หน้าเปิด
เปิดตอน วันที่ 31 ตุลาคม ในที่สุดนางิก็เขียนการ์ตูนส่งไปทางไปรษณีย์ เป็นการส่งแบบฉิวเฉียดจนทั้งนางิและจิฮารุเหงื่อตกเลย ส่วนผลนั้นก็ต้องรอสิ้นปีเลยถึงจะรู้ นางิบอกถึงยังไงก็ทำดีที่สุดแล้ว
แล้วจิฮารุก็ถามนางิเรื่องที่นางิไม่รั้งมาเรียเลยงั้นเหรอ นางิบอกตัวเธอเองก็เปลี่ยนใจมาเรียไม่ได้หากมาเรียตัดสินใจอะไรไปแล้ว แต่นางิไม่ได้กังวลอะไรเพราะคิดว่าเธอยังมีฮายาเตะอยู่ พอจิฮารุได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกยิ้มไปกับนางิด้วยไม่ได้เลย เริ่มคิดและคิดว่าจะบอกนางิถึงความจริง..
แต่ก่อนจะได้พูดนั้นเอง ทั้งสองคนที่เดินมาถึงอพาร์ทเมนต์ก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนใหญ่จนทั้งคู่หันมาดู นั้นคือชายคนหนึ่งที่จิฮารุได้เจอก่อนหน้านี้ที่อพาร์ทเมนต์ นางิเองก็ได้รู้เรื่องมาบ้างแล้ว และที่เขามาวันนี้เพราะเจอบอสของตัวเองจี้เลยมาคุยอีกรอบ ชายพนักงานพอเห็นจิฮารุก็ทักทายแต่พอเห็นนางิอยู่ด้วยเลยถามจิฮารุว่าเป็นใคร จิฮารุเลยแนะนำให้รู้จักจากที่เคยบอกไว้ก่อนแล้ว แนะนำนางิที่เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ พนักงานเลยถึงกับตกใจที่เด็กตัวแค่นี้คือเจ้าของอพาร์ทเมนต์นี้
ถึงจะน่าตกใจแต่พนักงานก็รีบเข้าเรื่องเลย ถามนางิว่าไม่คิดจะเปลี่ยนอพาร์ทเมนต์นี้ให้เป็นแบบตึกอพาร์ทเมนต์งั้นเหรอ แม้ตัวพนักงานเองก็เห็นว่าอพาร์ทเมนต์นี้ดูเป็นอพาร์ทเมนต์ที่ดี มีความเป็นเอกลักษณ์ พอเข้าใจอยู่ว่าคงไม่อยากทุบทิ้งเลยไม่ได้ตื้ออะไร แต่ผิดคาดที่นางิบอกอาจจะทุบก็ได้ ทำเอาทั้งจิฮารุกับพนักงานแปลกใจ นางิบอกอาคารนี้เต็มไปด้วยความทรงจำ และความทรงจำไม่มีทางหายไปด้วยเรื่องทุบทิ้งอยู่แล้ว วันคืนที่ได้อยู่กับทุกคนนั้นก็ยังคงอยู่ในหัวใจเธอ เพราะงั้นถึงตัววัตถุเองจะไม่อยู่แล้วก็ตาม
ทั้งๆที่เจ้าของอย่างนางิพูดเองแต่พนักงานกลับเป็นกังวลซะมากกว่าเจ้าของซะอีก บอกตัววัตถุเองก็สำคัญ แถมอพาร์ทเมนต์แบบตึกมันไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลย บอกให้นางิให้ความสำคัญกับวัตถุหน่อยเถอะเองซะงั้น จนนางิโวยซะเองเลยว่าบริษัทของคุณไม่ใช่ว่าต้องหาเงินเหรอไง พนักงานบอกก็จริงอยู่แต่บอกว่าตัวเขาคงไม่โดนไล่ออกเพียงเพราะทำสัญญาเล็กๆแบบนี้ไม่ได้สักหน่อย ทำเอาทั้งสองคนคิดเลยว่าช่างเป็นเซลล์ที่ไม่เดือดร้อนอะไรขนาดนั้น แต่พนักงานก็ได้ให้นามบัตรเอาไว้เพื่อต้องการติดต่อและก็ขอตัวไป นางิถึงกับพูดเลยว่าเซลล์แบบนี้จะไหวเหรอ จิฮารุก็คิดแบบนั้นแต่ดูจากเจ้าตัวชิวๆแบบนี้ก็คงไม่เป็นไรมั้ง แต่จิฮารุก็ถามนางิคิดจะทุบทิ้งจริงเหรอ นางิบอกยังไม่รู้ แต่เดิมแม่ของเธอเองก็เคยคิดจะทุบสร้างเป็นตึกอพาร์ทเมนต์อยู่แล้ว ถ้าคิดทำก็เหมือนทำตามความคิดของแม่ได้อยู่เหมือนกัน
อีกด้าน ฮิเมงามิที่อยู่ในคฤหาสน์ของฮิซุยกำลังดูรูปยูคาริโกะในวัยเด็กที่อยู่ในล็อกเก็ตโดยไม่อาจรู้ได้ว่าคิดอะไรอยู่ ฮิซุยเลยทักบอกน่าขยะแขยงที่มัวแต่ดูรูปของคนที่ตายไปแล้วตกอกตั้งใจขนาดนั้น ฮิเมงามิบอกฮิซุยไม่มีทางเข้าใจหรอกและถามฮิซุยมีความรักกับเขารึเปล่า ฮิซุยบอกเธอไม่จำเป็นต้องมี สิ่งที่จำเป็นสำหรับตัวเธอตอนนี้คือสิ่งที่จะสามารถเปิดเส้นทางได้ บอกเลยว่าอาจให้ฮิเมงามิช่วยเปิดได้ก็ได้ถ้าใช้เรื่องที่ยูคาริโกะพึ่งตายจนฮิเมงามิร้องไห้ยังกับเด็ก ดึงความทรงจำตอนนั้นมาใช้ แต่ฮิเมงามิบอกเขาทำไม่ได้.... เพราะเขาไม่อาจแตะมณีราชาได้
อีกด้าน อิสึมิกับซาคุยะที่กำลังพักอาบน้ำอยู่ อิสึมิบอกเมื่อนานมาแล้วเธอเคยเห็นเทพมาก่อน เป็นตอนที่เธอได้เจอกับยูคาริโกะเป็นครั้งแรกเมื่อยังเด็ก ตอนนั้นพออิสึมิถามแม่ว่ายูคาริโกะเป็นใคร แม่เธอบอกเป็นเพื่อนคนสำคัญ แต่ในสายตาของอิสึมิที่นอกจากยูคาริโกะแล้ว ข้างยูคาริโกะยังมีสิ่งที่เหมือนวิญญาณอยู่ข้างๆด้วย แต่อิสึมิรู้ได้ทันทีว่านั้นคือเทพ (เทพออร์มัซต์นาจา) ซาคุยะได้ฟังเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกว่ายูคาริโกะเป็นคนลึกลับ
นอกจากนั้นอิสึมิยังคิดอีกว่ายูคาริโกะปรารถนาบางอย่าง แม้จะครอบครองพลังแห่งราชวงศ์ได้แต่ก็ยังนำมันกลับคืนสู่ราชวัง เพราะดูจะปรารถนาอะไรบางอย่าง.. บางอย่างที่แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของยูคาริโกะเอง
ด้านนางิ นางิกำลังตะโกนบอกเลยว่าแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็จะเป็นนักเขียนการ์ตูนให้ได้ นักเขียนการ์ตูนที่ขายได้ถึงล้านล้านเล่ม(eng แปลผิดเปล่าว่าไหงมันเยอะขึ้น) จิฮารุก็ตกใจถามอะไรของนางิ นางิบอกตั้งเป้าหมายไง ในเมื่อจะเสียมาเรียไปแล้วก็ต้องแสดงให้เห็นหน่อยว่าเอาจริงแค่ไหน... เพื่อมาเรียจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเมื่อลาออกไปแล้ว จิฮารุถึงกับพูดไม่ออก แล้วนางิก็บอกงั้นเริ่มเขียนการ์ตูนเรื่องต่อไปเลยดีกว่า บอกการสิ้นสุดการต่อสู้ก็คือการเริ่มการต่อสู้ครั้งใหม่ ว่าแล้วก็ไปหาแนวทางของเรื่องเลย ฮินะเห็นแบบนี้ก็ยังบอกเลยว่าดูพลังใจเต็มเปี่ยมจริงๆ แต่คายุระไม่คิดแบบนั้น...บอกนางิดูเหมือนใช้พลังที่ดูว่างเปล่ามากกว่า
นางิที่วิ่งออกมาตามหาแนวเรื่องการ์ตูนใหม่ แต่จริงๆในใจของนางิกำลังคิดให้กำลังใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ถึงมาเรียจะไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ยังมีฮายาเตะอยู่ คิดว่าไม่เป็นไรซ้ำๆตลอด... จนสุดท้ายก็ไม่อาจอดกลั้นความรู้สึกไว้ได้ เพียงแค่คิดว่าว่ามาเรียจะไม่อยู่แล้วนางิก็เริ่มกลัวจนตัวสั่น กำมณีราชาแน่นที่อกคิดว่าจะต้องไม่เป็นไร คิดถึงประโยคๆนี้เหมือนกำลังถามแม่ของเธอเอง
ทันทีที่คิดถามแม่อยู่ในใจ ตรงหน้าของนางิก็ปรากฎคนๆหนึ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะอยู่ตรงหน้า.. ตรงหน้านางิจู่ๆยูคาริโกะก็ปรากฎตัวออกมา นางิถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง
จบตอน
[Spoil] Hayate no Gotoku! - 555
เปิดตอน วันที่ 31 ตุลาคม ในที่สุดนางิก็เขียนการ์ตูนส่งไปทางไปรษณีย์ เป็นการส่งแบบฉิวเฉียดจนทั้งนางิและจิฮารุเหงื่อตกเลย ส่วนผลนั้นก็ต้องรอสิ้นปีเลยถึงจะรู้ นางิบอกถึงยังไงก็ทำดีที่สุดแล้ว
แล้วจิฮารุก็ถามนางิเรื่องที่นางิไม่รั้งมาเรียเลยงั้นเหรอ นางิบอกตัวเธอเองก็เปลี่ยนใจมาเรียไม่ได้หากมาเรียตัดสินใจอะไรไปแล้ว แต่นางิไม่ได้กังวลอะไรเพราะคิดว่าเธอยังมีฮายาเตะอยู่ พอจิฮารุได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกยิ้มไปกับนางิด้วยไม่ได้เลย เริ่มคิดและคิดว่าจะบอกนางิถึงความจริง..
แต่ก่อนจะได้พูดนั้นเอง ทั้งสองคนที่เดินมาถึงอพาร์ทเมนต์ก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนใหญ่จนทั้งคู่หันมาดู นั้นคือชายคนหนึ่งที่จิฮารุได้เจอก่อนหน้านี้ที่อพาร์ทเมนต์ นางิเองก็ได้รู้เรื่องมาบ้างแล้ว และที่เขามาวันนี้เพราะเจอบอสของตัวเองจี้เลยมาคุยอีกรอบ ชายพนักงานพอเห็นจิฮารุก็ทักทายแต่พอเห็นนางิอยู่ด้วยเลยถามจิฮารุว่าเป็นใคร จิฮารุเลยแนะนำให้รู้จักจากที่เคยบอกไว้ก่อนแล้ว แนะนำนางิที่เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ พนักงานเลยถึงกับตกใจที่เด็กตัวแค่นี้คือเจ้าของอพาร์ทเมนต์นี้
ถึงจะน่าตกใจแต่พนักงานก็รีบเข้าเรื่องเลย ถามนางิว่าไม่คิดจะเปลี่ยนอพาร์ทเมนต์นี้ให้เป็นแบบตึกอพาร์ทเมนต์งั้นเหรอ แม้ตัวพนักงานเองก็เห็นว่าอพาร์ทเมนต์นี้ดูเป็นอพาร์ทเมนต์ที่ดี มีความเป็นเอกลักษณ์ พอเข้าใจอยู่ว่าคงไม่อยากทุบทิ้งเลยไม่ได้ตื้ออะไร แต่ผิดคาดที่นางิบอกอาจจะทุบก็ได้ ทำเอาทั้งจิฮารุกับพนักงานแปลกใจ นางิบอกอาคารนี้เต็มไปด้วยความทรงจำ และความทรงจำไม่มีทางหายไปด้วยเรื่องทุบทิ้งอยู่แล้ว วันคืนที่ได้อยู่กับทุกคนนั้นก็ยังคงอยู่ในหัวใจเธอ เพราะงั้นถึงตัววัตถุเองจะไม่อยู่แล้วก็ตาม
ทั้งๆที่เจ้าของอย่างนางิพูดเองแต่พนักงานกลับเป็นกังวลซะมากกว่าเจ้าของซะอีก บอกตัววัตถุเองก็สำคัญ แถมอพาร์ทเมนต์แบบตึกมันไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลย บอกให้นางิให้ความสำคัญกับวัตถุหน่อยเถอะเองซะงั้น จนนางิโวยซะเองเลยว่าบริษัทของคุณไม่ใช่ว่าต้องหาเงินเหรอไง พนักงานบอกก็จริงอยู่แต่บอกว่าตัวเขาคงไม่โดนไล่ออกเพียงเพราะทำสัญญาเล็กๆแบบนี้ไม่ได้สักหน่อย ทำเอาทั้งสองคนคิดเลยว่าช่างเป็นเซลล์ที่ไม่เดือดร้อนอะไรขนาดนั้น แต่พนักงานก็ได้ให้นามบัตรเอาไว้เพื่อต้องการติดต่อและก็ขอตัวไป นางิถึงกับพูดเลยว่าเซลล์แบบนี้จะไหวเหรอ จิฮารุก็คิดแบบนั้นแต่ดูจากเจ้าตัวชิวๆแบบนี้ก็คงไม่เป็นไรมั้ง แต่จิฮารุก็ถามนางิคิดจะทุบทิ้งจริงเหรอ นางิบอกยังไม่รู้ แต่เดิมแม่ของเธอเองก็เคยคิดจะทุบสร้างเป็นตึกอพาร์ทเมนต์อยู่แล้ว ถ้าคิดทำก็เหมือนทำตามความคิดของแม่ได้อยู่เหมือนกัน
อีกด้าน ฮิเมงามิที่อยู่ในคฤหาสน์ของฮิซุยกำลังดูรูปยูคาริโกะในวัยเด็กที่อยู่ในล็อกเก็ตโดยไม่อาจรู้ได้ว่าคิดอะไรอยู่ ฮิซุยเลยทักบอกน่าขยะแขยงที่มัวแต่ดูรูปของคนที่ตายไปแล้วตกอกตั้งใจขนาดนั้น ฮิเมงามิบอกฮิซุยไม่มีทางเข้าใจหรอกและถามฮิซุยมีความรักกับเขารึเปล่า ฮิซุยบอกเธอไม่จำเป็นต้องมี สิ่งที่จำเป็นสำหรับตัวเธอตอนนี้คือสิ่งที่จะสามารถเปิดเส้นทางได้ บอกเลยว่าอาจให้ฮิเมงามิช่วยเปิดได้ก็ได้ถ้าใช้เรื่องที่ยูคาริโกะพึ่งตายจนฮิเมงามิร้องไห้ยังกับเด็ก ดึงความทรงจำตอนนั้นมาใช้ แต่ฮิเมงามิบอกเขาทำไม่ได้.... เพราะเขาไม่อาจแตะมณีราชาได้
อีกด้าน อิสึมิกับซาคุยะที่กำลังพักอาบน้ำอยู่ อิสึมิบอกเมื่อนานมาแล้วเธอเคยเห็นเทพมาก่อน เป็นตอนที่เธอได้เจอกับยูคาริโกะเป็นครั้งแรกเมื่อยังเด็ก ตอนนั้นพออิสึมิถามแม่ว่ายูคาริโกะเป็นใคร แม่เธอบอกเป็นเพื่อนคนสำคัญ แต่ในสายตาของอิสึมิที่นอกจากยูคาริโกะแล้ว ข้างยูคาริโกะยังมีสิ่งที่เหมือนวิญญาณอยู่ข้างๆด้วย แต่อิสึมิรู้ได้ทันทีว่านั้นคือเทพ (เทพออร์มัซต์นาจา) ซาคุยะได้ฟังเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกว่ายูคาริโกะเป็นคนลึกลับ
นอกจากนั้นอิสึมิยังคิดอีกว่ายูคาริโกะปรารถนาบางอย่าง แม้จะครอบครองพลังแห่งราชวงศ์ได้แต่ก็ยังนำมันกลับคืนสู่ราชวัง เพราะดูจะปรารถนาอะไรบางอย่าง.. บางอย่างที่แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของยูคาริโกะเอง
ด้านนางิ นางิกำลังตะโกนบอกเลยว่าแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็จะเป็นนักเขียนการ์ตูนให้ได้ นักเขียนการ์ตูนที่ขายได้ถึงล้านล้านเล่ม(eng แปลผิดเปล่าว่าไหงมันเยอะขึ้น) จิฮารุก็ตกใจถามอะไรของนางิ นางิบอกตั้งเป้าหมายไง ในเมื่อจะเสียมาเรียไปแล้วก็ต้องแสดงให้เห็นหน่อยว่าเอาจริงแค่ไหน... เพื่อมาเรียจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเมื่อลาออกไปแล้ว จิฮารุถึงกับพูดไม่ออก แล้วนางิก็บอกงั้นเริ่มเขียนการ์ตูนเรื่องต่อไปเลยดีกว่า บอกการสิ้นสุดการต่อสู้ก็คือการเริ่มการต่อสู้ครั้งใหม่ ว่าแล้วก็ไปหาแนวทางของเรื่องเลย ฮินะเห็นแบบนี้ก็ยังบอกเลยว่าดูพลังใจเต็มเปี่ยมจริงๆ แต่คายุระไม่คิดแบบนั้น...บอกนางิดูเหมือนใช้พลังที่ดูว่างเปล่ามากกว่า
นางิที่วิ่งออกมาตามหาแนวเรื่องการ์ตูนใหม่ แต่จริงๆในใจของนางิกำลังคิดให้กำลังใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ถึงมาเรียจะไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ยังมีฮายาเตะอยู่ คิดว่าไม่เป็นไรซ้ำๆตลอด... จนสุดท้ายก็ไม่อาจอดกลั้นความรู้สึกไว้ได้ เพียงแค่คิดว่าว่ามาเรียจะไม่อยู่แล้วนางิก็เริ่มกลัวจนตัวสั่น กำมณีราชาแน่นที่อกคิดว่าจะต้องไม่เป็นไร คิดถึงประโยคๆนี้เหมือนกำลังถามแม่ของเธอเอง
ทันทีที่คิดถามแม่อยู่ในใจ ตรงหน้าของนางิก็ปรากฎคนๆหนึ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะอยู่ตรงหน้า.. ตรงหน้านางิจู่ๆยูคาริโกะก็ปรากฎตัวออกมา นางิถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง
จบตอน