กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมใน Pantip เริ่มจากการที่ผมอยากไปอียิปต์มากจึงเริ่ม Search หาว่าจะไปเองได้หรือไม่มีแต่คนบอกว่าคนที่นี่ไม่ตรงไปตรงมาถูกหลอกได้ง่าย ราคาต้องต่อทุกอย่างเว้น แต่ค่า ตั๋วท่องเที่ยว จึงตัดสินใจไปทัวร์ดีกว่า จึงเลือกทัวร์ในช่วงปีใหม่ที่ราคาถูกที่สุด (แต่ก็แพงอยู่ดีแหะๆ) และทัวร์ช่วงอื่นไม่สามารถออกได้ โดยในโปรแกรมบอกว่าบินภายในสองรอบแต่แล้วประมาณสองสัปดาห์ก่อนเดินทางทางบริษัทบอกว่าสายการบินแคนเซิลต้องนอนรถไฟหนึ่งคืน งานเข้าละ แต่ทั้งชีวิตอยากไปอียิปต์สักครั้ง จึง confirm ไป ถือซะว่าเป็นการผจญภัยแล้วกัน
Day 1 Fly with Egypt Air
ผมลากกระเป๋าไปสุวรรณภูมิไป Check in อียิปต์แอร์ ในหัวตอนนี้มีแต่ความกังวลใจเรื่องความปลอดภัย ระเบิด กบฏ ความปลอดภัยสายการบินแต่ไม่ทันแล้วจ่ายเงินไปหมดแล้วไปถึงเคาเตอร์ มีหัวหน้าทัวร์คอยต้อนรับอย่างดี โอเค จะไปละนะ ขึ้นเครื่องบินตอนห้าทุ่มกว่าเครื่องออกเกือบตี1 ที่นั่งค่อนข้างแคบแถมแถวกลางนั่ง 4 คน นั่งในซะด้วย คนแน่นเกือบเต็มลำ แอร์เย็นจัดหนาวมาก อาหารมื้อแรกประมาณตีสองครึ่งบ้านเรา เป็นซีฟู้ดแบบไม่มีให้เลือก ไม่แน่ใจว่าทางทัวร์สั่งให้หรือไม่สามารถเลือกได้ ได้ทานเป็นกุ้งกับข้าวผัด รสชาติพอ(แหลก)ได้ หลังจากทานเสร็จก็นอนเลยเพราะดึกมากละง่วงและไม่มีอะไรดูเนื่องจากหนังและรายการ ค่อนข้างน้อย โดนปลุกทานอาหารมื้อเช้าเป็นซีฟู้ดแบบไม่มีให้เลือกเหมือนเดิมเอาละถึงไคโรละใช้เวลา เกือบ 10 ชั่วโมง ที่เจ๋งคือนักบินคอนโทรลเครื่องขึ้นลงนิ่มมากไม่รู้สึกกระแทกหรือเบรกเลย
Day 2 Yella Cairo
ที่ ไคโรผ่านตม.โดยทีทำ visa on arrival ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการรับกระเป๋า ระหว่างรอผ่านตม.จะมี ที่รับแลกเงินโดยเราต้องแลกเงิน USD มาจากไทยและมาแลกที่นี่เป็นปอนด์อียิปต์ rate ตกประมาณ 1 ดอลลาร์ได้ 18 ปอนด์ (ประมาณ ปอนด์ละ 2 บาทไทย) แนะนำไม่ต้องแลกเยอะส่วนมากใช้ ดอลลาร์ได้ ออกมาถึงประมาณ 7 โมงเช้า อากาศหนาวมากประมาณ 8-16 องศาที่นี่เค้าห้ามคนมารับเข้าสนามบิน ต้องมารออยู่หน้าประตูทางออกเลยเพื่อป้องกันมือระเบิด รถโดยสารที่มารับคันเล็กมาก very minibus ที่ต้องยัดกระเป๋าจำนวนมาก ไว้เบาะ ข้างหลัง และเอากระเป๋าไปทิ้งที่ โรงแรม ที่จะนอนคืนนี้ก่อน คือ โรงแรม intercontinental City star เป็นโรงแรม อลังการติดห้างใหญ่ใน Cairo แต่ละที่ก่อนเข้ารร มี security ขั้นสุดยอด ตำรวจตรวจรถ สุนัขดมกลิ่นรอบรถถึงจะให้ผ่านรั้วโรงแรม โหชักน่ากลัวนะนี่ ขับรถผ่านเมืองอันเต็มไปด้วยฝุ่น ขยะเต็มถนน และบ้านที่สร้างไม่เสร็จ (ไกด์บอกว่าถ้าสร้างเสร็จ จะต้องเสียภาษี 30% และไม่ทาสีและฉาบปูนเพราะมีพายุทรายบ่อยๆ) ข้ามฝั่งไปกีซ่าแล้วก็ไปทานอาหารเช้าที่ Mercure Cairo Le Sphinx Hotel เป็นbuffet อาการคาวน้อยมากไส้กรอกไม่อร่อยแต่ของหวานผลไม้เพียบเลย ขนมทาร์ตเค้กอร่อยทุกอย่างเลย ซึ่งก่อนเข้ารร มีการ ตรวจรอบรถ มีสุนัขดมวัตถุระเบิด และเอกซ์เรย์กระเป๋าก่อนเข้า(หลายด่านมากนะนี่)หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปที่แรกคือที่เมืองเมมฟิส ไปดูรูปสลักรามเสสที่2 ก่อนเข้าก็เช่นเคยมีจุดเอกซ์เรย์กระเป๋า และ ตรวจร่างกาย(ลูบคลำ ตามตัวหาระเบิดด้วยนะครับบางที่)
เมืองเมมฟิส(ชื่อเหมือนพระเอกคำสาปฟาโรห์เลยเนอะ)เป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บน และอียิปต์ล่าง ให้เป็นหนึ่งเดียวโดยกษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ที่นี่ท่านจะได้ชม รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ด้วยหินอลาบาสเตอร์ของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ฝีมือการแกะสลักเป็นเยี่ยม ระหว่างทางท่านจะได้เห็นตัวฐานรากของสถานที่โบราณและรูปแกะสลักจากหินที่ยังหลงเหลืออยู่ในระดับพื้นดิน รอบๆยังมีรูปสลักต่างๆอีกมาก เช่น รูปสฟิงก์ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอียิปต์ ( อันดับหนึ่ง ก็ต้องที่กีซ่า)
รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ฟาโรห์รามเสสที่ 2
สฟิงก์แห่งเมมฟิส
จากนั้นคณะทัวร์ก็เดินทางไป ปิรามิดซัคคาราเป็นปิรามิดขั้นบันได ปีรามิดขั้นบันได เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของ กษัตริย์ซอเซอร์เป็นต้นแบบของมหาปิรามิดที่กีซ่าครับ ไกด์บอกจะถ่ายรูปก็ต้องกระโดดสิครับรออะไร
ด้านข้างของปีรามิดเป็นวิหารเทพประจำเมืองต่างๆปัจจุบันไม่เหลือรูปสลักอะไรแล้ว
พักทานอาหารเที่ยงเป็นไก่กะแกะย่างบนเตาถ่าน รสชาติพอใช้ได้แต่ที่อร่อยคือแป้งที่เป็นอาหารอิสลามเหนียวนุ่มมาก
ตอนบ่ายไปเมืองกีซ่า เพื่อเข้าชม “มหาปีรามิด” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณสร้างขึ้นเพื่อฝังพระศพของพระองค์เอง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 30 ปี มีสามอันได้แก่ คูฟู คาเฟร และ เมนคูเร อันใหญ่สุดคูฟู
ปีรามิด คูฟู
ปีรามิด เมนคูเร
ปีรามิด คาเฟร
คาราวานอูฐ
สฟิงก์แห่งกีซ่า
กิจกรรมที่ทำเมื่อเยี่ยมชมคือ
1 เข้าชมหลุมฝังศพในปีรามิด ประมาณ 200 ปอนด์อียิปต์
2. ขี่อูฐ คนละ 280 ปอนด์อียิปต์ (ต่อคนนะไม่ใช่ต่อตัวสมมติขึ้น 2คนก็คูณสอง)
ด้วยมีรีวิวว่าข้างในปีรามิดไม่มีอะไรเลยถ่ายรูปข้างนอกและขี่อูฐดีกว่า มาที่นี่เห็นความวุ่นวายของการท่องเที่ยวมากๆ เช่นแขกจะเข้าคุยจะเข้ามาถามยื่นของขาย จับผ้ามาโพกหัวเรา อาสาถ่ายรูป คุกคามแบบถึงเนื้อถึงตัว หยุดก่อน!!ทุกอย่างเปนทิปนะครับ ขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์ มีแขกชวนขึ่อูฐ 1ดอลลาร์ ไกด์บอกว่าค่าลงอีก30 USD ไกด์จัดให้ไปที่วินอูฐ (คล้ายวินมอเตอร์ไซด์)โดยบอกว่าค่าถ่ายภาพให้รวมใน 280 อียิปต์ปอนด์แล้วหลังจากขี่อูฐมีแวะถ่ายรูปตามจุดไฮไลต์ ประมาณ 2-3 จุดใช้เวลา 15 นาที แต่หลังจากลง คนจูงอูฐที่ถ่ายรูปให้ขอทิป (อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา) ยื่นให้ 100 อียิปต์ปอนด์(ประมาณ 200 บาท) ก็ไม่ยอมปล่อย เขาขอ 200 อียิปต์ปอนด์ เอาเหอะจ่ายก็จ่ายแต่แอบเซ็ง หลังจากนั้น ก็เย็นมากละต้องรีบไปจุดถ่ายสฟิงก์ ก่อนปิด และไปดูโรงงานน้ำหอมซึ่งเขาว่ากันว่าอียิปต์เป็นต้นกำเนิดน้ำหอมมาก่อนยุโรป เมนูให้เลือกหลายกลิ่นเป็นกลิ่นต้นแบบของน้ำหอม เช่น ดิออร์ และมีหลายกลิ่นที่มีเฉพาะที่นี่ จากนั้นไปร้านกระดาษปาปิรุส แล้วกลับเข้าโรงแรม intercontinental กินบุฟเฟต์โรงแรมและพักผ่อน ห้องหรูมากตามสไตล์อินเตอร์คอน แถมอยู่ติดห้างเลยเดินห้างดีกว่า
ห้างนี้ชื่อ City star เป็นห้างใหญ่มากแน่นอนก่อนเข้าห้างผ่านเครื่องตรวจวัดถุระเบิดและเอกซ์เรย์กระเป๋าหิ้ว เปนห้างใหญ่มีร้านแบรนด์เนมจำนวนมากและด้วยเรทเงินอียิปต์ราคาถูกทำให้ Zara ถูกกว่าที่ไทยตอนช่วงเซลล์พอสมควร แล้วจึงเข้าโรงแรมเพื่อนอน
[CR] ทัวร์อียิปต์สุดโหด 8 วัน
Day 1 Fly with Egypt Air
ผมลากกระเป๋าไปสุวรรณภูมิไป Check in อียิปต์แอร์ ในหัวตอนนี้มีแต่ความกังวลใจเรื่องความปลอดภัย ระเบิด กบฏ ความปลอดภัยสายการบินแต่ไม่ทันแล้วจ่ายเงินไปหมดแล้วไปถึงเคาเตอร์ มีหัวหน้าทัวร์คอยต้อนรับอย่างดี โอเค จะไปละนะ ขึ้นเครื่องบินตอนห้าทุ่มกว่าเครื่องออกเกือบตี1 ที่นั่งค่อนข้างแคบแถมแถวกลางนั่ง 4 คน นั่งในซะด้วย คนแน่นเกือบเต็มลำ แอร์เย็นจัดหนาวมาก อาหารมื้อแรกประมาณตีสองครึ่งบ้านเรา เป็นซีฟู้ดแบบไม่มีให้เลือก ไม่แน่ใจว่าทางทัวร์สั่งให้หรือไม่สามารถเลือกได้ ได้ทานเป็นกุ้งกับข้าวผัด รสชาติพอ(แหลก)ได้ หลังจากทานเสร็จก็นอนเลยเพราะดึกมากละง่วงและไม่มีอะไรดูเนื่องจากหนังและรายการ ค่อนข้างน้อย โดนปลุกทานอาหารมื้อเช้าเป็นซีฟู้ดแบบไม่มีให้เลือกเหมือนเดิมเอาละถึงไคโรละใช้เวลา เกือบ 10 ชั่วโมง ที่เจ๋งคือนักบินคอนโทรลเครื่องขึ้นลงนิ่มมากไม่รู้สึกกระแทกหรือเบรกเลย
Day 2 Yella Cairo
ที่ ไคโรผ่านตม.โดยทีทำ visa on arrival ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการรับกระเป๋า ระหว่างรอผ่านตม.จะมี ที่รับแลกเงินโดยเราต้องแลกเงิน USD มาจากไทยและมาแลกที่นี่เป็นปอนด์อียิปต์ rate ตกประมาณ 1 ดอลลาร์ได้ 18 ปอนด์ (ประมาณ ปอนด์ละ 2 บาทไทย) แนะนำไม่ต้องแลกเยอะส่วนมากใช้ ดอลลาร์ได้ ออกมาถึงประมาณ 7 โมงเช้า อากาศหนาวมากประมาณ 8-16 องศาที่นี่เค้าห้ามคนมารับเข้าสนามบิน ต้องมารออยู่หน้าประตูทางออกเลยเพื่อป้องกันมือระเบิด รถโดยสารที่มารับคันเล็กมาก very minibus ที่ต้องยัดกระเป๋าจำนวนมาก ไว้เบาะ ข้างหลัง และเอากระเป๋าไปทิ้งที่ โรงแรม ที่จะนอนคืนนี้ก่อน คือ โรงแรม intercontinental City star เป็นโรงแรม อลังการติดห้างใหญ่ใน Cairo แต่ละที่ก่อนเข้ารร มี security ขั้นสุดยอด ตำรวจตรวจรถ สุนัขดมกลิ่นรอบรถถึงจะให้ผ่านรั้วโรงแรม โหชักน่ากลัวนะนี่ ขับรถผ่านเมืองอันเต็มไปด้วยฝุ่น ขยะเต็มถนน และบ้านที่สร้างไม่เสร็จ (ไกด์บอกว่าถ้าสร้างเสร็จ จะต้องเสียภาษี 30% และไม่ทาสีและฉาบปูนเพราะมีพายุทรายบ่อยๆ) ข้ามฝั่งไปกีซ่าแล้วก็ไปทานอาหารเช้าที่ Mercure Cairo Le Sphinx Hotel เป็นbuffet อาการคาวน้อยมากไส้กรอกไม่อร่อยแต่ของหวานผลไม้เพียบเลย ขนมทาร์ตเค้กอร่อยทุกอย่างเลย ซึ่งก่อนเข้ารร มีการ ตรวจรอบรถ มีสุนัขดมวัตถุระเบิด และเอกซ์เรย์กระเป๋าก่อนเข้า(หลายด่านมากนะนี่)หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปที่แรกคือที่เมืองเมมฟิส ไปดูรูปสลักรามเสสที่2 ก่อนเข้าก็เช่นเคยมีจุดเอกซ์เรย์กระเป๋า และ ตรวจร่างกาย(ลูบคลำ ตามตัวหาระเบิดด้วยนะครับบางที่)
เมืองเมมฟิส(ชื่อเหมือนพระเอกคำสาปฟาโรห์เลยเนอะ)เป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บน และอียิปต์ล่าง ให้เป็นหนึ่งเดียวโดยกษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ที่นี่ท่านจะได้ชม รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ด้วยหินอลาบาสเตอร์ของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ฝีมือการแกะสลักเป็นเยี่ยม ระหว่างทางท่านจะได้เห็นตัวฐานรากของสถานที่โบราณและรูปแกะสลักจากหินที่ยังหลงเหลืออยู่ในระดับพื้นดิน รอบๆยังมีรูปสลักต่างๆอีกมาก เช่น รูปสฟิงก์ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอียิปต์ ( อันดับหนึ่ง ก็ต้องที่กีซ่า)
รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ฟาโรห์รามเสสที่ 2
สฟิงก์แห่งเมมฟิส
จากนั้นคณะทัวร์ก็เดินทางไป ปิรามิดซัคคาราเป็นปิรามิดขั้นบันได ปีรามิดขั้นบันได เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของ กษัตริย์ซอเซอร์เป็นต้นแบบของมหาปิรามิดที่กีซ่าครับ ไกด์บอกจะถ่ายรูปก็ต้องกระโดดสิครับรออะไร
ด้านข้างของปีรามิดเป็นวิหารเทพประจำเมืองต่างๆปัจจุบันไม่เหลือรูปสลักอะไรแล้ว
พักทานอาหารเที่ยงเป็นไก่กะแกะย่างบนเตาถ่าน รสชาติพอใช้ได้แต่ที่อร่อยคือแป้งที่เป็นอาหารอิสลามเหนียวนุ่มมาก
ตอนบ่ายไปเมืองกีซ่า เพื่อเข้าชม “มหาปีรามิด” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณสร้างขึ้นเพื่อฝังพระศพของพระองค์เอง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 30 ปี มีสามอันได้แก่ คูฟู คาเฟร และ เมนคูเร อันใหญ่สุดคูฟู
ปีรามิด คูฟู
ปีรามิด เมนคูเร
ปีรามิด คาเฟร
คาราวานอูฐ
สฟิงก์แห่งกีซ่า
กิจกรรมที่ทำเมื่อเยี่ยมชมคือ
1 เข้าชมหลุมฝังศพในปีรามิด ประมาณ 200 ปอนด์อียิปต์
2. ขี่อูฐ คนละ 280 ปอนด์อียิปต์ (ต่อคนนะไม่ใช่ต่อตัวสมมติขึ้น 2คนก็คูณสอง)
ด้วยมีรีวิวว่าข้างในปีรามิดไม่มีอะไรเลยถ่ายรูปข้างนอกและขี่อูฐดีกว่า มาที่นี่เห็นความวุ่นวายของการท่องเที่ยวมากๆ เช่นแขกจะเข้าคุยจะเข้ามาถามยื่นของขาย จับผ้ามาโพกหัวเรา อาสาถ่ายรูป คุกคามแบบถึงเนื้อถึงตัว หยุดก่อน!!ทุกอย่างเปนทิปนะครับ ขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์ มีแขกชวนขึ่อูฐ 1ดอลลาร์ ไกด์บอกว่าค่าลงอีก30 USD ไกด์จัดให้ไปที่วินอูฐ (คล้ายวินมอเตอร์ไซด์)โดยบอกว่าค่าถ่ายภาพให้รวมใน 280 อียิปต์ปอนด์แล้วหลังจากขี่อูฐมีแวะถ่ายรูปตามจุดไฮไลต์ ประมาณ 2-3 จุดใช้เวลา 15 นาที แต่หลังจากลง คนจูงอูฐที่ถ่ายรูปให้ขอทิป (อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา) ยื่นให้ 100 อียิปต์ปอนด์(ประมาณ 200 บาท) ก็ไม่ยอมปล่อย เขาขอ 200 อียิปต์ปอนด์ เอาเหอะจ่ายก็จ่ายแต่แอบเซ็ง หลังจากนั้น ก็เย็นมากละต้องรีบไปจุดถ่ายสฟิงก์ ก่อนปิด และไปดูโรงงานน้ำหอมซึ่งเขาว่ากันว่าอียิปต์เป็นต้นกำเนิดน้ำหอมมาก่อนยุโรป เมนูให้เลือกหลายกลิ่นเป็นกลิ่นต้นแบบของน้ำหอม เช่น ดิออร์ และมีหลายกลิ่นที่มีเฉพาะที่นี่ จากนั้นไปร้านกระดาษปาปิรุส แล้วกลับเข้าโรงแรม intercontinental กินบุฟเฟต์โรงแรมและพักผ่อน ห้องหรูมากตามสไตล์อินเตอร์คอน แถมอยู่ติดห้างเลยเดินห้างดีกว่า
ห้างนี้ชื่อ City star เป็นห้างใหญ่มากแน่นอนก่อนเข้าห้างผ่านเครื่องตรวจวัดถุระเบิดและเอกซ์เรย์กระเป๋าหิ้ว เปนห้างใหญ่มีร้านแบรนด์เนมจำนวนมากและด้วยเรทเงินอียิปต์ราคาถูกทำให้ Zara ถูกกว่าที่ไทยตอนช่วงเซลล์พอสมควร แล้วจึงเข้าโรงแรมเพื่อนอน