[CR] 1st: Hongkong...เวอร์ชั่นขึ้นเขา เข้าป่า หาที่เล่นเซิร์ฟ :}


               สวัสดี นี่เป็นรีวิวแรกของเรา ด้วยความไปฮ่องกงมาหลายครั้ง ไปทุกปี บางปีไปมากกว่าหนึ่งครั้ง (ฉันควรเก็บตังค์ไปเที่ยวที่อื่นมั่งไหมล่ะ? 55) ซึ่งแต่ละครั้งที่ไปก็ล้วนแต่ไปเยือนสถานที่ฮิต ซึ่งคิดว่าหลายๆคนที่มีแพลนไปฮ่องกงคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว พอคราวนี้มีโอกาสได้ไปเลยอยากหาที่เที่ยวใหม่ๆบ้าง บังเอิญไปเจอคนที่เราตาม IG อยู่เชคอินที่นี่พอดี ก็เห้ยยยย สวยยยยย จะไปปปป (งอแงทำไม?) จะบอกว่าบางทีถ้าอยากหาที่เที่ยวใหม่แบบที่มีคน local กับต่างชาติไปแบบที่ไม่มีในโปรแกรมทัวร์หรือไกด์บุค แนะนำให้ search หาจาก # location ใน IG นะ จะค้นพบว่ามีที่น่าไปเยือนเยอะมาก (รอบนี้เรา search ว่า #hklocal) เกริ่นยาวเกินละ เริ่มเถอะเนอะ ไปค่ะ



การเดินทาง เรานั่ง MRT มาลงสถานี Shau Kei Wan ทางออก A3 Bus Terminus (ไม่ต้องท่องเลขทางออกนะ เอาเป็นว่าหาทางออกที่จะไป Bus terminus เพราะเราต้องต่อรถบัสไปอีก)

ตรงใกล้ทางออกมี 7-11 ปลายทางที่เราจะไปเป็นการเดินขึ้นเขา ยังไงเตรียมน้ำ ขนม ยาดม หรืออะไรก็แล้วแต่ไปด้วย โดยซื้อได้จากที่นี่นะ บนเขาไม่มีร้านขายนะยูววว อ่อ แนะนำว่าอย่าพกเยอะ ถ้ากระเป๋าหนักไป เดินไปซักพักจะเริ่มหยิบของมาทีละอย่างแล้วถามว่า ไอนี่ยังจำเป็นอยู่มั้ย พร้อมโยนทิ้งได้อย่างไม่ใยดี 55+
จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปเลย เพื่อไปป้ายรถเมลล์ คือเราคิดว่า หูยยยการไปเดินเขา ต้องแบบมีแต่คนเฮลตี้ หนุ่มสาวต่างชาติผมทองงี้ ละนี่ไปวันธรรมดา คนคงจะชิวๆน้อยๆ พอถึงป้ายรถเมลปุ๊ป.....
เต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือม
คุณคะ!!!!!! ทำไมคนที่นี่เฮลตี้ปานนี้ล่ะเธออออออออ คนเยอะมาก แถวยาวคดเคี้ยวพับแล้วพับอีก อย่างกะ BTS ช่วง 18:00 วันจันทร์ 55 ฮิตไปอี๊กกกกกก ซึ่ง 80% เป็นคุณลุงคุณป้าชาวฮ่องกงนะ แต่งตัวเตรียมพร้อมเดินเขาแล้วก็ดูแข็งแรงกันมากด้วย 15% เป็นวัยหนุ่มสาวชาวเอเชีย (รวมเราไปแล้ว) 5% สุดท้ายเป็นชาวตะวันตกตอนแรกกังวลเล็กๆว่าจะเดินเขาได้มั้ย แต่เห็นงี้ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ

เราก็ไปต่อแถวรถเมลล์สาย 9 ปลายทาง Shek O ได้เลยค่ะ คือถึงคนจะเยอะ แต่ว่ารอไม่นานเลย เพราะว่าที่นี่คือต้นสาย เป็นรถสองชั้น พอรถมาทีก็จุคนไปได้เยอะมาก ก็ใช้บัตรปลาหมึก (Octopus) ตื้ดขึ้นไปเลยจ้า

ทีนี้ก็นั่งฟังประกาศป้ายรถเมลล์ถัดไป หรือดูจากป้ายไฟหน้ารถได้เลย ซึ่งเราจะลงกันที่ป้าย To Tai Wan (ถ้านั่งมองป้ายไฟไป บางทีเค้าจะมีบอกด้วยนะ ว่าตรงนี้ถึงจุด Sight seeing ให้มองวิวแล้วถ่ายรูปได้นะ งามนะเธอ อะไรประมาณนี้ ก่อนตัวอักษรจะเป็นรูปกล้องวิ่งขึ้นมา เราก็มโนได้เลยว่า อ่อจุดชมวิวสินะ)

ระหว่างทางไปนี่วิวสวยนะ คือเนื่องจากเป็นการนั่งรถขึ้นเขา ก็จะมีวิวเหวข้างทางให้ดู (ควรจะชื่นชมหรือควรจะตื่นเต้นกังวลก็ไม่แน่ใจ 55+) บางช่วงของเส้นทางก็เป็นการตัดถนนผ่าเขาแบบนี้เลย ก็จะเป็นกำแพงหินแบบนี้ เท่ดี

พอถึงป้าย To Tai Wanก็ลงได้เลย แล้วจะเจอป้ายบอกทางแบบนี้ แสดงว่าถูกแล้วล่ะ ถ้าเลยป้ายนี้ไปจะเป็นป้ายทางแยกเพื่อไปหาด Shek O ถ้ามีความดวงดีนั่งรถเลยไปก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะ ลงแล้วเดินย้อนกลับมา ไม่ไกลเท่าไหร่ น่าจะประมาณ  500 ม. ถือเป็นการวอร์มก่อนเดินขึ้นเขาละกัน (จะโลกสวยไปไหนหรอออ) เอาเป็นว่าสังเกตป้ายไฟกันด้วยนะจ๊ะ หัวเราะ
ตรงทางขึ้นมีห้องน้ำสาธารณะด้วย แต่เราว่าเตรียมทำธุระมาให้เรียบร้อยดีกว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆค่อยเข้าที่นี่ ถ้าไหวก็ผ่านไปก่อนเถอะ ตักเตือนด้วยความหวังดี (- _-!!)

ไปค่ะ เริ่มเทรล ทางเดินก็ประมาณนี้ มีทั้งแนวเดินขึ้น แนวทางราบ คือเขาทำค่อนข้างดีนะ มีทางเดิน มีหิน เลยไม่แปลกใจที่คุณลุงคุณป้ามาเดินกันเยอะมาก มันยังไม่ค่อยแอดแวนเจอร์มากเท่าไหร่ ก็เทรลกันแบบสบายๆละกัน

เดินมาเรื่อยๆจะเจอทางแยก พร้อมป้ายบอกทาง เดินไปตามป้าย Dragon’s back เลยคับ


ไปตามทางเรื่อยๆจะเจอจุดยอดนิยมจุดที่ 1 (นี่คือจุดที่เราเห็นรูปจาก ig) แวะถ่ายรูปสิฮะ รออะไร 555+ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แบ่งปันกับผู้ร่วมทางนะ เพราะว่าคนรอถ่ายรูปอยู่มากมาย เขินเลยเธออออ

เราว่าวิวภูเขา พอมีทะเลอยู่ข้างล่าง มันงามขึ้นมากเลยในความคิดเรา ดูมีความเข้ากันระหว่างสีเขียวของต้นไม้ และความฟ้าของน้ำทะเล ฟินไปสิ ^^


จากจุดแรกก็เดินต่อไปเรื่อยๆจะเจอป้ายทางแยกอีก ทาง Sheck O Road คือที่เราขึ้นมา เราก็เดินตาม Dragon’s Back ไปเลย

ระหว่างทางเดินก็มีวิวงามๆให้แวะถ่ายรูปเยอะไปหมด ดี๊ดีอ่ะ

วันที่ไปมีน้องหมาวิ่งนำด้วย เห้ยยย รอก่อนนนน คือวิ่งแบบไม่สนใจคนเลยอ่ะ ฟิตไปอี๊กกกก คนเดินหอบแฮ่กๆ 5555+ (ที่นี่พาสุนัขมาเดินด้วยได้นะ แต่ถ้าเป็นพันธ์ขนาดใหญ่จะต้องมีสายจูง เค้ามีป้ายบอกตั้งแต่ทางขึ้นเลย) น่ารัก อยากพากลับบ้าน แฮ่ๆ

เดินไปตามทางไม่ต้องกลัวหลง ก็จะขึ้นมาถึงยอด วิวสวยมว๊ากกกกกกกกกกก ลมแรงอากาศดี แต่ด้วยความที่มันสูง ละเป็นยอดเขา จะไม่มีต้นไม้ใหญ่บังร่มให้มากมายนะ ยังไงทาครีมกันแดดกันด้วยกันไหม้ หากใครกลัวร้อนหรือกลัวดำก็ใส่หมวกหรือพกร่มด้วย แต่สำหรับสีผิวเรานั้นกู่ไม่กลับแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้สีแทนกำลังฮิต (หรอ?) 55

สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ที่นี่เป็นคาดิโอที่ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ถ้าเดินนะ ถ้าจะวิ่งเทรลก็ได้ ตอนที่เราไปก็มีคนซ้อมวิ่งเทรลอยู่ แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอาจจะมีหอบบ้างเล็กๆ ก็เดินไปพักไปละกันยูว แล้วก็ระวังลื่น บางช่วงมันเป็นทรายๆ อาจจะลื่นได้ (พี่เราลื่นไปสามครั้งถ้วน -_-!!)

คือด้วยความที่เราเห็นข้อมูลในพันทิพนี่แหละ ว่ามันไปหาด Big Wave Bay ได้จากเทรลนี้ เพียงแต่ไม่ได้เดินกลับทางเดียวจากที่เราขึ้นมา เราก็เลยเดินต่อ ตอนนั้น capture หน้าจอไว้แค่ว่ามันไปอีกทางแยกนึง (ซึ่งป้ายทางแยกไม่เหมือนตอนที่เราขึ้นมานะ) แต่เราก็คิดว่า เออ คงแยกนั้นแหละ เลยเดินลงไปจนถึงทางแยกแรกที่เราเจอ จำได้มะ? อ่ะ แปะให้ดูใหม่

เนี่ย ฉันคิดว่ามันคือแยกนี้แหละ อ่ะ ก็เดินไปอีกทางนึง ที่ตรงข้ามกับ Dragon’s back ก็เดินไปเรื่อยๆ เพราะมันมีทางให้เดินไปเรื่อยๆ เดินๆไปก็มีสวนคนเดินกลับมา 4 คนถ้วน จากนั้นก็หาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนไม่เจอเลย 555555+

เดินไปตามทาง มีข้ามธารน้ำตก (ที่ไม่ค่อยมีน้ำ) บ้าง เดินข้ามหินบ้าง เดินริมเหวบ้าง แต่เป็นทางเดินแบบ มันต้องมีคนเคยเดินอ่ะ ไปเรื่อยๆ แต่ก็แบบเดินไป มองไปทางซ้ายมือ เห้ย ทำไมเจอวิวนี้อีกแล้ววะ เดินไปอีก 10 นาที มันวนมาเจอวิวนี้อีกแล้วค่าาาาา ทีนี้ชัดเลยยยย พี่ชายยยยย ฉันหลงโว้ยยยยยยยยยยยย คือเอาจริงนี่ก็หลงเป็นปกตินะ ไปไหนก็หลง แต่เห้ย ที่นี่มันป่าบนเขานะแก จะมาหลงอะไรตอนนี้ 5555+ อ่ะ คือเดินๆไปก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน ก็คิดว่าคงมีคนเดินตามมาแหละ อย่างน้อยก็มีเพื่อน แต่พอเดินๆไป ทำไมเสียงคุยมันเงียบไปวะ ปรากฎว่ามันคือเสียงคนที่คุยกันจากยอดหลังมังกรที่เราลงมานั่นแหละ (คุยกันเสียงดังทำไมเธออออออ //พาลเค้าอีก ฮ่าๆ) ก็คุยกับพี่ไปว่า เอางี้ๆ เดินไปอีกนิดละกัน ถ้าไม่มีวี่แววทางไปหาด เด๋วเดินกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่ป้ายรถเมลล์ก็ได้ อ่ะก็เดินๆไป แต่แทนที่มันจะเป็นทางลงเขาเพื่อไปหาด คือทะเลมันควรอยู่ข้างล่าง ถูกป่ะ แต่ยิ่งเดินยิ่งกลายเป็นขึ้นเขาเว้ย ละนี่มันยอดเขาอะไรวะทีนี้ งงไปอี๊กกกก ไม่เทรลแล้ววว จะลงน้ามมมมมมม งอแง เดชะบุญ ถือว่ายังโชคดี มีเจ้าถิ่นชาวฮ่องกงมาซ้อมวิ่งเทรลทางที่เราหลงไป เราเลยถามทางเค้า พอเดินตามทางที่เค้าบอกมา.........อ่าว โผล่ที่เดิมไอทางแยกที่เราเพิ่งจากมา 555555 วนเป็นชั่วโมงเพื่อกลับมายืนที่จุดเดิม จุดที่เคยคุ้นตา (เพลงมา 555) เงิบ เออๆ เริ่มต้นใหม่ก็ดะ

จากนั้นเราก็เดินลงมาที่ป้ายรถเมลล์ ทีนี้ก็เคว้งเบาๆ คือเราไม่ได้ดูทางไปด้วยการเริ่มต้นจากรถเมลล์อ่ะแก เข้าใจอารมณ์ป่ะ คือคนตั้งใจจะเดินจากเทรลไป แล้วไงล่ะทีนี้ เคว้งงงงง 55+ พอดีรถสาย 9 มา ปลายทาง Shek O สายเดียวกับที่เราขึ้นมาอ่ะ ตรงป้ายรถเมลล์เขียนว่ามีป่าย Big Wave Bay เออคงไปทางเดียวกัน อ่ะๆ ไป พอขึ้นไปทีนี้ก็จดจ่อกับป้ายไฟ พอเห็นว่าสถานีถัดไปเป็น Big Wave ก็กดกริ่งละเตรียมลง แต่พอรถจอด เห้ยยยแกกกก มันเป็นสนามกอล์ฟ มันไม่ใช่อ่ะ ฉันจะไปทะเลลลลลลล นี่ก็สติแตกบนรถ เลยไม่ยอมลง (คนขับหันมามองด้วยความแบบ ไม่ลงแล้วกดเพื่อ????) หนูขอโทษษษษษ หนูหลงงิ ><” ถัดจาก Big Wave ไป 1 ป้ายก็เป็นป้าย Shek O ซึ่งสุดสายละ อ่ะก็ลง ละเห้ยยยยยย ทะเลลลลลลล มองเห็นทะเลไกลๆ ก็คิดว่านี่คงเป็นหาดเดียวกันป่าว ไปสำรวจจ้ะ

แกกกกกก หมู่บ้านนี้งามมากเลย รู้สึกเดินแล้วมีความเป็น Surfer 5555+ ต่างชาติเยอะด้วยแหละ เดินแล้วดูอินเตอร์ (เกี่ยวมะ?)
ชื่อสินค้า:   Dragon's back หลังมังกร
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่