ถ้าจะว่าไปแล้ว Jackie คือหนังที่พาผู้ชมไปรู้จักตัวตนของเธอ รู้จักความคิด และอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ หลังวินาทีลอบสังหาร ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ราวกับจะถามคนดูกลับมาว่า หากผู้หญิงในชุดชมพูนั้น คือ คุณเอง คุณจะมีวิธีรับมือกับความคิด สติสัมปชัญญะชั่วแล่น อย่างไร
มันอาจจะดูไม่งามนักกับภาพที่หนังตั้งใจนำเสนอในช่วงหนึ่ง แต่ฉากนั้นก็เป็นคำถามกลับถึงคนดูได้อย่างดี โดยเฉพาะการไล่เรื่องตามคำบอกเล่าของแจ็กกี้ ต่อนักเขียนคนหนึ่ง ก็เป็นนัยยะเช่นกันว่า เธอมีบารมีมากพอ ที่จะเล่าเรื่องในมุมมมองของเธอสู่สาธารณชน ซึ่งมันก็คือความจริง ที่ระบายความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เรียกว่า ถ้าใจไม่แข็งพอ อาจช็อคได้ง่ายๆเหมือนกัน
แน่นอนว่า นาตาลี พอร์ตแมน คือ แจ็กกี้ ได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมิติ หนังขายความสามารถของเธออย่างที่สุด การแสดงของ นาตาลี เข้าขั้นที่เรียกได้ว่า ไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะการแสดงออกถึงอิริยาบถ น้ำเสียง ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนวันเวลากลับไปในยุคนั้นได้จริงๆ หลายๆฉากที่ นาตาลี ส่งอารมณ์ แจ็กกี้ มาสู่คนดูได้เยี่ยมมาก เล่นเอาน้ำตาซึม แอบรู้สึกสงสารกับชะตาชีวิตของเธอที่ต้องมาประสบ
สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับภาพความโศกเศร้าและใบหน้าอันเปื้อนทุกข์ คือ ดนตรีประกอบ ที่กรีดเสียงได้เจ็บแสบ พร้อมที่จะกรีดความรู้สึกของคนดุไปพร้อมๆกัน
หนังใช้ภาพฟุตเทจเก่ามาควบรวมกับการแสดงในหนังเข้าด้วยกัน ทำให้นึกถึง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ที่มีฉากจับมือกับ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ แต่สำหรับแจ็กกี้ พาคนดูเข้าไปได้ลึกกว่านั้นมาก การนำเสนอเรื่องตัดสลับระหว่าง ก่อนและหลัง การสูญเสีย ไม่ใช่แค่เพียงตำแหน่ง ประธานาธิบดี เท่านั้น แต่มีผลถึงตำแหน่ง สตรีหมายเลขหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา อีกด้วย
ช่วงท้ายของหนัง คือการมะรุมมะตุ้มในประเด็นต่างๆมากมายที่ปูมาแต่ต้นเรื่อง ขมวดปลายให้เห็นถึง ปัญหาที่ แจ็กกี้ ต้องพบเจอ ทั้งจากผู้คนรอบข้าง การเมืองในพรรคของสามี บางฉากคือการแสดงให้เห็นถึง ความต้องการและความคิดของ แจ็กกี้ เอง ที่เผยความรู้สึกออกมาอย่างโต้งๆ การแสดงออกถึงอาการของความสูญเสีย ที่ต้องประคองสติ เพื่อประคับประคองชีวิตของเธอ และลูกๆอีก 2 คน การพยายามรักษาเกียรติให้กับ สามี ทั้งหมดนี้หนังจะให้คำตอบที่ชัดเจนได้ดียิ่ง และหนทางสุดท้ายของมนุษย์ที่ต้องพบกับทางตันของชีวิต ไม่ว่าชาติภาษาใด ก็หนีไม่พ้น ศาสนา คือที่พึ่งเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่แจ็กกี้ปราถนาให้ผู้คนยังคงจดจำ คือความสำเร็จที่สุด เพราะจนถึงวันหนึ่งที่มีคนนำชีวิตของสามี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ มาทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง JFK และในวันนี้ก็มีคนนำชีวิตแม้จะเป็นบางเสี้ยว แต่ก็คงเป็นเสี้ยวแห่งความทรงจำที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอก็ว่าได้ อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Jackie หม้ายหมายเลขหนึ่ง
ลองชมตัวอย่างกันก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=I6xISSQDCD0
[CR] ลองรีวิว : Jackie -- หม้ายหมายเลขหนึ่ง
มันอาจจะดูไม่งามนักกับภาพที่หนังตั้งใจนำเสนอในช่วงหนึ่ง แต่ฉากนั้นก็เป็นคำถามกลับถึงคนดูได้อย่างดี โดยเฉพาะการไล่เรื่องตามคำบอกเล่าของแจ็กกี้ ต่อนักเขียนคนหนึ่ง ก็เป็นนัยยะเช่นกันว่า เธอมีบารมีมากพอ ที่จะเล่าเรื่องในมุมมมองของเธอสู่สาธารณชน ซึ่งมันก็คือความจริง ที่ระบายความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เรียกว่า ถ้าใจไม่แข็งพอ อาจช็อคได้ง่ายๆเหมือนกัน
แน่นอนว่า นาตาลี พอร์ตแมน คือ แจ็กกี้ ได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมิติ หนังขายความสามารถของเธออย่างที่สุด การแสดงของ นาตาลี เข้าขั้นที่เรียกได้ว่า ไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะการแสดงออกถึงอิริยาบถ น้ำเสียง ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนวันเวลากลับไปในยุคนั้นได้จริงๆ หลายๆฉากที่ นาตาลี ส่งอารมณ์ แจ็กกี้ มาสู่คนดูได้เยี่ยมมาก เล่นเอาน้ำตาซึม แอบรู้สึกสงสารกับชะตาชีวิตของเธอที่ต้องมาประสบ
สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับภาพความโศกเศร้าและใบหน้าอันเปื้อนทุกข์ คือ ดนตรีประกอบ ที่กรีดเสียงได้เจ็บแสบ พร้อมที่จะกรีดความรู้สึกของคนดุไปพร้อมๆกัน
หนังใช้ภาพฟุตเทจเก่ามาควบรวมกับการแสดงในหนังเข้าด้วยกัน ทำให้นึกถึง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ที่มีฉากจับมือกับ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ แต่สำหรับแจ็กกี้ พาคนดูเข้าไปได้ลึกกว่านั้นมาก การนำเสนอเรื่องตัดสลับระหว่าง ก่อนและหลัง การสูญเสีย ไม่ใช่แค่เพียงตำแหน่ง ประธานาธิบดี เท่านั้น แต่มีผลถึงตำแหน่ง สตรีหมายเลขหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา อีกด้วย
ช่วงท้ายของหนัง คือการมะรุมมะตุ้มในประเด็นต่างๆมากมายที่ปูมาแต่ต้นเรื่อง ขมวดปลายให้เห็นถึง ปัญหาที่ แจ็กกี้ ต้องพบเจอ ทั้งจากผู้คนรอบข้าง การเมืองในพรรคของสามี บางฉากคือการแสดงให้เห็นถึง ความต้องการและความคิดของ แจ็กกี้ เอง ที่เผยความรู้สึกออกมาอย่างโต้งๆ การแสดงออกถึงอาการของความสูญเสีย ที่ต้องประคองสติ เพื่อประคับประคองชีวิตของเธอ และลูกๆอีก 2 คน การพยายามรักษาเกียรติให้กับ สามี ทั้งหมดนี้หนังจะให้คำตอบที่ชัดเจนได้ดียิ่ง และหนทางสุดท้ายของมนุษย์ที่ต้องพบกับทางตันของชีวิต ไม่ว่าชาติภาษาใด ก็หนีไม่พ้น ศาสนา คือที่พึ่งเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่แจ็กกี้ปราถนาให้ผู้คนยังคงจดจำ คือความสำเร็จที่สุด เพราะจนถึงวันหนึ่งที่มีคนนำชีวิตของสามี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ มาทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง JFK และในวันนี้ก็มีคนนำชีวิตแม้จะเป็นบางเสี้ยว แต่ก็คงเป็นเสี้ยวแห่งความทรงจำที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอก็ว่าได้ อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Jackie หม้ายหมายเลขหนึ่ง
ลองชมตัวอย่างกันก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=I6xISSQDCD0