[CR] ศัลยกรรมครั้งเเรกกับ AP Clinic จะพังหรือปังมาดูกันนนนนน !!!

สวัสดีค่ะทุกคนนนนนน นี่ก็เป็นกระทู้เเรกของเราเลยน๊าาา ที่มาวันนี้ก็ตามหัวข้อเลยจ้าาา เราจะมารีวิวการศัลยกรรมครั้งเเรกของเรา ซึ่งไม่พูดพร่ำทำเพลงเยอะเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ 

ศัลกรรมครั้งเเรกที่ตัดสินใจทำคือ ?
      เเละศัลยกรรมครั้งเเรกที่ว่านั้นก็คือการ "เสริมจมูก" ค่ะทุกคน เราตัดสินใจเสริมจมูกด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้จมูกและใบหน้าของตัวเองมีมิติ มีดั้ง มีสันมากยิ่งขึ้น ซึ่งฐานเดิมของจมูกเราเป็นคนที่ไม่มีสันดั้งเลย ถ้ามองด้านหน้าจะดูแบนมาก และถ้ายิ่งมองด้านข้างจะไม่มีคำว่าสันดั้งเลย ตาทั้งสองข้างเกือบจะมากองรวมกันเลยจ้าาาา ด้วยเหตุผลนี้เราถึงตัดสินใจที่จะเสริมจมูก เเละก็ได้เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิคที่เสริมเเล้วสวยๆปังๆตั้งเเต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เเละนี่คือรูปเราก่อนเสริมนะคะทุกคน


คลินิคที่เราไว้ใจให้ดูเเลจมูกครั้งนี้คือ ?
      เเละคลินิคที่ได้รับมงจากการเลือกสันของเราในครั้งนี้ก็คืออออออออ " AP clinic " ย่านฝั่งธนส่งเข้าประกวดนั่นเอง ปรบมืออออ!!! ซึ่งบอกตรงๆว่าก่อนจะมาจบที่นี่ เรามีคลินิคที่เลือกไว้ในใจ 2-3 คลินิค ซึ่งเเต่ละคลินิคนั้นเราก็ไม่ได้หามาเเบบลอยๆ คือเราติดตามมาจากกลุ่มรีวิวศัลยกรรมที่รวมรีวิวของทุกๆคลินิคไว้ในนั้น เราก็ได้หาคลินิคที่เค้าทำทรงเเบบที่เราต้องการ และเราก็เอารีวิวของเเต่ละคลินิคมาเทียบกัน สรุป AP clinic รับมงไปจ้าาา ที่เราชอบที่นี่มากเพราะเค้าทำทรงออกมาได้ธรรมชาติเข้ากับใบหน้าของทุกคนเเละทุกเคสมาก ทำออกมาได้ละมุน ไม่โป๊ะ ไม่เเข็งทื่อ เเละที่สำคัญเเทบจะไม่มีหรือไม่มีเคสหลุดจากคลินิคนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งใครชอบสายธรรมชาติต้องที่นี่เท่านั้นเลยเเม่!! 
เเละคุณหมอที่เนรมิตรจมูกครั้งนี้ให้เราก็คือ " คุณหมอทิพย์ AP clinic " นั่นเองงงง

เล่าความรู้สึกตอนเสริมจมูกให้ฟังหน่อย เจ็บหรือป่าว ? 
      จะเล่าถึงความรู้สึกตอนเสริมจมูกนะคะ ซึ่งมันเป็นศัลกรรมครั้งเเรกของเราใช่มั้ยคะ เเน่นอนว่าความหวั่นความกลัวความตื่นเต้นมาเต็ม เเต่คุณหมอเเละพี่ๆผู้ช่วยทุกคนทำให้เราลดอาการเหล่านั้นไปได้เยอะเลยค่ะ 
      ก่อนจะทำการเสริมจมูก เราก็ได้ทำการคุยเเละตกลงกันเรื่องทรงจมูกกับคุณหมอกันก่อน ซึ่งเราก็บอกคุณหมอว่าเราอยากได้ทรงที่เข้ากับหน้าเรา ไม่อยากได้ทรงที่มันเเข็งทื่อจนเกินไป คุณหมอเลยเเนะนำทรงสโลปปลายพุ่ง เเละเเนะนำให้ตะใบเพื่อให้ทรงจมูกดูเรียวยิ่งขึ้นด้วย เเต่คุณหมอบอกว่าจมูกของเราปลายบางจึงทำพุ่งมากเกินไปไม่ได้ ซึ่งคุณหมอท่านเน้นถึงความปลอดภัยของเรามาก คือเค้าจะบอกเราเลยว่าเนื้อจมูกเราทำโด่งได้ประมาณไหน พุ่งได้ประมาณไหน ซึ่งข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีของคลินิคศัลยกรรมเป็นอย่างมาก ที่ถือเอาความปลอดภัยของเราเป็นหลัก
      เเละเมื่อคุยทรงกันเสร็จก็ถึงเวลาขึ้นเขียงละจ้าทุกคน ตื่นเต้นอีกเเล้วว้อยยย  ต่อมาพี่ผู้ช่วยก็เรียกเราเข้าห้องเเละขึ้นไปนอนบนเตียง ซึ่งขั้นตอนเเรกกำลังจะเริ่มเเล้วค่ะทุกคนนนนน ..... 
เเละขั้นตอนเเรกที่คุณหมอทำลงบนจมูกเราก็คือการฉีดยาชาจ้าาาา เสียงเล่าลือมานานว่าเป็นขั้นตอนที่เจ็บที่สุด เมื่อน้องมาเจอด้วยตัวเองน้องไม่เถียงเลยจ้าเเม่!!! เจ็บตามเสียงเล่าลือเล้ยยย เเต่คุณหมอมือเบามากเเละน่ารักมาก ถามเราตลอดว่าเจ็บมั้ย ให้กำลังใจตลอดจนฉีดครบจบทุกเข็ม ซึ่งใช้เวลาเเป๊บเดียวก็เสร็จขั้นตอนฉีดยาชาเเล้วจ้า หลังจากนี้ก็รอให้ยาชาออกฤทธิ์ซึ่งมันออกฤทธิ์เร็วมากจริงๆ ฉีดปุ๊บชาเลยจ้าาา คุณหมอก็คอยเช็คคอยถามตลอดว่ายังเจ็บตรงไหนมั้ย ถ้ายังมีตรงไหนที่เจ็บคุณหมอเค้าจะได้เติมยาชาตรงนั้นเพิ่มให้ เพราะเวลาทำการเสริมซิลิโคนจะได้ไม่มีอาการเจ็บ เมื่อยาชาออกฤทธิ์ได้ที่ทั่วทั้งจมูก คุณหมอก็ได้เริ่มบรรเลงจมูกของเราเลยจ้า ซึ่งซิลิโคนที่คุณหมอใช้ทำการเสริมครั้งนี้ให้เราคือ " ซิลิโคนเเมนทิส USA " คุณหมอก็ได้ทำการเหลาซิลิโคนอย่างละเอียดเเละใจเย็น เเละเมื่อได้ทรงตามที่ต้องการก็ทำการเสริมเข้าไปในจมูก ซึ่งขอย้ำว่าคุณหมอมือเบามากกกกกกกกกกก คือเสริมเข้าไปตอนไหนนี่ไม่รู้สึกเลย ใช้เวลาไม่นานก็เป็นอันเสร็จ หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้เราลุกขึ้นมาดูเเละเช็คทรง คือถ้าเรายังไม่พอใจคุณหมอจะได้เเก้ไขเพิ่มเติมให้ เเต่ทางเราคือโอเคเเละพอใจกับทรงนี้เเล้วจึงเป็นอันปิดจ็อบ หลังจากนั้นคุณหมอก็ได้ทำการเย็บไหมปิดเเผลให้เราก็เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นพี่ผู้ช่วยก็พาเราเข้าไปอีกห้องเพื่อทำการฉายเเสงลดบวมประมาณ 30 นาที (ถ้าจำไม่ผิด) เเละเมื่อฉายเเสงเสร็จก็ได้ติดตัวดามหรือเฝือกให้ที่จมูกเรา ขั้นตอนทุกอย่างก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี 

การใช้ชีวิตหลังการเสริมจมูก ลำบากมั้ย เป็นยังไงบ้าง ? 
      หลังจากที่เสริมจมูกมาทางคลินิคก็เเนะนำว่า ห้ามให้จมูกโดนน้ำหรือว่าห้ามล้างหน้าเลยก็ยิ่งดีมาก เป็นเวลา 14 วัน ก็คือวันเเรกจนถึงวันตัดไหม เเละให้นอนหมอนสูงเข้าไว้ สูงได้เท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดี หรือถ้านั่งนอนไปเลยได้ก็ยิ่งดีมากๆ ให้ใช้หมอนรองคอเป็นตัวช่วยในการล็อคคอไม่ให้คอตะเเคง ห้ามกินของสเเลง (ของหมักดอง อาหารทะเล เหล้า บุหรี่ ไก่ ไข่ เป็นต้น) ให้กินยาตามที่หมอจัดให้ไปติดต่อกันจนหมด หมั่นล้างเเผล ดูเเลรักษาเเผลตามที่หมอเเนะนำเช้า-เย็นทุกวันเป็นประจำ เเละที่สำคัญเลยก็คือหมั่นประคบร้อน ประคบเย็นตามที่หมอเเนะนำก็คือ 5วันเเรกให้ประคบเย็นทั่วใบหน้ายกเว้นตรงจมูกห้ามไปโดนเด็ดขาด เเละหลังจากนั้นเมื่อเข้าวันที่6ให้ทำการประคบอุ่นซึ่งทำเหมือนกับตอนประคบเย็นเลย ซึ่งการประคบนี้เป็นการลดอาการบวมบนใบหน้าได้ดีที่สุด ให้ทำติดต่อไปจนกว่ารอยบวมหายเกลี้ยง คุณหมอก็ยังเเนะนำอีกว่าให้กินน้ำมะพร้าวหรือว่าน้ำใบบัวบกเยอะๆเป็นการลดบวมอีกวิธีหนึ่ง
      มาดูเอฟเฟคที่เกิดบนใบหน้าของเรากันดีกว่า ว่าจะมีอาการอะไรขนาดไหนบ้าง มาเริ่มกันเลย .......
นี่เป็น "วันเเรก" หลังจากเสริมจมูกมา จะเห็นได้ว่าเริ่มมีรอยช้ำๆตรงหัวตาเล็กน้อย เเต่รอยบวมยังไม่มีให้เห็น
นี่คือ "วันที่2" จะเห็นว่ารอยบวมเริ่มมา ตรงหน้าเเก้มเริ่มตึง รอยช้ำชัดขึ้นตรงใต้ตา

"วันที่3" เป็นวันที่บวมหนักที่สุด หน้าเเก้มบวมตึงไปหมด รอยช้ำใต้ตาชัดมากกว่าวันที่2มาก 

 "วันที่4" รอยบวมค่อยๆยุบลงจากเมื่อวาน รอยช้ำค่อยๆจางลงอย่างช้าๆ จะเห็นว่ายังมีช้ำใต้ตาอยู่

"วันที่5" เป็นวันที่ตื่นเต้นมากจ้าเเม่!!! เพราะว่าเป็นวันครบรอบที่ทางคลินิคให้ถอดตัวดามหรือถอดเฝือกจมูกออกได้ ซึ่งเราลุ้นมากว่าหลังจากเเกะตัวดามออกเเล้วทรงจะเป็นยังไง มารอชมพร้อมๆกันเลยจ้าาาาา  
"วันที่6" เป็นวันเเรกหลังจากเเกะตัวดามออก รู้สึกว่าจมูกโล่งขึ้นมากเลยจ้าาาาา55555 จะเห็นว่ารอยบวมเเละรอยช้ำที่ใบหน้าไม่ค่อยมีให้เห็นเเล้ว เเต่ตรงสันจมูกยังมีความบวมมากอยู่
"วันที่7" เรามีธุระต้องออกไปข้างนอก เราเลยลองเเต่งหน้าดู ซึ่งเป็นการเเต่งหน้าครั้งเเรกหลังจากเสริมจมูกมา (คำเตือน : ต้องเเต่งเเบบเบามือให้มากเท่าที่จะเบาได้เลยเด้อ ไม่งั้นจะอันตรายต่อจมูกเราน๊าาา เพราะมันยังอ่อนโยนอยู่) รอยช้ำรอยบวมที่ใบหน้าหายเกลี้ยงเเล้วจ้า เหลือเเต่ความบวมบนสันจมูกเเค่นั้นเอง 

"วันที่8" ทรงเริ่มเข้าที่ขึ้นเรื่อยๆ ความบวมบนสันยังคงมีอยู่ เเละค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ (ขออภัยในความเเสงจ้าของรูปด้วยจ้า)

"วันที่9" รอให้ทรงเข้าที่ ความบวมบนสันลดจ้าาา 

"วันที่10" รอให้ทรงเข้าที่ ความบวมบนสันลดจ้าาา

"วันที่11" รอให้ทรงเข้าที่ ความบวมบนสันลดจ้าาา

"วันที่12" รอให้ทรงเข้าที่ ความบวมบนสันลดจ้าาา

"วันที่13" รอให้ทรงเข้าที่ ความบวมบนสันลดจ้าาา

"วันที่14" เเละก็มาถึงวันครบรอบ 2 อาทิตย์นะคะ ซึ่งเป็นวันที่คุณหมอนัดตัดไหม ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาดีค่ะ ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน ไม่เบี้ยว ไม่เกิน ไม่ขาด เเต่ก็ยังคงหลงเหลือความบวมบนสันจมูกอยู่ ต้องใช้เวลาอยู่เด้อกว่าจะเข้าทรง ทรงจะเป็นยังไงไปดูกันเลยจ้าาาาาา

** เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคนนนนนน พอจะได้คำตอบหรือยังว่าศัลยกรรมครั้งเเรกของเราในครั้งนี้มันปังหรือมันพัง 555555555

ความรู้สึกหลังจากเสริมจมูกครั้งนี้มา ?
      บอกเลยว่าชอบมาก ปลื้มกับจมูกทรงนี้มาก คุณหมอทำออกมาได้เข้ากับหน้าเรามากอะ ชอบบบบบบบ ทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น ละมุนมากขึ้น เเต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่ต้องเฉดดิ้งงัดดั้งเหมือนเเต่ก่อนเเล้วจ้าเเม่!! โอ้ยยยเลิ้บ ตอนนี้จะถ่ายรูปมุมไหนก็ได้เเล้วนะ เราไม่เรื่องมากเเล้วนะเพื่อนนน55555 คุณหมอตอบโจทย์เราได้ตามที่เรารีเควสทุกอย่าง รักหมอทิพย์งื้อออออ 
      ก็ถ้าหากใครมองหาคลีนิคดีๆในการมาเนรมิตรจมูกสวยๆให้คุณ AP Clinic เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะเนรมิตรความสวยได้ตามเเบบที่คุณต้องการ เเละอยู่บนฐานความปลอดภัย เพราะคลินิคนี้คำนึงถึงความปลอดภัยของเราเป็นที่หนึ่ง เพื่อไม่ทำให้เราผิดหวังหรือรู้สึกผิดพลาดภายหลังจากที่เราเสริมมา 
    สุดท้ายนี้บอกเลยค่ะว่า AP Clinic ไม่ทำให้คุณผิดหวังเเน่นอนค่ะ 

******* ขอบคุณทุกคนนะคะที่เลื่อนมาถึงตรงนี้ ที่อยู่อ่านกันจนจบ ขอบคุณมากๆค่ะ *******
ชื่อสินค้า:   AP Clinic เอพี คลินิก ศัลยกรรมความงาม เสริมจมูก ปรับรูปหน้า ดูแลผิวพรรณ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่