บอกตามตรงเลยครับว่าตั้งแต่เป็นพ่อคน ผมแทบไม่ได้เข้าไปเหยียบโรงหนังเลย
ก่อนมีลูกต้องมีไปดูสัปดาห์ละ 1-2 เรื่อง
ยิ่งตอนนี้คุณลูกสาวอายุประมาณ 2 ขวบด้วย ยังไงก็เอาลูกเข้าไปดูในโรงไม่ได้
เดี๋ยวลูกร้องคนอื่นเค้าจะส่งสายตาอำมหิตเอา
ชวนแฟนฝากลูกไว้กับแม่ยาย แล้วหนีไปดูหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ
คุณภรรยาเค้าเป็นห่วงลูกมาก จะหนีไปดูคนเดียวก็รู้สึกว่ามันเหงาๆ เปลี่ยวๆ
.
.
.
แต่พอผมได้เห็นตัวอย่างหนังเรื่อง Arrival แล้ว ผมตัดสินใจเลยว่า
ครั้งนี้ยังไงก็จะหนีลูกไปดูให้ได้ ต่อให้ไปคนเดียวก็ยอม
เพราะผมเป็นคนชอบดูหนังเกี่ยวกับ UFO มาตั้งแต่เด็ก
แล้วคนกำกับคือ Denis Villeneuve ด้วย....โอ้โห!!! น่าดูสุดๆ
ยิ่งกว่านั้นผมพลาดไปอ่านบทความนี้เข้า บอกเลยครับว่าตกอยู่ในภวังค์...ยังไงก็พลาดไม่ได้
ลองอ่านดูด้านล่าง แล้วคุณจะอยากดูหนังเรื่อง Arrival เหมือนกับผม ^^
----------------------------------------------------------------
"Arrival": เอเลี่ยน/UFO พวกเขามาโลกทำไม !?
Director: Denis Villeneuve
Writers: Eric Heisserer (screenplay), Ted Chiang (based on the story "Story of Your Life" written by)
Stars: Amy Adams, Jeremy Renner, Forest Whitaker

*ภาพยนตร์ "Arrival(2017)": กำหนดฉายไทยเปิดฉายรอบพิเศษ 5 ม.ค. 2017 นี้ และฉายทางการเริ่ม 12 ม.ค. 2017 เป็นต้นไป

กับกรณี "เอเลี่ยน" (Alien) หรือ มนุษย์ต่างดาว/สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากดาวอื่นๆ อันเป็นปริศนาร่ำลือสงสัยกันมานมนานแล้ว และเป็นสิ่งที่เชื่อกันว่าน่าจะมีอยู่จริงๆ เหตุผลความน่าจะเป็นแง่หนึ่ง ก็ด้วยมีผู้อ้างยืนยันการพบเห็นมากมาย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นระยะๆ ... อีกแง่คือจักรวาลกว้างใหญ่แทบหาขอบเขตไม่พบนี้ นอกจากมนุษย์แล้ว ดาวอื่นอีกนับล้านๆก็จะน่าจะมีกำเนิดชีวิตระดับทรงภูมิปัญญาได้เช่นกัน แต่กระนั้นทุกวันนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์แบบให้ได้เห็นกันจะๆ ชัดๆ 100% แต่ประการใด ซึ่งในความคิดมโนภาพของคนส่วนใหญ่ เอเลี่ยน มักมีลักษณะคล้ายมนุษย์เรา แต่ตัวเล็กกว่า หัวโต ตาโต มาเยือนโลกอย่างลับๆด้วยพาหนะลึกลับลักษณะทำนอง จานบิน(UFO) ... ที่คุ้นเคยกันอย่างนั้นส่วนหนึ่งก็คงมาจากข่าวลือบอกเล่า อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการวาดมโนภาพคล้ายๆกัน จากจินตนาการในนิยาย/ภาพยนตร์ต่างๆนั้นเอง ... ในบทความ ณ ที่นี้ จะขอยกความเห็นและการค้นคว้าบางแง่มุมของนักวิทยาศาสตร์ ต่อกรณีเอเลี่ยน และสมทบด้วยเกร็ดข้อมูล/ข่าวลือต่างๆอันเกี่ยวข้องกับเอเลี่ยน/UFO ที่เคยมีมาโดยสังเขป พอได้เห็นภาพรวมกว้างๆ และที่ขาดไม่ได้คือมีผนวกเสริมด้วยบางแง่มุมจินตนาการจากภาพยนตร์เอเลี่ยนเยือนโลกต่างๆที่ผ่านมา(แนะนำหนังไซไฟแนวเอเลียนน่าดูไปในตัว) ... และหวังว่าข้อมูลในบทความนี้ นอกจากช่วยปลุกเร้ากระตุ้นจินตนาการแล้ว ยังน่าจะช่วยเสริมอรรถรสในการดูภาพยนตร์แนวๆเอเลี่ยนต่างๆในอนาคตไปด้วยในตัว ... รายละเอียดด้านล่างครับ

*ตัวอย่าง ฉากยานลึกลับ ขนาดมหึมา ในภาพยนตร์ "Arrival"
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Arrival ล่าสุด ที่กำลังจะฉายในไทยเราเร็วๆนี้นั้น ก็เป็นอีกภาพยนตร์ทริลเลอร์ไซไฟสุดระทึกจากผู้กำกับชื่อดัง "เดนิส วิลเลเนิฟ" (ผลงาน Sicario,Pirsoners) เผยที่มาว่า หนังสร้างจากเรื่องสั้นไซไฟเดิม ที่ชื่อ "Story of Your Life" แต่งโดย Ted Chiang ซึ่งได้รับรางวัล Sturgeon Award ปี 1999, และ Nebula Award ปี2000 โดยพล็อตหลักจะเน้นให้แง่มุมของการสื่อสาร ที่เชื่อมโยงไปถึงฟิสิกส์และเวลา ด้วยภาษาเขียนของเอเลี่ยน ... ส่วนเรื่องย่อๆของฉบับภาพยนตร์เบื้องต้นจะว่าด้วย ยานอวกาศลึกลับมาสู่โลก แต่กลับลอยเคว้งนิ่ง (ดังตัวอย่างภาพยนตร์ ในคลิปด้านบน) ... ทีมปฏิบัติการอันประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกระทิสาขาต่างๆ นำทีมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอย่าง "หลุยส์ แบงค์ส" (เอมี อดัมส์) อันเป็นตัวละครหลักของเรื่อง จึงถูกส่งตัวเพื่อสืบค้นเบาะแสเคสนี้เป็นการพิเศษว่า พวกเขากำลังสื่อสารอะไรแน่ !? ... แบงค์สและทีมงานต้องรีบเร่งแข่งกับเวลาเพื่อหาคำตอบ และในการหาคำตอบนั้น เธออาจจะต้องเสี่ยงทำอะไรบางอย่างที่อาจจะคุกคามชีวิตของเธอเอง และกระทั้งอาจจะคุกคามมนุษยชาติด้วยก็เป็นได้ ... ปริศนามากมายที่ชาวโลกรอคำตอบ อาทิ ... แล้วยานมาจากไหน ? พวกเขามาทำไม? ต้องการอะไร? ฯลฯ ... สำหรับผู้ชมคอหนัง ก็ต้องติดตามเรื่องราวในภาพยนตร์เต็มๆกันต่อไป ... ซึ่งถ้าดูจากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าเป็นที่น่าค้นหาอย่างยิ่งว่าภาพยนตร์ Arrival นี้ จะเล่นพล็อตมุมใด ? สื่อนัยกระตุ้นต่อมจินตนาการอะไรบ้าง ? แล้วจะมีความแตกต่างจากภาพยนตร์แนวเอเลี่ยน/UFO อื่นๆที่เคยมีมาอย่างไร ?... กำหนดฉายไทย เปิดฉายรอบพิเศษ 5 มกราคม 2017 นี้ และฉายทางการเริ่ม 12 มกราคม 2017 เป็นต้นไป

★ บางมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ ต่อ เอเลี่ยนทรงภูมิปัญญา

หากสังเกตจินตนาการในนิยาย หรือภาพยนตร์ไซไฟต่างๆที่เคยมีมาอันเกี่ยวกับเอเลี่ยนมาเยือนโลกนั้น วัตถุประสงค์กระแสหลักๆที่พวกเขามาๆกันก็มักเป็นไปในแง่ร้าย เพื่อจะยึดครองโลก! อาทิภาพยนตร์เรื่อง ID4(ทั้งสองภาค 1996-2016), Skyline(2010), Battle Los Angeles(2011) เป็นต้น หรืออีกด้าน ที่เป็นที่นิยมเล่นเป็นพล็อต ก็คือ มาเพื่อลักพาตัวมนุษย์ไปทดลองศึกษา! อย่างเรื่อง Close Encounters Of The Third Kind (1977), Fire in the sky (1993), The Signal (2014), Extraterrestrial(2014) เป็นต้น

"สตีเฟน ฮอว์คิง" (Stephen Hawking) นักวิทยาศาสตร์/จักรวาลวิทยาชื่อดัง เชื่อว่าเอเลี่ยนทรงภูมิปัญญา น่าจะมีอยู่จริงที่ไหนสักแห่งสักดาวในจักรวาลกว้างใหญ่นี้ ทั้งมักเตือนมนุษย์โลกให้ระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่เสมอๆ เพราะการมาเยือนของพวกเขา อาจส่งผลในแง่ลบ-จบไม่สวย! อย่างใน สารคดี "ท่องจักรวาล กับ สตีเฟน ฮอว์คิง" (Into the Universe with Stephen Hawking) ที่ออกอากาศตอนแรกสุดในอังกฤษ(เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2553) ทางช่องดิสคัฟเวอรีชาแนล นั้น ฮอว์คิง ได้แสดงทัศนะเชิงเตือนให้ตระหนักว่า ...

"หากเอเลี่ยนมาหาเรา ผลที่เกิดขึ้นอาจจะเหมือนกับเมื่อครั้งโคลัมบัส(Christopher Columbus) ขึ้นฝั่งที่อเมริกา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชาวอเมริกันพื้นเมืองเลย(อินเดียแดง)"..."สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีวิวัฒนาการก้าวล้ำ บางทีอาจเป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่กำลังแสวงหาอาณานิคมบนดาวดวงใหม่ และพร้อมที่จะทำสงครามเพื่อแย่งชิงให้ได้มา!"

*สารคดี "Into the Universe with Stephen Hawking": ในคลิปคือฉากตอนหนึ่งในสารคดี จินตนาการถึงกองยานของเอเลี่ยนทรงภูมิปัญญา สูบพลังงานดวงอาทิตย์ สร้างรูหนอน ทางลัดอวกาศ เพื่อมายึดโลก!

(* สารคดีเกี่ยวกับอวกาศ/ดาราศาสตร์อื่นๆของ ฮอว์คิง ก็มักเน้นย้ำ เตือนการมาของพวกเอเลี่ยน เช่นกัน อาทิ สารคดีล่าสุดของเขาอย่าง "Stephen Hawking's Favorite Places(2016)" เป็นต้น ... *รายละเอียดเพิ่มเติม สารคดี..Favorite Places(2016) คลิกตามไปต่ออีกบทความได้)

ฮอว์คิงได้เคยกล่าวเตือนอีกทำนองว่า แทนที่มนุษย์จะพยายามค้นหา/ติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก มนุษย์เราควรหันมาทำอะไรก็ได้ เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงต่อการส่งสัญญาณไปหาพวกเอเลี่ยน อันอาจจะเสี่ยงส่งผล(ทั้งตรงหรืออ้อม) ให้เอเลี่ยนเหล่านั้นตรวจจับได้ จนรู้ว่ามีโลกเรา และมาหาเรา ... แต่ ฮอว์คิง ก็ให้แง่มุมอีกว่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่ที่ใดก็ตามนอกโลก/ดาวอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วน่าจะมีลักษณะคล้ายกับจุลชีพ หรือสัตว์ขนาดเล็กๆมากกว่า คงเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ที่เป็นสิ่งมีชีวิตระดับทรงภูมิปัญญาระดับมนุษย์เรา

*ตัวอย่าง ภาพยนตร์แนว ยานอวกาศ/เอเลี่ยนบุกยึดโลก ... "ID4", "Skyline", และ "Battle Los Angeles" ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ มนุษยชาติในโลกแห่งความเป็นจริง(ไม่อิงนิยาย) ได้มีความพยายามที่จะติดต่อสื่อสารกับอารยธรรมนอกโลกมาแล้วหลายครั้ง อาทิ...

- เมื่อปี 2008 องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐฯ (NASA) ได้ส่งสัญญาคลื่นวิทยุ เป็นบทเพลง "อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส" (Across the Universe) ของวง เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) ออกไปนอกอวกาศ เพื่อเป็นการส่งข้อความที่สื่อถึงสันติภาพให้กับสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาใดๆก็ตาม ที่อาจอาศัยอยู่บนดาวใดๆในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ได้พบเจอ และได้รู้ว่ามีเรา

- ปี 1972 และ 1973 สหรัฐฯ ได้ส่งยานไพโอเนีย 10 และ 11 (Pioneer 10 and 11) ซึ่งมีแผ่นโลหะภาพชายและหญิงเปลือยกาย และสัญลักษณ์ที่แสดงตำแหน่งของโลกและดวงอาทิตย์ ด้วยความหวังเผื่อว่าอาจมีสิ่งทรงภูมิปัญญาต่างดาวมาพบเช่นกัน

- ต่อมาในปี 1977 สหรัฐฯ ได้ส่งยานวอยเอเจอร์ 1 และ 2 (Voyager 1 and 2) ออกไปสู่จักรวาลพร้อมแผ่นซีดีที่บันทึกเสียงต่างๆ และภาพภูมิทัศน์บนโลก ไปอีกคำรบ

*ยานอวกาศ "Pioneer" ที่ไปพร้อมกับรูปสัญลักษณ์ต่างๆบนแผ่นโลหะ โดยเฉพาะภาพมนุษย์ชาย-หญิง
"Wow" คือ หลักฐานสัญญาณแรก ที่เอเลี่ยนทักทายโลก จริงหรือ?

นอกจากนี้ ที่ผ่านมานักฟิสิกส์/นักดาราศสาตร์ (โดยเฉพาะ USA) มีความพยายามจับสัญญาณวิทยุ-ทั้งคลื่นแสง-เสียงจากท้องฟ้าและห้วงอวกาศมาช้านานหลายทศวรรษปีแล้ว ด้วยเทคโนโลยีกล้องโทรทรรศน์/วิทยุ, ดาวเทียม ฯลฯ ที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่มี ทำการสแกนทั่วท้องฟ้าและอวกาศทั้งในระยะใกล้และไกลสุดเท่าที่จะจับสัญญาณได้ โดยเฉพาะการสแกนหมุนตามการหมุนของโลก แต่ผลคือ ไร้วี่แววสัญญาณใดๆ ถึงจะมีพบสัญญาณวิทยุปริศนาบ้างแต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าคืออะไรกันแน่ ทำได้เพียงการสันนิษฐานกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่า สัญญาณวิทยุปริศนาอาจส่งมาจากหลุมดำ หรือแม้กระทั่งคิดเชิงไซไฟกันไปว่าอาจมาจากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานอกโลกที่ต้องการติดต่อกับเรา

*กรณี "Wow Signal" จากสารคดี "ท่องจักรวาล กับ สตีเฟน ฮอว์คิง" (Into the Universe with Stephen Hawking)
สารคดี In the Universe with Stephen Hawking ยังเผยข้อมูลอีกแง่มุมว่า จากการพยายามสแกนท้องฟ้าและอวกาศข้างต้น ... ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งในอดีตที่น่าสนใจ สร้างความตะลึงตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ และกลายเป็นจารึกประวัติศาสตร์สำคัญของวงการดาราศาสตร์ ... คือเมื่อ 16 สิงหา 1977 ณ รัฐโอไฮโอ ได้จับสัญญาณคลื่นเสียงหนึ่งได้ เป็นคลื่นสัญญาณวิทยุที่ต่างจากสัญญาณภาวะปกติอย่างสิ้นเชิง --- นักดาราศาสตร์ "Jerry Ehman" และทีมงานนำบันทึกสัญญาณนั้นมาทำการถอดรหัสด้วยคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดที่สุด(ผลออกมาเป็นข้อมูลยาวหลายหน้ากระดาษ) แต่กลับสรุปออกมาได้เป็นคำเด่นชัด แค่เดียวคือคำ "Wow" ... จึงเรียกกันว่า "Wow Signal" ทั้งได้ผลสรุปอีกว่า สัญญาณนี้(จากต้นแหล่งกำเนิดใดก็มิอาจทราบแน่ชัด) กว่าจะมาถึงโลก น่าจะใช้เวลาอย่างต่ำๆก็ประมาณ 200 ปี! ที่แล้ว และแต่นั้นมาจวบจนปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณอื่นใดที่โดดเด่นพิเศษแบบ Wow Signal นี้อีกเลย

จากกรณีดังกล่าวทำให้ คอภาพยนตร์ไซไฟหลายๆท่าน คงนึกถึงภาพยนตร์คลาสสิกอย่าง Contact(1997) อันเกี่ยวกับการค้นหาตรวจจับสัญญาณต่างดาวเช่นกัน แต่ในภาพยนตร์ให้ฉากที่น่าตะลึงกว่าตรงที่ เมื่อถอดรหัสแปลงสัญญาณเป็นโค้ดออกมาแล้ว ไปทำการแปลงสัญญาณต่อ ผลสุดท้ายออกมาไม่ใช่แค่คำทักทาย แต่มันกลายเป็นคลิปวีดิโอฉากประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงๆจากโลกเราเอง นั่นคือ คลิปท่านผู้นำ ฮิตเลอร์! ในพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 11 ประจำปี ค.ศ. 1936 (ชมคลิปตอนนี้ในหนัง ด้านล่าง)

ต่อด้านล่าง