื่อดึงเรตติ้งทั้งช่องให้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อการก้าวขึ้นสู่ Top 3 ต่อไป

“นักการตลาดต่างประเทศเขียนไว้ว่าโมโน เป็น HollyWood of Thailand ก็เข้าใจง่ายดี ชัดเจน และปีหน้าเราคงไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมาก เดินไปตามทิศทางเดิม แต่เพิ่มสีสันโดยมีโลคอลคอนเทนต์ให้หลากหลายขึ้น ผมยอมรับว่าเรายังขาดตัวที่ทำให้ได้เรตติ้งมันตู้ม มันเปรี้ยงขึ้นมา เพราะตอนนี้เรตติ้งเรากระจายทุกช่วงเวลาอยู่ที่ 2-3 ซึ่งถ้าเทียบกับช่องวัน หรือช่องเวิร์คพ้อยท์ บางรายการเขาสามารถดันไปได้ถึง 5-6 ช่อง 3 ขึ้นไป 10 แต่ถ้าโมโนรักษาระดับนี้ได้ผมขออีกซัก 1-2 รายการที่ทำให้ได้ 5-6 ถ้าทำได้เรตติ้งเฉลี่ย ผมจะแซงเวิร์คพอยท์ ทันที”

ดึงค่าย “ไท” เข้ามา หวังสร้างโมเดลเดียวกับแกรมมี่

หลังจากสลายตัวของค่าย GTH “ไทเอ็นเตอร์เทนเม้นต์” ได้ร่วมมือครั้งใหม่กับ “บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ “MONO GROUP” ภายใต้ชื่อ T MOMENT (ที โมเม้นต์) โดยตั้งเป้าผลิตภาพยนตร์ 3 – 5 เรื่องต่อปี และ ยังมุ่งหวังในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

“ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาได้ปิดกล้องหนังเรื่องแรกระหว่าง คุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ กับค่ายโมโนไปแล้ว และจะฉายประมาณเดือนมีนาปีนี้ เป็นอีกอาวุธหนึ่งที่เรามี เพราะหนังของเขาต่อไปก็ต้องเอามาฉายในช่องเรา และเมื่อไหร่เรามีทีมงาน มีบุคลากร มีดาราในสังกัด ก็เอามาพัฒนาต่อเป็นซีรีส์ออนแอร์ในทีวี ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับช่อง ONE หรือช่อง Gmm25 ที่มีหนัง มีดารา จากค่ายแกรมมี่ มาช่วยเสริม”

นอกจากนั้น โมโน ยังมี “ละครไทยซีรีส์” หลากหลายแนว ตั้งแต่แนวอิงประวัติศาสตร์, แนวแอ็คชั่น, แนวลึกลับสืบสวนสอบสวน และแนวสร้างสรรค์สังคม โดยดึงผู้จัดระดับชั้นแนวหน้า อาทิ ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์, ผู้พันเบิร์ด-พันโทวันชนะ สวัสดี, อีฟ-พุทธธิดา ศิระฉายา รวมถึงผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้า ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล (คุณชายอดัม) รวมทั้งผู้จัดหน้าใหม่ ดนุพร ปุณณกันต์ เข้ามาร่วมงานกับช่องด้วย

เรื่องแรกคือ ตี๋ใหญ่ เรตติ้ง 1.5-2.3 เรื่องต่อไปคือ หัวใจและไกปืน และนเรศวรที่มีทั้งหมด 6 ภาค ภาคละ 12 ตอน

“เราหวังว่า ซีรี่ส์ ละครจะเสริมให้ช่องเรา Mass ขึ้นและบางเรื่องจะทำให้กระแสเปรี้ยงขึ้นมา โดยจะเน้นละครบู๊ต่อสู้ ตื่นเต้น ไม่ใช่แนวแบบหวานแหววเพื่อเอาใจกลุ่มคนต่างจังหวัด จะเตรียมไว้ ปีละ 8-9 เรื่อง ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลาประมาณ 20.30น. ส่วนกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ ผมก็เอาหนังฟอร์มยักษ์สู้ ถ้าละครติดก็โอเคนะ เราก็จะครบถ้วนทั้งในโลคอลคอนเทนต์และคอนเทนต์จากต่างประเทศ”

มีความเป็นไปได้ว่าจะเพิ่มช่วงเวลาออนแอร์ละครเพิ่มขึ้นในปีนี้ ถ้าละครที่ทำอยู่ เรตติ้งเปรี้ยงขึ้นมาและคนดูเรียกร้องต้องการดูเพิ่ม

นอกจากนั้นยังมีคอนเทนต์เสริมคือ สปอร์ต โดยได้สนับสนุนกีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่มีผู้คนนิยมเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และได้สร้างสนามสเตเดี้ยม 29 ขึ้นมา เพื่อพัฒนาลีกไทย และจัดให้มีการแข่งขัน ไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก หรือ TBL ขึ้นด้วย

สร้างพฤติกรรมใหม่ให้คนดูคุ้นชิน

นวมินทร์ บอกว่า ตอนนี้เกิดพฤติกรรมใหม่ คือคนดูจะเปิดช่องโมโน 29 ทิ้งไว้เลย ถ้าเจอหนังที่ชอบก็ดู ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยน

“คือเขาไม่สนใจว่าช่วงไหนเรื่องอะไร แต่เขารู้ว่า 9โมงถึงเที่ยง 2 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่ม ต้องเข้ามาดู แล้วเราก็จะคอยกระตุ้นตามช่องทางต่าง ๆ บ้างว่า วันนี้ จะมีเรื่องอะไรตอนไหน ผมเชื่อว่าตอนนี้พฤติกรรมของโมโนเป็นแบบนี้ ซึ่งทำให้ช่องเราโตขี้นเรื่อย ๆ เราสามารถกวาดฐานคนดูใหม่ ๆ เข้ามา สิ่งที่ปรู๊ฟในเรื่องนี้ก็เช่น ภาพยนตร์เก่าที่เคยฉายเมื่อปีที่แล้วพอมาฉายใหม่ เรตติ้งสูงขึ้นต่างกันเท่าตัว แสดงว่าฐานคนดูเราเพิ่มขึ้น”

สำหรับกลุ่มเป้าหมายคนดูโมโน 29 คือกลุ่ม Mass โดยจะเป็นกลุ่มผู้ชายประมาณ 55% ภาพยนต์ต่างประเทศจะจับกลุ่มทั้งคนกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด ซีรีส์ละครจะกวาดฐานคนต่างจังหวัดซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของผู้บริโภค

“ผมยอมรับว่า การเล่นพฤติกรรมคนเข้าใจว่ามันยาก แต่เมื่อไหร่ที่คนคุ้นชินสิ่งที่เราทำมันจะง่าย ช่วงแรกจะยากหน่อยเพราะเป็นเรื่องของการปรับพฤติกรรมคน แต่หลังจากที่เขาติดแล้วจะเปลี่ยนก็ยากเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เราลงทุนลงแรงไปในช่วง 3 ปีแรก ผมมั่นใจว่ามันจะทยอยออกดอกออกผลแน่นอน” นวมินทร์ กล่าวย้ำอย่างมั่นใจ

ที่มา : http://marketeer.co.th/archives/106725
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่