เนื้อหาค่อนข้างยาวนะคะ เริ่มจาก จขกท.จบด้านวิทยาศาสตร์มาได้ทำงานกับห้องแล็ปเอกชนที่หนึงได้ 2 ปีกว่า คือก้าวหน้าในที่ทำงานไวมากและเจ้านายดีมากๆ แต่เราออกมาเพราะด้วยความที่ไม่ได้ชอบงานด้านนี้เป็นทุนเดิม แต่ที่เรียนมาทำงานมาคือเราทำได้ และที่ทำได้ดีเพราะเรารับผิดชอบ เราหาความรู้ใหม่ๆอยู่ตลอดเพื่อมาซัพพอร์ตงาน เราอยากรู้สึกสนุกกับการทำงานและค้นหาสิ่งที่ชอบจริงๆ เราพักงานอยู่ 3-4 เดือนลองสมัครงานใหม่เป็นด้านที่ไม่ตรงสายเลย ไปทำบัญชีธุระการให้บริษัทหนึ่ง เราอยู่ในส่วนบัญชีของฝ่ายช่าง(ซ่อมบำรุงเครื่องจักร) ตอนแรกก็กังวลว่างานไม่ตรงสายแต่เจ้านายบอกว่าฝึกได้มันไม่ยาก เราเองก็พร้อมที่จะเรียนรู้ พอเริ่มทำงานวันแรกก็เจอเพื่อนร่วมงานที่ทำมาก่อนเป็นผู้ชายอายุเท่าเราคนนึง อีกคนอายุน้อยกว่าเป็นผู้หญิงซึ่งทั้งคู่จบวุฒิ ม.3 มาและที่มาทำตรงนี้เพราะบัญชีเก่าลาออกกระทันหันแล้วยังหาคนแทนไม่ได้ (***ขอบอกก่อนนะคะเราไม่ได้มีความคิดดูถูกคนที่การศึกษาเลยแม้แต่น้อย เรามีผู้มีพระคุณหลายท่านที่วุฒิจบไม่สูงแต่เก่งและมีความสามารถมาก แถมยังสอนงานและให้ความรู้เราจนเรามีวันนี้ด้วย ดังนั้นเราจึงคิดว่าการศึกษามันสำคัญมากก็จริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ) เจ้านายเราบอกว่าด้วยความที่คนที่ทำงานมาก่อนเค้าจบมาด้วยวุฒินี้ จึงมีข้อจำกัดในการทำงาน เค้าจะมีขีดจำกัดซึ่งหลายๆอย่างเค้าทำไม่ได้ เจ้านายอยากให้เราช่วยในจุดนี้ ซึ่งเราก็ยินดีทำ เป็นอันว่าตกลงเงินเดือนทำงานปกติ
วันสองวันแรกที่ได้เริ่มงาน เราจะฝึกงานจากผู้ชายเพราะเหมือนเค้าเป็นหัวหน้าก่อนเราเข้ามาขอเรียกว่า"กาย" ด้วยความที่เราเรียนและชินกับการอยากรู้จึงถาม ถามแล้วจด จดแล้วทำความเข้าใจ เราก็ถามๆๆๆ เพื่อให้เราเข้าใจและเป็นงานไวที่สุด ซึ่งกายไม่บ่นเลย แต่น้องผู้หญิงขอเรียกว่าบิว น้องบิวเด็กกว่าเรา 3-4 ปี น้องเพิ่งอายุ 21 จะมีสีหน้าไม่พอใจและเสียงแหลมตลอดเวลา เวลาเราถามกายน้องจะชอบบอกเราว่า "ทำไมพี่ชอบถามจัง" เราก็อธิบายไปว่าก็พี่ไม่ได้จบด้านนี้มาเลยต้องทำความเข้าใจ น้องก็จะอืมๆ สักพักจะพูดใหม่ "พี่ถามทำไม ทำไมพี่ต้องอยากรู้เยอะแยะเค้ามีอะไรให้ทำพี่ก็ทำๆไปสิ" เราก็ไม่พูดอะไรก็ยังศึกษางานเช่นเดิม แต่ความประทับใจแรกพบคือติดลบมาก จนตอนนี้เราทำงานมาร่วม 3 เดือนเราบอกเลยจากเราเป็นคนง่ายๆ เราไม่ชอบเด็กคนนี้ไปเลย เด็กคนนี้นิสัยแย่มาก วีรกรรมเด่นๆคือ
1. ตอนเราถามงานแรกๆก็บ่นเรา พอเราทำงานเป็นและเรียนรู้ได้ไวมาก อาทิตย์เดียวเราทำงานแทนผู้ชายที่ชื่อกายได้แล้ว จนเจ้านายชม เราก็ไปเรียนรู้งานน้องบิวต่อ แต่เค้าไม่สอนเรา เค้าบอกงานหนูพี่ทำงานพี่ไปอันนี้มันงานหนู จนเจ้านายต้องมาพูดว่าสอนงานพี่เค้าด้วยเวลาหยุดจะได้มีคนแทน งานทำไม่ทันจะได้ช่วยๆกัน ซึ่งงานง่ายมากเราเรียนรู้วันเดียวจบ ไม่อยากเสียเวลาด้วย
2.ไม่มีมารยาท เราก็ผูกมิตรคุยเฮฮาปกติ น้องเป็นคนปากไม่ดีมากๆ แล้วอ้างว่าหนูเป็นคนพูดตรงๆ ซึ่งบางทีมันไม่ใช่การพูดตรงๆแล้ว เราทำงานมาสามวันถามเราว่าพี่มีแฟนรึยัง พอบอกมีแล้ว ถามต่อว่าพี่เอากับแฟนบ่อยมั๊ย? (ถามแบบนี้จริงๆนะคะ) เราก็ไม่ตอบ น้องเลยเราเรื่องที่น้องนอนกับแฟนซึ่งเราไม่อยากฟังเลยเบรคด้วยการลุกไปกินน้ำมั่งอะไรมั่ง จนหลังๆบอกไปตามตรงว่ามันส่วนตัวไปไม่ต้องเล่าให้ฟังก็ได้จ้า
3.ไม่มีความเคารพ เราเข้างานมาทีหลังก็จริง เวลาเราจะให้เค้าทำอะไรเราจะพูดดีมาก น้องบิวคะเอาอันนี้ให้พี่หน่อย แต่เวลาเค้าพูดกับเราคือ พี่ออกบิล พี่หนูบอกให้ทำอันนี้ไม่ได้ยินรึไง! มีวันนึงเราคุยสายกับลูกค้าใช้โทรศัพท์ออฟฟิต (มันพ่วงสายกัน) บิวก็มาเร่งๆบอกจะใช้ เราบอกรอแปปนะคะคุยกับลูกค้า น้องคงไม่พอใจเดินมาหวี๊ดๆข้างๆเรา "บอกจะใช้ๆไม่ได้ยินรึไง" คือเราว่าเค้าเสียสติมาก
4.ขี้อิจฉามากกกกกกกกก อย่างที่บอกว่างานมันไม่ยาก เราเป็นงานไวมาก อาทิตย์เดียวเราทำเป็นหมดแล้วทั้งแผนกคือมันไม่อยากจริงๆ พอเรามาทำเราค้นพบว่าระบบงานมั่วมาก เรามานั่งแก้การออกบิลและตามเงินจากคู่ค้า ที่ตอนบัญชีเก่าออกไปแล้วไม่ได้รับเงินหลายแสนคืนมา (2 คนที่ทำงานก่อนเราไม่ได้ตามไม่รู้ทำไม) ด้วยความที่เราเคยผ่านการทำ ISO เจ้านายเลยบอกให้เราช่วยวางระบบใหม่ให้หน่อย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากน้องบิวเลย น้องบิวพูดต่อหน้าเจ้านายว่า "งั้นต่อไปก็ให้พี่เค้าทำแทนหนูกับกายไปเลย พวกหนูจะออก แต่หนูออกหนูแฟนหนูก็จะออก(หัวหน้าฝ่ายช่าง) ถ้าหนูออกบริษัทนี้ก็ไปต่อไม่ได้เพราะฝั่งช่างต้องพึ่งแฟนหนู" เราถึงกับตกใจในความกล้า และอึ้งในความใจดีของเจ้านายที่ยังปล่อยให้พูดนะ วันนั้นก็มีการแบ่งงานแบ่งหน้าที่กัน จริงๆเราไม่พอใจนะแต่ไม่ได้พูดอะไรไป ทุกวันนี้คือเราคิดว่าเราทำให้ระบบงานมันเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นและน้องบิวนี่คือยึดมั่นในหน้าที่มาก ถ้าไม่ใช่งานตัวเองไม่ทำ ไม่ถาม ไม่สนใจ ต้องถึงที่สุดจริงๆหรือเจ้านายใช้ถึงมาทำงานส่วนอื่น เราเคยลองให้มาทำงานในส่วนของเราเช่นตามเงินลูกค้าจากบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งต้องผ่านหลายขั้นตอนหลายแผนก น้องก็ทำไม่ได้มาบอกเราว่าเดี๋ยวเค้านึกออกเค้าก็โอนเงินมาเอง โอนบ้าไรน้องยอดค้างเป็นปีแล้วน้องไม่เอะใจกันบ้างหลอ สุดท้ายเราก็เอามาทำเอง
5.นับวันๆน้องบิวหนักข้อขึ้นมา เรื่องไร้มารยาทและคุ้มดีคุ้มร้าย อารมณ์ดีมาพูดดีซื้อขนมมาฝาก อารมณ์ร้ายมาวี๊ดๆๆใส่ซึ่งเราไม่โอเค ก็ปรึกษาเจ้านายอย่างลับๆ แต่เหตุการณ์ล่าสุดคือ มีลูกค้ารองานอยู่ 3 วันเป็นแค่ใบเสนอราคา ซึ่งกายเป็นคนรับงานแต่ไม่ถ่ายทอดให้ใคร (กายจะมีปัญหาเรื่องการเรียงลำดับความสำคัญและถ่ายทอดงาน) พอเรารู้เราเลยถาม กายบอกไม่มีเวลาทำเราก็อาสาช่วยทำ น้องบิวได้ยินก็พูดกับเราว่า
บิว "พี่นี่เป็นคนรีบๆเน้อะ"
เรา "รีบอะไรอะ ก็ลูกค้ารองานอยู่เค้ารอนานแล้ว"
บิว "ก็กายยุ่งๆไม่เห็นหรอ"
เรา "ก็เห็นไงเลยช่วย ทำไมเราต้องกองงานไว้ที่คนๆเดียวล่ะ"
บิว "แล้วจะรีบทำไม เห็นแล้วรำคาญ!!!" กระแทกเสียงพร้อมหน้าจิกมาก
เรา "น้องพี่ว่าน้องไม่ใช่คนพูดตรงนะ น้องเป็นเด็กไม่มีกาลเทศะ"
บิว "ก็เรื่องของพี่ดิ"
เรายอมรับว่าโมโหมากอะ มือสั่นๆๆ เราคุยกับเจ้านายบอกไม่ไหวนะทำงานกับคนแบบนี้ ให้เจ้านายช่วยปรามหน่อยคือทำงานด้วยยากมากคุ้มดีคุ้มร้ายแบบไม่มีสาเหตุ ขี้อิจฉาไม่มีเหตุผล เจ้านายเลยให้ย้ายทีให้ห่างๆกัน ตอนเราย้ายมีพูด "เออ ย้ายไปได้ก็ดี" และคำประชดต่างๆนาๆ เวลามีโทรศัพถึงเราเค้าจะพูด กายไปบอกเค้าดิรับโทรศัพท์ ซึ่งเรานั่งอยู่ตรงนั้น หรือถ้ากายไม่อยู่จะพูด รับโทรศัพท์สิ พอเรารับจะกระแทกหูแรงๆ พักเที่ยงจะไปกินข้าว เรายังนั่งทำงานอยู่ก็เดินไปปิดไฟปิดประตูปิดแอร์ เราก็บอกน้องปิดไฟทำไมคะ พี่ยังเคลีย์งานอยู่ ก็ไม่สนกระแทกประตูสำนักงานดังปัง หลังๆไม่เรียกพี่แล้วเรียกชื่อเราเลย ....ไปออกบิลดิ๊ ...ไปทำนู้นนี่ดิ๊ ขอยอมรับว่าอยากต่อยหน้าหงายมากกกก จากไม่ชอบกลายเป็นเกลียด ตอนนี้ปรึกษาเจ้านายแล้วค่ะเห็นว่าพรุ่งนี้จะเรียกไปคุย เรารู้สึกว่าทำงานแบบนี้เสียสุขภาพจิตมาก ถ้าจัดการไม่ได้เราคงหาที่ไปใหม่แล้วอะ
เราควรรับมือกับคนแบบนี้ยังไงคะ คำพูดคำจาแย่มาก เราก็ไม่คนยอมคนหรือหงอๆนะ แต่เคสนี้คือไม่ค่อยตอบโต้เพราะรู้สึกว่าการวางตัวมันต่างกันมากแต่ถ้าต้องทำงานด้วยนี่ลำบากใจจริงๆ เห็นผู้ใหญ่หลายคนบอกเด็กสมัยนี้ทำงานไม่มีความอดทน แต่เรารู้สึกว่าบางทีเราก็ไม่อยากเอาสุขภาพจิตไปทนกับปัญหาแบบนี้ ถ้าเจ้านายพูดแล้วเค้ายังไม่ปรับตัวคงต้องหาที่ใหม่จริงๆค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเจ้านายก็ค่อนข้างแคร์เด็กคนนี้กลัวเค้าน้อยใจ รู้สึกท้อใจมากๆเลย
ปล.กับคนอื่นๆไม่มีปัญหาเลยนะคะ เราไหว้พี่ๆช่างหรือพ่อบ้านแม่บ้านตลอด เวลาพูดมีคะ/ค่ะ ลงท้ายทุกคำ คุยเล่นกันเฮฮาปกติมากๆ จะมีปัญหาก็คนนี้คนเดียว แต่ทำงานด้วยกันมากกว่าคนอื่นๆ
ขอระบาย+คำแนะนำเกี่ยวกับสังคมการทำงาน เพื่อนร่วมงานที่ไร้มารยาทค่ะ เราจะแก้ปัญหาอย่างไรดีคะ
วันสองวันแรกที่ได้เริ่มงาน เราจะฝึกงานจากผู้ชายเพราะเหมือนเค้าเป็นหัวหน้าก่อนเราเข้ามาขอเรียกว่า"กาย" ด้วยความที่เราเรียนและชินกับการอยากรู้จึงถาม ถามแล้วจด จดแล้วทำความเข้าใจ เราก็ถามๆๆๆ เพื่อให้เราเข้าใจและเป็นงานไวที่สุด ซึ่งกายไม่บ่นเลย แต่น้องผู้หญิงขอเรียกว่าบิว น้องบิวเด็กกว่าเรา 3-4 ปี น้องเพิ่งอายุ 21 จะมีสีหน้าไม่พอใจและเสียงแหลมตลอดเวลา เวลาเราถามกายน้องจะชอบบอกเราว่า "ทำไมพี่ชอบถามจัง" เราก็อธิบายไปว่าก็พี่ไม่ได้จบด้านนี้มาเลยต้องทำความเข้าใจ น้องก็จะอืมๆ สักพักจะพูดใหม่ "พี่ถามทำไม ทำไมพี่ต้องอยากรู้เยอะแยะเค้ามีอะไรให้ทำพี่ก็ทำๆไปสิ" เราก็ไม่พูดอะไรก็ยังศึกษางานเช่นเดิม แต่ความประทับใจแรกพบคือติดลบมาก จนตอนนี้เราทำงานมาร่วม 3 เดือนเราบอกเลยจากเราเป็นคนง่ายๆ เราไม่ชอบเด็กคนนี้ไปเลย เด็กคนนี้นิสัยแย่มาก วีรกรรมเด่นๆคือ
1. ตอนเราถามงานแรกๆก็บ่นเรา พอเราทำงานเป็นและเรียนรู้ได้ไวมาก อาทิตย์เดียวเราทำงานแทนผู้ชายที่ชื่อกายได้แล้ว จนเจ้านายชม เราก็ไปเรียนรู้งานน้องบิวต่อ แต่เค้าไม่สอนเรา เค้าบอกงานหนูพี่ทำงานพี่ไปอันนี้มันงานหนู จนเจ้านายต้องมาพูดว่าสอนงานพี่เค้าด้วยเวลาหยุดจะได้มีคนแทน งานทำไม่ทันจะได้ช่วยๆกัน ซึ่งงานง่ายมากเราเรียนรู้วันเดียวจบ ไม่อยากเสียเวลาด้วย
2.ไม่มีมารยาท เราก็ผูกมิตรคุยเฮฮาปกติ น้องเป็นคนปากไม่ดีมากๆ แล้วอ้างว่าหนูเป็นคนพูดตรงๆ ซึ่งบางทีมันไม่ใช่การพูดตรงๆแล้ว เราทำงานมาสามวันถามเราว่าพี่มีแฟนรึยัง พอบอกมีแล้ว ถามต่อว่าพี่เอากับแฟนบ่อยมั๊ย? (ถามแบบนี้จริงๆนะคะ) เราก็ไม่ตอบ น้องเลยเราเรื่องที่น้องนอนกับแฟนซึ่งเราไม่อยากฟังเลยเบรคด้วยการลุกไปกินน้ำมั่งอะไรมั่ง จนหลังๆบอกไปตามตรงว่ามันส่วนตัวไปไม่ต้องเล่าให้ฟังก็ได้จ้า
3.ไม่มีความเคารพ เราเข้างานมาทีหลังก็จริง เวลาเราจะให้เค้าทำอะไรเราจะพูดดีมาก น้องบิวคะเอาอันนี้ให้พี่หน่อย แต่เวลาเค้าพูดกับเราคือ พี่ออกบิล พี่หนูบอกให้ทำอันนี้ไม่ได้ยินรึไง! มีวันนึงเราคุยสายกับลูกค้าใช้โทรศัพท์ออฟฟิต (มันพ่วงสายกัน) บิวก็มาเร่งๆบอกจะใช้ เราบอกรอแปปนะคะคุยกับลูกค้า น้องคงไม่พอใจเดินมาหวี๊ดๆข้างๆเรา "บอกจะใช้ๆไม่ได้ยินรึไง" คือเราว่าเค้าเสียสติมาก
4.ขี้อิจฉามากกกกกกกกก อย่างที่บอกว่างานมันไม่ยาก เราเป็นงานไวมาก อาทิตย์เดียวเราทำเป็นหมดแล้วทั้งแผนกคือมันไม่อยากจริงๆ พอเรามาทำเราค้นพบว่าระบบงานมั่วมาก เรามานั่งแก้การออกบิลและตามเงินจากคู่ค้า ที่ตอนบัญชีเก่าออกไปแล้วไม่ได้รับเงินหลายแสนคืนมา (2 คนที่ทำงานก่อนเราไม่ได้ตามไม่รู้ทำไม) ด้วยความที่เราเคยผ่านการทำ ISO เจ้านายเลยบอกให้เราช่วยวางระบบใหม่ให้หน่อย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากน้องบิวเลย น้องบิวพูดต่อหน้าเจ้านายว่า "งั้นต่อไปก็ให้พี่เค้าทำแทนหนูกับกายไปเลย พวกหนูจะออก แต่หนูออกหนูแฟนหนูก็จะออก(หัวหน้าฝ่ายช่าง) ถ้าหนูออกบริษัทนี้ก็ไปต่อไม่ได้เพราะฝั่งช่างต้องพึ่งแฟนหนู" เราถึงกับตกใจในความกล้า และอึ้งในความใจดีของเจ้านายที่ยังปล่อยให้พูดนะ วันนั้นก็มีการแบ่งงานแบ่งหน้าที่กัน จริงๆเราไม่พอใจนะแต่ไม่ได้พูดอะไรไป ทุกวันนี้คือเราคิดว่าเราทำให้ระบบงานมันเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นและน้องบิวนี่คือยึดมั่นในหน้าที่มาก ถ้าไม่ใช่งานตัวเองไม่ทำ ไม่ถาม ไม่สนใจ ต้องถึงที่สุดจริงๆหรือเจ้านายใช้ถึงมาทำงานส่วนอื่น เราเคยลองให้มาทำงานในส่วนของเราเช่นตามเงินลูกค้าจากบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งต้องผ่านหลายขั้นตอนหลายแผนก น้องก็ทำไม่ได้มาบอกเราว่าเดี๋ยวเค้านึกออกเค้าก็โอนเงินมาเอง โอนบ้าไรน้องยอดค้างเป็นปีแล้วน้องไม่เอะใจกันบ้างหลอ สุดท้ายเราก็เอามาทำเอง
5.นับวันๆน้องบิวหนักข้อขึ้นมา เรื่องไร้มารยาทและคุ้มดีคุ้มร้าย อารมณ์ดีมาพูดดีซื้อขนมมาฝาก อารมณ์ร้ายมาวี๊ดๆๆใส่ซึ่งเราไม่โอเค ก็ปรึกษาเจ้านายอย่างลับๆ แต่เหตุการณ์ล่าสุดคือ มีลูกค้ารองานอยู่ 3 วันเป็นแค่ใบเสนอราคา ซึ่งกายเป็นคนรับงานแต่ไม่ถ่ายทอดให้ใคร (กายจะมีปัญหาเรื่องการเรียงลำดับความสำคัญและถ่ายทอดงาน) พอเรารู้เราเลยถาม กายบอกไม่มีเวลาทำเราก็อาสาช่วยทำ น้องบิวได้ยินก็พูดกับเราว่า
บิว "พี่นี่เป็นคนรีบๆเน้อะ"
เรา "รีบอะไรอะ ก็ลูกค้ารองานอยู่เค้ารอนานแล้ว"
บิว "ก็กายยุ่งๆไม่เห็นหรอ"
เรา "ก็เห็นไงเลยช่วย ทำไมเราต้องกองงานไว้ที่คนๆเดียวล่ะ"
บิว "แล้วจะรีบทำไม เห็นแล้วรำคาญ!!!" กระแทกเสียงพร้อมหน้าจิกมาก
เรา "น้องพี่ว่าน้องไม่ใช่คนพูดตรงนะ น้องเป็นเด็กไม่มีกาลเทศะ"
บิว "ก็เรื่องของพี่ดิ"
เรายอมรับว่าโมโหมากอะ มือสั่นๆๆ เราคุยกับเจ้านายบอกไม่ไหวนะทำงานกับคนแบบนี้ ให้เจ้านายช่วยปรามหน่อยคือทำงานด้วยยากมากคุ้มดีคุ้มร้ายแบบไม่มีสาเหตุ ขี้อิจฉาไม่มีเหตุผล เจ้านายเลยให้ย้ายทีให้ห่างๆกัน ตอนเราย้ายมีพูด "เออ ย้ายไปได้ก็ดี" และคำประชดต่างๆนาๆ เวลามีโทรศัพถึงเราเค้าจะพูด กายไปบอกเค้าดิรับโทรศัพท์ ซึ่งเรานั่งอยู่ตรงนั้น หรือถ้ากายไม่อยู่จะพูด รับโทรศัพท์สิ พอเรารับจะกระแทกหูแรงๆ พักเที่ยงจะไปกินข้าว เรายังนั่งทำงานอยู่ก็เดินไปปิดไฟปิดประตูปิดแอร์ เราก็บอกน้องปิดไฟทำไมคะ พี่ยังเคลีย์งานอยู่ ก็ไม่สนกระแทกประตูสำนักงานดังปัง หลังๆไม่เรียกพี่แล้วเรียกชื่อเราเลย ....ไปออกบิลดิ๊ ...ไปทำนู้นนี่ดิ๊ ขอยอมรับว่าอยากต่อยหน้าหงายมากกกก จากไม่ชอบกลายเป็นเกลียด ตอนนี้ปรึกษาเจ้านายแล้วค่ะเห็นว่าพรุ่งนี้จะเรียกไปคุย เรารู้สึกว่าทำงานแบบนี้เสียสุขภาพจิตมาก ถ้าจัดการไม่ได้เราคงหาที่ไปใหม่แล้วอะ
เราควรรับมือกับคนแบบนี้ยังไงคะ คำพูดคำจาแย่มาก เราก็ไม่คนยอมคนหรือหงอๆนะ แต่เคสนี้คือไม่ค่อยตอบโต้เพราะรู้สึกว่าการวางตัวมันต่างกันมากแต่ถ้าต้องทำงานด้วยนี่ลำบากใจจริงๆ เห็นผู้ใหญ่หลายคนบอกเด็กสมัยนี้ทำงานไม่มีความอดทน แต่เรารู้สึกว่าบางทีเราก็ไม่อยากเอาสุขภาพจิตไปทนกับปัญหาแบบนี้ ถ้าเจ้านายพูดแล้วเค้ายังไม่ปรับตัวคงต้องหาที่ใหม่จริงๆค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเจ้านายก็ค่อนข้างแคร์เด็กคนนี้กลัวเค้าน้อยใจ รู้สึกท้อใจมากๆเลย
ปล.กับคนอื่นๆไม่มีปัญหาเลยนะคะ เราไหว้พี่ๆช่างหรือพ่อบ้านแม่บ้านตลอด เวลาพูดมีคะ/ค่ะ ลงท้ายทุกคำ คุยเล่นกันเฮฮาปกติมากๆ จะมีปัญหาก็คนนี้คนเดียว แต่ทำงานด้วยกันมากกว่าคนอื่นๆ