โซเชียลกระหน่ำแชร์! บริจาคเลือดเกิน 24 ครั้งขึ้นไปได้สิทธิรักษาเทียบเท่าข้าราชการ สภากาชาดไทย แจง ต้องมีหนังสือรับรอง ใช้ได้เฉพาะผู้บริจาคโลหิตที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นๆ เช่น ประกันสังคม และต้องเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น...
กลายเป็นกระแสที่ถูกแชร์กันทั่วสังคมออนไลน์ หลังจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Tiger Choom ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “ทั้งหมอ พยาบาล และ จนท. ไม่รู้ว่ามีสิทธินี้ด้วย ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนบริจาคเลือดเยอะๆ เกิน 24 ครั้งคุณก็จะได้สิทธิการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับข้าราชการ (ง่ายๆคือแทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ยกเว้นส่วนเกินค่าห้องพิเศษเท่านั้น)” ซึ่งสร้างความฮือฮากับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่า เพิ่งทราบว่ามีสิทธิทำนองนี้
ล่าสุด สภากาชาดไทย ชี้แจงถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า หากผู้บริจาคโลหิตต้องการขอใช้สิทธิรับความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล ผู้บริจาคโลหิตนั้นต้องเป็นผู้ป่วยใน (เข้ารับการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป) เท่านั้น รวมถึงต้องมีหนังสือรับรองจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย หรือ ภาคบริหารโลหิตแห่งชาติ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตในต่างจังหวัด การออกเอกสารรับรองดังกล่าวสามารถใช้ได้เป็นครั้งๆ ไป และใช้ได้เฉพาะผู้บริจาคโลหิตที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นใด
ในส่วนของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่บริจาคโลหิต และมีหนังสือรับรอง สามารถใช้สิทธิขอรับความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลได้ ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือเฉพาะค่าห้องพิเศษ และค่าอาหารพิเศษ โดยให้เรียกเก็บตามอัตราที่กำหนดไว้ แต่ต้องไม่เกินสิทธิที่สามารถเบิกได้จากหน่วยงานต้นสังกัดก่อน ส่วนที่เกินสิทธิให้เรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 สำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือโดยเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้
สำหรับโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ผู้ที่บริจาคโลหิตเกิน 7 ครั้ง และเป็นผู้ป่วยใน เสียค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ ถ้าอยู่ห้องพิเศษ ผ่าตัด ผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด และผู้ที่บริจาคโลหิตเกิน 24 ครั้ง จะได้รับการยกเว้นค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ ถ้าอยู่ห้องพิเศษ ผ่าตัด ผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด.
ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวใช้ได้เฉพาะผู้บริจาคโลหิตที่ไม่มีสิทธิการรักษาพยาบาลอื่นใด และเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น
อยากขอเชิญชวนพี่น้องพันทิปบริจาคเลือดกัน
http://www.thairath.co.th/content/575178
มาดูกัน!!! บริจาคเลือด 24 ครั้ง กับสิทธิพิเศษที่ได้จากโรงพยาบาลมีอะไรกันบ้าง?
โซเชียลกระหน่ำแชร์! บริจาคเลือดเกิน 24 ครั้งขึ้นไปได้สิทธิรักษาเทียบเท่าข้าราชการ สภากาชาดไทย แจง ต้องมีหนังสือรับรอง ใช้ได้เฉพาะผู้บริจาคโลหิตที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นๆ เช่น ประกันสังคม และต้องเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น...
กลายเป็นกระแสที่ถูกแชร์กันทั่วสังคมออนไลน์ หลังจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Tiger Choom ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “ทั้งหมอ พยาบาล และ จนท. ไม่รู้ว่ามีสิทธินี้ด้วย ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนบริจาคเลือดเยอะๆ เกิน 24 ครั้งคุณก็จะได้สิทธิการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับข้าราชการ (ง่ายๆคือแทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ยกเว้นส่วนเกินค่าห้องพิเศษเท่านั้น)” ซึ่งสร้างความฮือฮากับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่า เพิ่งทราบว่ามีสิทธิทำนองนี้
ล่าสุด สภากาชาดไทย ชี้แจงถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า หากผู้บริจาคโลหิตต้องการขอใช้สิทธิรับความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล ผู้บริจาคโลหิตนั้นต้องเป็นผู้ป่วยใน (เข้ารับการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป) เท่านั้น รวมถึงต้องมีหนังสือรับรองจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย หรือ ภาคบริหารโลหิตแห่งชาติ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตในต่างจังหวัด การออกเอกสารรับรองดังกล่าวสามารถใช้ได้เป็นครั้งๆ ไป และใช้ได้เฉพาะผู้บริจาคโลหิตที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นใด
ในส่วนของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่บริจาคโลหิต และมีหนังสือรับรอง สามารถใช้สิทธิขอรับความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลได้ ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือเฉพาะค่าห้องพิเศษ และค่าอาหารพิเศษ โดยให้เรียกเก็บตามอัตราที่กำหนดไว้ แต่ต้องไม่เกินสิทธิที่สามารถเบิกได้จากหน่วยงานต้นสังกัดก่อน ส่วนที่เกินสิทธิให้เรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 สำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือโดยเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้
สำหรับโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ผู้ที่บริจาคโลหิตเกิน 7 ครั้ง และเป็นผู้ป่วยใน เสียค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ ถ้าอยู่ห้องพิเศษ ผ่าตัด ผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด และผู้ที่บริจาคโลหิตเกิน 24 ครั้ง จะได้รับการยกเว้นค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ ถ้าอยู่ห้องพิเศษ ผ่าตัด ผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด.
ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวใช้ได้เฉพาะผู้บริจาคโลหิตที่ไม่มีสิทธิการรักษาพยาบาลอื่นใด และเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น
http://www.thairath.co.th/content/575178