[หนังโรงเรื่องที่ 172] Arrival - โดดเด่น มีสไตล์ น่าหลงไหล ; (Denis Villeneuve, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนนความชอบ : A+ (จากสเกล D-A)

**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ : เมื่อโลกต้องเผชิญกับยานอวกาศของ "ผู้มาเยือน" ทั้ง 12 ลำ ที่ร่อนลงจอดยังจุดต่างๆกระจายไปทั่วโลก ไม่มีใครรู้ว่า "พวกเขา" เป็นใคร? และมีจุดประสงค์อะไรในการมาเยือน? ... การพยายามจะสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวจึงเริ่มต้นขึ้นโดยในฟากฝั่งของอเมริกาก็ได้นักภาษาศาสตร์มือดีอย่าง "ด.ร.หลุยส์" (Amy Adams) เข้ามารับหน้าที่ไขปริศนาครั้งนี้ให้ได้

-เนื้อเรื้อง
ขอชื่นชมว่าหนังมีสไตล์ในการเล่าเรื่องที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ซึ่งหนังเอเลี่ยนที่ผ่านมาก็จะเน้นหนักไปทางการรบราห้ำหั่นกันด้วยกระสุนปืนและเทคโนโลยีที่ทันสมัยซะส่วนใหญ่ แต่สำหรับ "Arrival" นั้นกลับเลือกที่จะจับประเด็นการสื่อสารเข้ามาเล่นแทน ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักการแล้วก็ดูจะเป็น 'โปรโตคอล' ที่สมจริงที่สุดแล้ว (คือเราไม่รู้ความต่างชั้นของเทคโนโลยี-ไม่รู้จุดประสงค์ของการมาเยือน จู่ๆจะไปยิงมันเลยก็ดูพิลึก) ซึ่งแน่นอนความท้าทายของเรื่องมันก็อยู่ที่ว่าจะเอาความเป็น 'ภาษาศาสตร์' มาใช้ยังไม่ให้หนังน่าเบื่อ และก็โชคดีที่หนังสามารถถ่ายทอดประเด็นที่ซับซ้อนให้ออกมาน่าสนุก-น่าหลงไหลได้ โดยเทคนิคคลี่คลายปมทีละนิด แกะตัวหนังสือต่างดาวทีละหน่อย ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดกับหนังสไตล์นี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะงงหรือไม่เพราะตัวละครของเราก็จะพยายามขั้นตอนนั้นๆให้เราฟังอยู่เป็นระยะๆ

แต่เอาจริงๆแล้วไอ้ความเป็น "ภาษาศาสตร์" ในเรื่องมันก็ไม่ได้ลงลึกขนาดนั้นแบบที่หลายๆคนเขาอวยกัน เหมือนมันถูกหยิบมาใช้เป็น 'พร็อป' เพื่อทำให้หนังมันดู deep และน่าเชื่อถือขึ้น เพราะว่าในหลายๆครั้งการไขปริศนาของตัวเอกในเรื่องเองก็เป็นเพราะความบังเอิญที่บทส่งมากกว่า ... ถ้าพูดถึงแล้ว ส่วนที่น่าสนใจจริงๆก็คงเป็นพล็อตไคลแม็กซ์ของเรื่อง (เล่าไม่ได้) ที่หนังค่อยๆสอดแทรกกิมมิกเรื่องราวของตัวเองมาทีละนิดๆในเรื่อง จนมาพีคสุดในช่วงท้ายนี่เอง

-ตัวละคร
เอมี่ อดัมส์ตีบทกระจุยในฐานะหนอนหนังสือที่ต้องจับพลัดจับผลูโดนลากขึ้นยานอวกาศไปเป็นล่ามให้เอเลี่ยนปลาหมึกหยึกหยึย คือตัวละครของเธอเป็นองค์ประกอบครึ่งๆระหว่าง 'ความไคร่รู้' และ 'ความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้' ได้อย่างเหมาะเจาะเรียกได้ว่าเล่นใหญ่น่าดูเลยล่ะ

เจเรมี่ เรนเนอร์ทำหน้าที่เป็นแบ็กกราวน์ของเอมี่ได้สมบุกสมบันน่าชื่นชมมาก ถึงแม้ตัวบทจะไม่ส่งเท่าไหร่แต่นางก็ยังมีความพยายามสร้างซีนของตัวเองได้เป็นระยะๆ นี่สงสัยว่าชะตาของพ่อหนุ่มคนนี้จะรุ่งกับบทตัวละครสมทบจริงๆน่ะแหละ

-งานภาพ-ดนตรี
หนังไม่ได้ขายความเว่อวังอลังการของงานภาพเท่าไหร่ ดังนั้นเราจะไม่ได้มานั่งเสพสมกับยานอวกาศขนาดใหญ่ยักษ์คับจออะไรแบบที่หลายๆคนคาดไว้ (แถมส่วนมากจะเป็นซีจีชีปๆไปซะอีก) แต่ก็ต้องยอมรับว่าในส่วนของซีนอวดเอเลี่ยนนั้นก็ออกมาน่าเกรงขามพอสมควรชนิดแบบมีกลิ่นอายของความ 'น่าพิศวง' แฝงอยู่ในภาพ (แนะนำให้ผิวปาก X-File theme ประกอบ)

แต่ทีเด็ดจริงๆคืองานเสียงที่แน่นมาก แน่นประดุจเครื่องเสียงของรถกระบะงานวัด ไม่ว่าจะเป็นเสียงโซนิกบูมของเครื้องบินรบ/เฮลิคอปเตอร์ลงจอด หรือกระทั่งเสียงของ "ผู้มาเยือน" เองล้วนแต่มีความอลังการทั้งสิ้น นี่ยังไม่พูดถึงเพลงประกอบที่ช่วยคุมโทนหนังอีกนะ

สรุปแล้ว Arrival คือหนังเอเลี่ยนแนวใหม่กล้าคิดกล้าจับเอาวิธีเล่าเรื่องแบบ unorthodox เข้ามาประยุกต์ได้อย่างน่าสนใจ มันเป็นองค์ประกอบระหว่างหนังเนิร์ดและหนังแมสที่ลงตัวมากพอที่จะขายกับคนดูได้ทุกกลุ่ม โดยส่วนตัวแล้วขอชื่นชมให้แนวความคิดสร้างสรรค์ตรงนี้ และคาดหวังว่าจะเป็นทิศทางให้หนังเรื่องอื่นเอาไปใช้ได้อีกในอนาคต

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากชื่นชอบรีวิวรบกวนช่วยไลค์ช่วยแชร์เพื่อให้กำลังใจหรือติดตามผลงานได้ที่เพจ https://www.facebook.com/expensivemovie/ นะครับ!