เที่ยวฮ่องกงแบบไม่ค่อยมีใครไป บอกคนรอบข้างว่าจะไปเดินเขาที่ฮ่องกง มีแต่คนสงสัย จขกท.ไปมาเมื่อ 17 สค. 2559 อากาศค่อนข้างร้อน โชคดีที่ไม่มีฝนเลย
Dragon Back เป็น City trail ที่ดีหนึ่งในสิบอันดับของเอเชียเนื่องจากทางอยู่บนสันเขามองไปจะเห็นทะเลทั้ง 2 ข้าง หลายคนคงเคยไปมาแล้ว
และไหนๆก็ไปถึงที่แล้ว จขกท.เดินต่อที่ Cape D'Aguilar ซึ่งเป็นปลายแหลมคาบสมุทรเดียวกับ Dragon Back
การเดินทางเริ่มจาก MTR สถานี Shau Kei Wan ขึ้น Bus 9 (ต้นสาย) ลงที่ป้าย To Tei Wan จะถึงจุดเริ่มทางเดินหลังมังกรแล้วครับ
โมเสกที่สถานี Shau Kei Wan
จุดเริ่มทางเดินที่ To Tei Wan (ลูกศรสีส้ม) ผมเดินตามเส้นทางสีส้ม ย้อนขึ้นไปตามสันเขาหลังมังกร และลัดเลาะลงเขาไปจบที่หาด Big Wave Bay ระยะทางประมาณ 8 กม.ครับ
เส้นทางหลังมังกรจะเดินไปตามสันเขามองเห็นวิวทะเลทั้งสองข้าง เดินขึ้นไปไม่นานก็เห็นวิวทางซ้ายอ่าว Tai Tam ฝั่งตรงข้ามคือ Stanley ย่านที่อยู่ของชาวตะวันตก
ทางด้านขวาหมู่บ้านข้างล่างคือหมู่บ้าน Shek O
วันที่ไปฟ้าเปิดแดดแรงมากแต่มีเพื่อนร่วมทางหลายคนหลายชาติ แล้วก็ถึงหลังมังกรยาวประมาณ 1 กม.
เดินชมวิวไปเรื่อยๆ (แต่แดดร้อนมาก) ทางลงก็จะอ้อมลงตามริมเขาริมทางมีลำธารเล็กๆหลายสาย
สุดทางปลายทางที่ Big Wave Bay คนฮ่องกงเขาไม่กลัวแดดกับเลย
ผมพักกินข้าวซื้อน้ำเติมที่นี่ จากนั้นเดินไปที่สถานีรถนั่ง Bus 9 เหมือนเดิมกลับไปตามถนน Shek O ผมลงที่ป้าย Cape D'Aguilar แล้วเดินไปตามทางถนนเลยครับ วันที่ไปมีการซ่อมทางมีรถบรรทุกวิ่งเข้าออกหลายคัน
ที่ Cape D'Aguilar ไม่ได้เปิดเป็นที่ท่องเที่ยว แต่เป็นที่ตั้งสถานีวิทยุของฮ่องกง ที่ปลายแหลมเป็นศูนย์วิจัยทางทะเล ระหว่างทางเห็นแต่คนฮ่องกง (คิดเองว่าได้ยินสำเนียงกวางตุ้ง) ส่วนมากเป็นวัยรุ่น และวันที่ไปไม่มีฝรั่งร่วมทางเลย คนน้อยกว่าที่ dragon back มากๆ
ถนนทางเข้าครับ ยอดที่เห็นคือ D'Aguilar peak มีทางเดินขึ้นไป แยกจากทางหลัง ขึ้นไปอีก 2 กม. ลงทางเดิม ข้างบนเป็นที่ตั้งสถานีส่งสัญญาณวิทยุ
ทางเดินเป็นแบบนี้ครับ
ระยะเดินคือไป 4 กม.จนสุดปลายแหลม แล้วเดินกลับทางเดิม รวมประมาณ 8 กม.
ที่กม.สุดท้ายจะเจอสถานีส่งสัญญาณวิทยุมีรั้วเกล็กกั้นห้ามเข้าครับ จะเจอป้าบแบบนี้
ให้เดินไปข้างรั้วครับตามทางเดินเลยครับ จะอ้อมไปถนนอีกด้าน
เดินตามถนนจนสุดเลยก็จะเจอ Cape D'Aguilar Marine Reserve
เดินไปที่ตัวอาคารเลยครับ แต่ห้ามเข้านะเพราะที่นี่เป็นศูนย์วิจัย จะมีป้ายเตือนห้ามบุกรุกอยู่ เดินไปที่มุมอาคารไปเยื่ยมมีสวิลลี่กันครับ (ฺBone 0f Miss Willy - โครงกระดูกปลาวาฬหน้าอาคาร)
เกาะที่เห็นด้านหน้าคือเกาะ Kau Pei Chau ใกล้จนเหมือนจะเดินข้ามไปได้
เดินเลยไปอีกนิดจะเป็นถ้ำหิน (ไม่มีทางเดิน ปีนหินไป)
ออกมาถนนด้านหน้าสถานีวิจัย จะมีทางเล็กข้างทางต้องมุดดงเตยเข้าไปจะเห็นช่องหินริมทะเล คลื่นจะซัดน้ำเข้ามาในซอกหิน แต่เสียนิดหน่อยตรงที่มีเศษขยะเยอะ (น่าจะมาจากคลื่นซัดมาติดในซอกหินครับ
เดินแยกจากทางหลักไปเล็กน้อยตามป้ายบอกทางไป lighthouse ruin ซึ่งเป็นประภาคารเก่าที่มีอายุมากที่สุดในฮ่องกงเลย แต่เป็นประภาคารเล็กๆ ใช้ตั้งแต่ปี คศ. 1875
หมดแล้วครับ จากนั้นเดินกลับทางเดิม แดดร้อนจนตัวแดงไปหมด
หมดแรงแล้วครับ เดินเกือบ 20 กม.
เดินเขาที่ Hong Kong - Dragon Back route - Cape D'Aguilar
Dragon Back เป็น City trail ที่ดีหนึ่งในสิบอันดับของเอเชียเนื่องจากทางอยู่บนสันเขามองไปจะเห็นทะเลทั้ง 2 ข้าง หลายคนคงเคยไปมาแล้ว
และไหนๆก็ไปถึงที่แล้ว จขกท.เดินต่อที่ Cape D'Aguilar ซึ่งเป็นปลายแหลมคาบสมุทรเดียวกับ Dragon Back
การเดินทางเริ่มจาก MTR สถานี Shau Kei Wan ขึ้น Bus 9 (ต้นสาย) ลงที่ป้าย To Tei Wan จะถึงจุดเริ่มทางเดินหลังมังกรแล้วครับ
โมเสกที่สถานี Shau Kei Wan
จุดเริ่มทางเดินที่ To Tei Wan (ลูกศรสีส้ม) ผมเดินตามเส้นทางสีส้ม ย้อนขึ้นไปตามสันเขาหลังมังกร และลัดเลาะลงเขาไปจบที่หาด Big Wave Bay ระยะทางประมาณ 8 กม.ครับ
เส้นทางหลังมังกรจะเดินไปตามสันเขามองเห็นวิวทะเลทั้งสองข้าง เดินขึ้นไปไม่นานก็เห็นวิวทางซ้ายอ่าว Tai Tam ฝั่งตรงข้ามคือ Stanley ย่านที่อยู่ของชาวตะวันตก
ทางด้านขวาหมู่บ้านข้างล่างคือหมู่บ้าน Shek O
วันที่ไปฟ้าเปิดแดดแรงมากแต่มีเพื่อนร่วมทางหลายคนหลายชาติ แล้วก็ถึงหลังมังกรยาวประมาณ 1 กม.
เดินชมวิวไปเรื่อยๆ (แต่แดดร้อนมาก) ทางลงก็จะอ้อมลงตามริมเขาริมทางมีลำธารเล็กๆหลายสาย
สุดทางปลายทางที่ Big Wave Bay คนฮ่องกงเขาไม่กลัวแดดกับเลย
ผมพักกินข้าวซื้อน้ำเติมที่นี่ จากนั้นเดินไปที่สถานีรถนั่ง Bus 9 เหมือนเดิมกลับไปตามถนน Shek O ผมลงที่ป้าย Cape D'Aguilar แล้วเดินไปตามทางถนนเลยครับ วันที่ไปมีการซ่อมทางมีรถบรรทุกวิ่งเข้าออกหลายคัน
ที่ Cape D'Aguilar ไม่ได้เปิดเป็นที่ท่องเที่ยว แต่เป็นที่ตั้งสถานีวิทยุของฮ่องกง ที่ปลายแหลมเป็นศูนย์วิจัยทางทะเล ระหว่างทางเห็นแต่คนฮ่องกง (คิดเองว่าได้ยินสำเนียงกวางตุ้ง) ส่วนมากเป็นวัยรุ่น และวันที่ไปไม่มีฝรั่งร่วมทางเลย คนน้อยกว่าที่ dragon back มากๆ
ถนนทางเข้าครับ ยอดที่เห็นคือ D'Aguilar peak มีทางเดินขึ้นไป แยกจากทางหลัง ขึ้นไปอีก 2 กม. ลงทางเดิม ข้างบนเป็นที่ตั้งสถานีส่งสัญญาณวิทยุ
ทางเดินเป็นแบบนี้ครับ
ระยะเดินคือไป 4 กม.จนสุดปลายแหลม แล้วเดินกลับทางเดิม รวมประมาณ 8 กม.
ที่กม.สุดท้ายจะเจอสถานีส่งสัญญาณวิทยุมีรั้วเกล็กกั้นห้ามเข้าครับ จะเจอป้าบแบบนี้
ให้เดินไปข้างรั้วครับตามทางเดินเลยครับ จะอ้อมไปถนนอีกด้าน
เดินตามถนนจนสุดเลยก็จะเจอ Cape D'Aguilar Marine Reserve
เดินไปที่ตัวอาคารเลยครับ แต่ห้ามเข้านะเพราะที่นี่เป็นศูนย์วิจัย จะมีป้ายเตือนห้ามบุกรุกอยู่ เดินไปที่มุมอาคารไปเยื่ยมมีสวิลลี่กันครับ (ฺBone 0f Miss Willy - โครงกระดูกปลาวาฬหน้าอาคาร)
เกาะที่เห็นด้านหน้าคือเกาะ Kau Pei Chau ใกล้จนเหมือนจะเดินข้ามไปได้
เดินเลยไปอีกนิดจะเป็นถ้ำหิน (ไม่มีทางเดิน ปีนหินไป)
ออกมาถนนด้านหน้าสถานีวิจัย จะมีทางเล็กข้างทางต้องมุดดงเตยเข้าไปจะเห็นช่องหินริมทะเล คลื่นจะซัดน้ำเข้ามาในซอกหิน แต่เสียนิดหน่อยตรงที่มีเศษขยะเยอะ (น่าจะมาจากคลื่นซัดมาติดในซอกหินครับ
เดินแยกจากทางหลักไปเล็กน้อยตามป้ายบอกทางไป lighthouse ruin ซึ่งเป็นประภาคารเก่าที่มีอายุมากที่สุดในฮ่องกงเลย แต่เป็นประภาคารเล็กๆ ใช้ตั้งแต่ปี คศ. 1875
หมดแล้วครับ จากนั้นเดินกลับทางเดิม แดดร้อนจนตัวแดงไปหมด
หมดแรงแล้วครับ เดินเกือบ 20 กม.