สวัสดีค่ะ ชื่อ “น้ำ” นะค่ะ วันนี้จะมารีวิว ศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต เลือกเสริมจมูกเป็นอย่างแรก ซึ่งกว่าจะตัดสินใจทำ ก็คิดอยู่นานเหมือนกันนะคะ
ประเด็นแรกคือ “กลัว” กลัวทำออกมาไม่สวย กลัวทำออกมาแล้วมีปัญหา
ประเด็นที่สองคือ “ไม่รู้จะทำที่ไหน” ที่ดูๆไว้มีหลายที่เหลือเกิน ส่วนใหญ่หาข้อมูลในเพจเฟสบุ๊ค
ค่อนข้างคิดเยอะนะค่ะ
เชื่อไหมคะ เราหาข้อมูลอยู่เกือบ 2 ปี มีเพื่อนๆ ทำมาจากคลินิคแห่งหนึ่งแล้วมีปัญหา เราก็ยิ่งคิดหนักไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะค่ะ มีหลายคนที่ทำออกมาสวย บางคนจมูกมีน้อยนิดมาก แต่พอเสริมจมูกแล้วเปลี่ยนไปคนละคนเลยก็มี เป็นเหตุผลที่ว่าเราต้องทำจมูกแล้วแหละ
เราตัดสินใจทำจมูกที่โรงพยาบาลชื่อดังแถวพระราม 5 เราโทรมาจองคิวโดยที่พนักงานไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะเราสอบถามจากเพื่อนที่เคยทำมาก่อนอย่างละเอียดแล้ว
เราไม่ได้ฟิกซ์นะคะว่าจะทำกับคุณหมอท่านไหน เพราะจริงๆ เราเชื่อว่าหมอทุกคนมีความสามารถที่จะทำจมูกสวยพอๆ กันค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจมูกเดิมเราด้วย จริงไหมคะ บางคนจมูกเดิมไม่เอื้อต่อการทำให้สวยจะเอาให้ได้เหมือนดารามันก็ไม่ใช่เนอะ เพราะดาราที่จมูกสวยๆ เขาก็มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว
ถึงจะหาข้อมูลมาดีขนาดไหนว่าตอนทำไม่เจ็บ สลบไม่รู้เรื่อง แต่เราก็ตื่นเต้นสุดๆ กลัวเพราะไม่เคยต้องผ่าตัดอะไรเลย และที่สำคัญกลัวออกมาไม่สวย
จำได้ว่าวันนั้นคุณหมอที่ผ่าตัดให้ถามเราว่า “อยากได้แบบไหน” เราตอบว่า “เอาทรงตามใจหมอเลยค่ะ” เพราะเราคิดว่าหมอเขามีประสบการณ์ หมอน่าจะรู้ดีกว่าว่าจมูกแบบอย่างนี้ควรทำทรงไหน
หลังทำเสร็จแรกๆ ยังไม่บวมมาก ยังไม่รู้ว่าทรงสวยแค่ไหนเพราะมีพลาสเตอร์แปะอยู่อย่างหนาแน่น
หมอให้แปะพลาสเตอร์ไว้ 3 วัน (วันที่ทำไม่นับ) พอแกะพลาสเตอร์ออกก็ยังบวมอยู่ แต่ดูมีดั้งขึ้นมาแล้วค่ะ ดั้งชัดเจนมาก
เคล็ดลับลดบวมคือ
- อย่านอนอยู่กับที่ค่ะ พยายามเดินๆ เป็นการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้เลือดหมุนเวียน
- น้ำมะพร้าวก็ช่วยได้ เดี๋ยวนี้หาซื้อง่ายในเซเว่นก็มี เลือกที่ 100% นะคะ
ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ จมูกยับบวมเข้าที่เกือบ 100% แล้วค่ะ
ตามรูปนี้เทียบก่อนทำ/หลังทำให้ดูค่ะ
ด้านหน้า
ด้านข้าง
และก็รูปจมูกปัจจุบัน ส่วนตัวชอบ เพื่อนชมว่าหน้าเปลี่ยนไปเยอะ
ต้องขอบคุณวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่มีการเสริมจมูก ช่วยให้เรามีดั้งสวยๆ เหมือนทุกวันนี้
[CR] อเมซิ่งเสริมจมูก ชีวิตดีเพราะมีดั้ง
ประเด็นแรกคือ “กลัว” กลัวทำออกมาไม่สวย กลัวทำออกมาแล้วมีปัญหา
ประเด็นที่สองคือ “ไม่รู้จะทำที่ไหน” ที่ดูๆไว้มีหลายที่เหลือเกิน ส่วนใหญ่หาข้อมูลในเพจเฟสบุ๊ค
ค่อนข้างคิดเยอะนะค่ะ
เชื่อไหมคะ เราหาข้อมูลอยู่เกือบ 2 ปี มีเพื่อนๆ ทำมาจากคลินิคแห่งหนึ่งแล้วมีปัญหา เราก็ยิ่งคิดหนักไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะค่ะ มีหลายคนที่ทำออกมาสวย บางคนจมูกมีน้อยนิดมาก แต่พอเสริมจมูกแล้วเปลี่ยนไปคนละคนเลยก็มี เป็นเหตุผลที่ว่าเราต้องทำจมูกแล้วแหละ
เราตัดสินใจทำจมูกที่โรงพยาบาลชื่อดังแถวพระราม 5 เราโทรมาจองคิวโดยที่พนักงานไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะเราสอบถามจากเพื่อนที่เคยทำมาก่อนอย่างละเอียดแล้ว
เราไม่ได้ฟิกซ์นะคะว่าจะทำกับคุณหมอท่านไหน เพราะจริงๆ เราเชื่อว่าหมอทุกคนมีความสามารถที่จะทำจมูกสวยพอๆ กันค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจมูกเดิมเราด้วย จริงไหมคะ บางคนจมูกเดิมไม่เอื้อต่อการทำให้สวยจะเอาให้ได้เหมือนดารามันก็ไม่ใช่เนอะ เพราะดาราที่จมูกสวยๆ เขาก็มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว
ถึงจะหาข้อมูลมาดีขนาดไหนว่าตอนทำไม่เจ็บ สลบไม่รู้เรื่อง แต่เราก็ตื่นเต้นสุดๆ กลัวเพราะไม่เคยต้องผ่าตัดอะไรเลย และที่สำคัญกลัวออกมาไม่สวย
จำได้ว่าวันนั้นคุณหมอที่ผ่าตัดให้ถามเราว่า “อยากได้แบบไหน” เราตอบว่า “เอาทรงตามใจหมอเลยค่ะ” เพราะเราคิดว่าหมอเขามีประสบการณ์ หมอน่าจะรู้ดีกว่าว่าจมูกแบบอย่างนี้ควรทำทรงไหน
หลังทำเสร็จแรกๆ ยังไม่บวมมาก ยังไม่รู้ว่าทรงสวยแค่ไหนเพราะมีพลาสเตอร์แปะอยู่อย่างหนาแน่น
หมอให้แปะพลาสเตอร์ไว้ 3 วัน (วันที่ทำไม่นับ) พอแกะพลาสเตอร์ออกก็ยังบวมอยู่ แต่ดูมีดั้งขึ้นมาแล้วค่ะ ดั้งชัดเจนมาก
เคล็ดลับลดบวมคือ
- อย่านอนอยู่กับที่ค่ะ พยายามเดินๆ เป็นการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้เลือดหมุนเวียน
- น้ำมะพร้าวก็ช่วยได้ เดี๋ยวนี้หาซื้อง่ายในเซเว่นก็มี เลือกที่ 100% นะคะ
ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ จมูกยับบวมเข้าที่เกือบ 100% แล้วค่ะ
ตามรูปนี้เทียบก่อนทำ/หลังทำให้ดูค่ะ
ด้านหน้า
ด้านข้าง
และก็รูปจมูกปัจจุบัน ส่วนตัวชอบ เพื่อนชมว่าหน้าเปลี่ยนไปเยอะ
ต้องขอบคุณวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่มีการเสริมจมูก ช่วยให้เรามีดั้งสวยๆ เหมือนทุกวันนี้