กระทู้นี้ อยากจะมาให้กำลังใจ เพื่อนๆ ที่อยากผลิตเสื้อผ้าในแบรนด์ของตัวเองค่ะ
วันนี้ รู้สึกว่าตัวเอง ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้ว และผ่านจุดอุปสรรคมามากมาย
เลยอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ ^^
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จู่ๆ ก็รู้สึก อยากทำชุดครอบครัว ในแบรนด์ของตัวเอง
เพราะชอบใส่ชุดแม่ลูก มากๆ รู้สึก มันน่ารักดี ที่จะใส่อะไรเหมือนๆ กันทั้งครอบครัว
แต่ก็ไม่เจอสินค้าในตลาดที่ถูกใจ
จึงเริ่มต้น ชวนเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย มาหุ้นกัน "ทำเสื้อผ้ากันเถอะ"
ที่ชวนเพื่อน เพราะไม่มีความรู้อะไรด้านเสื้อผ้าเลยค่ะ เดิมทำธุรกิจด้านการเงินมาโดยตลอด
1. เริ่มต้นเลย ก็นั่ง Search Google หาผู้ที่จะผลิตเสื้อผ้าให้ใหญ่เลยค่ะ
ได้มา 2 เจ้า เจ้านึงเป็นชุดที่ผลิตจากผ้าคอตตอน อีกเจ้านึง เป็น ผ้ายืดสกรีนเก๋ๆ ค่ะ
2. พอได้สินค้าแล้ว ก็ Search หาต่อ ว่าจะขายที่ไหนดี
สรุป ก็ได้ที่ๆ ตลาดนัด โซนด้านนอกห้างฯ แห่งหนึ่งค่ะ เพราะเห็นค่าที่ถูกดี เช่าง่ายดีด้วย
3. เริ่มต้นปุ๊บ ... ขายดีเลยค่ะ เพราะตลาดนัดเปิดแค่ ศ-ส-อา และคนเดินก็มีกำลังซื้อ
วันนึงยอดเกิน 5,000 - 10,000 กว่าบาท
ค่าเช่าที่วันละ 600 บ.ค่ะ
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว สินค้าที่เราขาย ราคาค่อนข้างสูง อาจเป็นเพราะเราไม่ได้ศึกษาต้นทุนหลายที่
เพราะไม่ค่อยมีที่ไหน ที่รับผลิตทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิง ดช และ ดญ ในที่เดียวกันค่ะ
ใครรับผลิต ก็เอาเลยค่ะ แหะๆ
4. จากนั้น ก็เริ่มลงขายทาง Facebook แต่ยอด likes ได้มาแค่ 100 กว่าคน เพื่อนทั้งนั้นเลยค่ะ
เพราะไม่กล้า Promote ยังไม่เชื่อว่า Promote แล้ว จะได้ผลไหม
ขายทาง Online จึงมีแต่ลูกค้าที่เจอกันที่ตลาดนัดที่ห้างฯ แจกนามบัตร แล้วตามมาซื้อค่ะ
ยอดวันละ 1,000 - 2,000 บ. เองค่ะ
5. 1 ปีผ่านไป ก็ขายไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นงานอดิเรก ไม่ได้จริงจังมากค่ะ
เนื่องจาก ตัวเอง มีกิจการของสามีอยู่แล้ว และ เพื่อนก็มีงานประจำอยู่แล้ว
แต่ด้วยความที่ขายดีต่อเนื่อง จึงมีแรงฮึดต่อ และหาว่าจะไปขายสินค้าที่ไหนดี
สุดท้าย เรามุ่ง Target ไปขายที่ งานแม่และเด็ก จึงเริ่มเช่าบูธ ที่งานแม่และเด็ก แห่งหนึ่งค่ะ
6. พอไปขายงานแม่และเด็ก ในตอนนั้น เราเป็นร้านเดียวที่ขายชุดครอบครัว ที่มีครบทั้งพ่อ แม่ ลูก ค่ะ
ขายดีมากอีก วันแรกได้เป็น แสนบาทเลยค่ะ วันที่ 2 - 4 ของหมด เหลือแต่เศษ ค่ะ ไม่มีขายครบเซตเลย
7. ในงานนั้นเอง เราจึงพบว่า เราบริหารสต็อค พลาดมาก
เหลือเป็นชุดเด็กทั้งร้านเลย แม่หมดก่อนเพื่อน
พอ ชุดแม่หมด ชุดอื่นๆ ก็อืดตาม ขายไม่ค่อยออกเลยค่ะ
8. เราจึงรีบติดต่อ ผู้ผลิตทั้ง 2 เจ้า เพื่อผลิตเพิ่ม
แล้วก็พบปัญหาอีก
เจ้านึง ไม่รับผลิตแต่แม่เพิ่ม ค่ะ ต้องผลิตใหม่ทั้งลอต ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากกก
อีกเจ้านึง รับงานไปปกติค่ะ แต่ๆๆ ... เอาเข้าจริง ส่งงานเลทไป 2 เดือน
9. สินค้าขายดีมากค่ะ
แต่ ปัญหาอยู่ที่ ผู้ผลิต
แต่ละเจ้า ส่งเลทเป็นเดือน - 2 เดือน และต้องการปริมาณการสั่งที่มากขึ้น (สั่งแบบเติมสตอคไม่ได้)
บางลอต ผลิตพลาด ตีกลับ แก้งานอีกเป็นเดือน โอ้ ชีวิต
10. สินค้าขาดค่ะ ไม่มีขายไปประมาณ 3-6 เดือนเลยค่ะ
ทั้ง size ไม่ครบ แบบใหม่ มาเลท
งานแม่และเด็ก อีก 2 ครั้งถัดไป ไม่มีของจะขายค่ะ
11. บอกเพื่อนเลยค่ะ " เราอยากผลิตเองอ่ะ จะได้ไม่มีปัญหา"
แต่เพื่อนไม่เห็นด้วยเลย เนื่องจาก ตอนนั้น ผู้ผลิตรายนึง ชอบพูดให้ฟังบ่อยๆ ว่า
จักรลงทุนที เป็นแสนๆ เลยนะ ช่างก็หายาก เราต้องคอยตามเช็คตลอด ต้องมีความรู้มากๆ ... บลาๆๆ
และเค้า ก็คิดราคาเราแพงมาก (>_<)
12. ดื้อค่ะ ขอลอง ... คิดว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราลงทุนเองได้ เราอยากลอง
จู่ๆ เลยติดป้าย " รับสมัคร ช่างเย็บผ้า " ที่หน้าร้านขายเหล็ก ของคุณสามี
ทั้งๆ ที่ ยังไม่มีอะไรเลยค่ะ จักรซักตัว หรือ ความรู้เรื่องการตัดเย็บสักกะติ๊ด
เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะ ... เรื่องมันยาวค่ะ ^^
เริ่มขายจากตลาดนัด จนมายอด Likes 4 แสน วันนี้ มีโรงงานผลิตเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง และมีรายได้ต่อเดือนหลักหลายล้านแล้วค่ะ
วันนี้ รู้สึกว่าตัวเอง ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้ว และผ่านจุดอุปสรรคมามากมาย
เลยอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ ^^
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จู่ๆ ก็รู้สึก อยากทำชุดครอบครัว ในแบรนด์ของตัวเอง
เพราะชอบใส่ชุดแม่ลูก มากๆ รู้สึก มันน่ารักดี ที่จะใส่อะไรเหมือนๆ กันทั้งครอบครัว
แต่ก็ไม่เจอสินค้าในตลาดที่ถูกใจ
จึงเริ่มต้น ชวนเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย มาหุ้นกัน "ทำเสื้อผ้ากันเถอะ"
ที่ชวนเพื่อน เพราะไม่มีความรู้อะไรด้านเสื้อผ้าเลยค่ะ เดิมทำธุรกิจด้านการเงินมาโดยตลอด
1. เริ่มต้นเลย ก็นั่ง Search Google หาผู้ที่จะผลิตเสื้อผ้าให้ใหญ่เลยค่ะ
ได้มา 2 เจ้า เจ้านึงเป็นชุดที่ผลิตจากผ้าคอตตอน อีกเจ้านึง เป็น ผ้ายืดสกรีนเก๋ๆ ค่ะ
2. พอได้สินค้าแล้ว ก็ Search หาต่อ ว่าจะขายที่ไหนดี
สรุป ก็ได้ที่ๆ ตลาดนัด โซนด้านนอกห้างฯ แห่งหนึ่งค่ะ เพราะเห็นค่าที่ถูกดี เช่าง่ายดีด้วย
3. เริ่มต้นปุ๊บ ... ขายดีเลยค่ะ เพราะตลาดนัดเปิดแค่ ศ-ส-อา และคนเดินก็มีกำลังซื้อ
วันนึงยอดเกิน 5,000 - 10,000 กว่าบาท
ค่าเช่าที่วันละ 600 บ.ค่ะ
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว สินค้าที่เราขาย ราคาค่อนข้างสูง อาจเป็นเพราะเราไม่ได้ศึกษาต้นทุนหลายที่
เพราะไม่ค่อยมีที่ไหน ที่รับผลิตทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิง ดช และ ดญ ในที่เดียวกันค่ะ
ใครรับผลิต ก็เอาเลยค่ะ แหะๆ
4. จากนั้น ก็เริ่มลงขายทาง Facebook แต่ยอด likes ได้มาแค่ 100 กว่าคน เพื่อนทั้งนั้นเลยค่ะ
เพราะไม่กล้า Promote ยังไม่เชื่อว่า Promote แล้ว จะได้ผลไหม
ขายทาง Online จึงมีแต่ลูกค้าที่เจอกันที่ตลาดนัดที่ห้างฯ แจกนามบัตร แล้วตามมาซื้อค่ะ
ยอดวันละ 1,000 - 2,000 บ. เองค่ะ
5. 1 ปีผ่านไป ก็ขายไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นงานอดิเรก ไม่ได้จริงจังมากค่ะ
เนื่องจาก ตัวเอง มีกิจการของสามีอยู่แล้ว และ เพื่อนก็มีงานประจำอยู่แล้ว
แต่ด้วยความที่ขายดีต่อเนื่อง จึงมีแรงฮึดต่อ และหาว่าจะไปขายสินค้าที่ไหนดี
สุดท้าย เรามุ่ง Target ไปขายที่ งานแม่และเด็ก จึงเริ่มเช่าบูธ ที่งานแม่และเด็ก แห่งหนึ่งค่ะ
6. พอไปขายงานแม่และเด็ก ในตอนนั้น เราเป็นร้านเดียวที่ขายชุดครอบครัว ที่มีครบทั้งพ่อ แม่ ลูก ค่ะ
ขายดีมากอีก วันแรกได้เป็น แสนบาทเลยค่ะ วันที่ 2 - 4 ของหมด เหลือแต่เศษ ค่ะ ไม่มีขายครบเซตเลย
7. ในงานนั้นเอง เราจึงพบว่า เราบริหารสต็อค พลาดมาก
เหลือเป็นชุดเด็กทั้งร้านเลย แม่หมดก่อนเพื่อน
พอ ชุดแม่หมด ชุดอื่นๆ ก็อืดตาม ขายไม่ค่อยออกเลยค่ะ
8. เราจึงรีบติดต่อ ผู้ผลิตทั้ง 2 เจ้า เพื่อผลิตเพิ่ม
แล้วก็พบปัญหาอีก
เจ้านึง ไม่รับผลิตแต่แม่เพิ่ม ค่ะ ต้องผลิตใหม่ทั้งลอต ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากกก
อีกเจ้านึง รับงานไปปกติค่ะ แต่ๆๆ ... เอาเข้าจริง ส่งงานเลทไป 2 เดือน
9. สินค้าขายดีมากค่ะ
แต่ ปัญหาอยู่ที่ ผู้ผลิต
แต่ละเจ้า ส่งเลทเป็นเดือน - 2 เดือน และต้องการปริมาณการสั่งที่มากขึ้น (สั่งแบบเติมสตอคไม่ได้)
บางลอต ผลิตพลาด ตีกลับ แก้งานอีกเป็นเดือน โอ้ ชีวิต
10. สินค้าขาดค่ะ ไม่มีขายไปประมาณ 3-6 เดือนเลยค่ะ
ทั้ง size ไม่ครบ แบบใหม่ มาเลท
งานแม่และเด็ก อีก 2 ครั้งถัดไป ไม่มีของจะขายค่ะ
11. บอกเพื่อนเลยค่ะ " เราอยากผลิตเองอ่ะ จะได้ไม่มีปัญหา"
แต่เพื่อนไม่เห็นด้วยเลย เนื่องจาก ตอนนั้น ผู้ผลิตรายนึง ชอบพูดให้ฟังบ่อยๆ ว่า
จักรลงทุนที เป็นแสนๆ เลยนะ ช่างก็หายาก เราต้องคอยตามเช็คตลอด ต้องมีความรู้มากๆ ... บลาๆๆ
และเค้า ก็คิดราคาเราแพงมาก (>_<)
12. ดื้อค่ะ ขอลอง ... คิดว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราลงทุนเองได้ เราอยากลอง
จู่ๆ เลยติดป้าย " รับสมัคร ช่างเย็บผ้า " ที่หน้าร้านขายเหล็ก ของคุณสามี
ทั้งๆ ที่ ยังไม่มีอะไรเลยค่ะ จักรซักตัว หรือ ความรู้เรื่องการตัดเย็บสักกะติ๊ด
เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะ ... เรื่องมันยาวค่ะ ^^