สกายนิวส์/MGR Online - โรลส์-รอยซ์ ในวันพุธ(18ม.ค.) แถลงขอโทษอย่างตรงไปตรงมา หลังยอมจ่ายเงินค่าปรับมากกว่า 600 ล้านปอนด์ แลกกับการยุติคดีทุจริตคอร์รัปชัน ที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศ ในนั้นรวมถึงกรณีบริษัทแห่งนี้ซื้อขายเครื่องยนต์กับการบินไทย
บริษัทเทคโนโลยีซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของภาคธุรกิจอังกฤษ ยอมรับว่าพวกเขามีพฤติกรรมที่มิอาจยอมรับได้ หลังผลการสืบสวนพบว่าทางบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดสินบนและตกแต่งบัญชี
เวลานี้ข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่อังกษได้รับการอนุมัติ เปิดทางให้ โรลส์-รอยซ์ รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติม แต่ต้องแลกกับการจ่ายค่าปรับ 497 ล้านปอนด์
นอกจากนี้แล้วพวกเขายังต้องจ่ายเงินราว 141 ล้านปอนด์แก่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ในข้อตกลงยุติคดีที่เร่งรีบเพื่อให้เสร็จสิ้นก่อน โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีและหลีกเลี่ยงโดนลงโทษเพิ่มเติมในบราซิล
ข้อตกลงนี้ที่เรียกว่าข้อตกลงชะลอการฟ้องร้องคดี ยังหมายความด้วยว่าทาง โรลส์-รอยซ์ จะยินยอมให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมและเปิดทางให้เข้าถึงเอกสารต่างๆ
อย่างไรก็ตามเดวิด กรีน ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ (Serious Fraud Office หรือ SFO) บอกว่าเวลานี้กำลังมีการพิจารณาดำเนินคดีทางอาญากับบุคคลต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคอรัปชัน
"เราจะเบี่ยงความสนใจและลำดับเป้าหมายของเราไปที่ผู้ต้องสงสัยรายบุคคล เราจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมว่ามีใครควรถูกดำเนินคดีหรือไม่" กรีนระบุ
รายละเอียดความไม่ซื่อของ โรลส์-รอยซ์ ถูกเปิดเผยในศาล ด้วยเครือข่ายสินบนนี้ย้อนกลับไปราว 25 ปีก่อนใน 7 ประเทศ
โดยในประเทศไทย นายหน้าได้จ่ายเงินราว 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้โรลส์-รอยซ์ ได้สัญญา 3 ฉบับสำหรับจัดมอบเครื่องยนต์แก่การบินไทย ส่วนในอินโดนีเซีย ทางบริษัทได้จ่ายเงินแก่ใครบางคน 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและรถยนต์โรลส์-รอยซ์ 1 คัน ตอบรางวัลสำหรับสนับสนุนให้สายการบินแห่งชาติการูดา ใช้เครื่องยนต์เทรนต์ 700 ของทางบริษัท
นอกจากนี้แล้วยังมีการเสนอเงินใต้โต๊ะทั้งใน รัสเซีย, ไนจีเรีย, จีน, มาเลเซียและอินเดีย โดยที่ โรลส์-รอยซ์ เป็นผู้ริเริ่มเอง หรือไม่ก็ไม่ยอมสกัดการคอรัปชันที่กำลังเกิดขึ้น
ผู้พิพากษาที่ตัดสินคดีนี้ในอังกฤษ เรียก โรลส์-รอยซ์ ว่าเป็น "เพชรยอดมงกุฎของภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษ" แต่กลับมาทำความผิดครั้งใหญ่
วอร์เรน อีสต์ ซีอีโอของบริษัทได้ออกแถลงการณ์ขอโทษว่า "พฤติกรรมที่ถูกเปิดโปงระหว่างการสอบสวนของเอสเอฟโอและหน่วยงานอื่นๆ เป็นสิ่งรับไม่ได้อย่างยิ่ง และเราขอภัยอย่างยิ่งต่อสิ่งที่ได้ทำไป สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วถูกเปิดโปงออกมาก ไม่ได้สะท้อนถึงวิธีการทำธุรกิจของเราในปัจจุบัน"
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006076
โรลส์-รอยซ์แถลงขอโทษ หลังยอมจ่ายค่าปรับคอรัปชันในหลายชาติ-ติดสินบนขายเครื่องยนต์ให้การบินไทย
บริษัทเทคโนโลยีซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของภาคธุรกิจอังกฤษ ยอมรับว่าพวกเขามีพฤติกรรมที่มิอาจยอมรับได้ หลังผลการสืบสวนพบว่าทางบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดสินบนและตกแต่งบัญชี
เวลานี้ข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่อังกษได้รับการอนุมัติ เปิดทางให้ โรลส์-รอยซ์ รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติม แต่ต้องแลกกับการจ่ายค่าปรับ 497 ล้านปอนด์
นอกจากนี้แล้วพวกเขายังต้องจ่ายเงินราว 141 ล้านปอนด์แก่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ในข้อตกลงยุติคดีที่เร่งรีบเพื่อให้เสร็จสิ้นก่อน โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีและหลีกเลี่ยงโดนลงโทษเพิ่มเติมในบราซิล
ข้อตกลงนี้ที่เรียกว่าข้อตกลงชะลอการฟ้องร้องคดี ยังหมายความด้วยว่าทาง โรลส์-รอยซ์ จะยินยอมให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมและเปิดทางให้เข้าถึงเอกสารต่างๆ
อย่างไรก็ตามเดวิด กรีน ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ (Serious Fraud Office หรือ SFO) บอกว่าเวลานี้กำลังมีการพิจารณาดำเนินคดีทางอาญากับบุคคลต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคอรัปชัน
"เราจะเบี่ยงความสนใจและลำดับเป้าหมายของเราไปที่ผู้ต้องสงสัยรายบุคคล เราจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมว่ามีใครควรถูกดำเนินคดีหรือไม่" กรีนระบุ
รายละเอียดความไม่ซื่อของ โรลส์-รอยซ์ ถูกเปิดเผยในศาล ด้วยเครือข่ายสินบนนี้ย้อนกลับไปราว 25 ปีก่อนใน 7 ประเทศ
โดยในประเทศไทย นายหน้าได้จ่ายเงินราว 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้โรลส์-รอยซ์ ได้สัญญา 3 ฉบับสำหรับจัดมอบเครื่องยนต์แก่การบินไทย ส่วนในอินโดนีเซีย ทางบริษัทได้จ่ายเงินแก่ใครบางคน 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและรถยนต์โรลส์-รอยซ์ 1 คัน ตอบรางวัลสำหรับสนับสนุนให้สายการบินแห่งชาติการูดา ใช้เครื่องยนต์เทรนต์ 700 ของทางบริษัท
นอกจากนี้แล้วยังมีการเสนอเงินใต้โต๊ะทั้งใน รัสเซีย, ไนจีเรีย, จีน, มาเลเซียและอินเดีย โดยที่ โรลส์-รอยซ์ เป็นผู้ริเริ่มเอง หรือไม่ก็ไม่ยอมสกัดการคอรัปชันที่กำลังเกิดขึ้น
ผู้พิพากษาที่ตัดสินคดีนี้ในอังกฤษ เรียก โรลส์-รอยซ์ ว่าเป็น "เพชรยอดมงกุฎของภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษ" แต่กลับมาทำความผิดครั้งใหญ่
วอร์เรน อีสต์ ซีอีโอของบริษัทได้ออกแถลงการณ์ขอโทษว่า "พฤติกรรมที่ถูกเปิดโปงระหว่างการสอบสวนของเอสเอฟโอและหน่วยงานอื่นๆ เป็นสิ่งรับไม่ได้อย่างยิ่ง และเราขอภัยอย่างยิ่งต่อสิ่งที่ได้ทำไป สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วถูกเปิดโปงออกมาก ไม่ได้สะท้อนถึงวิธีการทำธุรกิจของเราในปัจจุบัน"
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006076