รีวิวครั้งแรก ลองหยิบ Xiaomi Band 2 มาลองรีวิวกันดูครับ
รีวิวนี้จะอธิบายถึงฟังก์ชั่นหลักๆ ความแม่นยำของการวัดค่าต่างๆ
และมันจะเป็นยังไงบ้าง เมื่อต้องต่อเข้ากับ iPhone
รูปภาพของ Xiaomi Band 2 เชื่อว่าทุกๆคนคงหาได้จากเว็บไซต์อยู่แล้ว
ซึ่งหน้าตามันก็ตามนั้นเลยครับ ผมจะขอรีวิวในส่วนของการเชื่อมต่อกับไอโฟนละกัน
คุณสมบัติเด่นๆ
- กันน้ำได้ตามมารตรฐาน IP7 เปียกฝนได้ เปิดน้ำใส่ได้
- แบตเตอรี่ชาร์จวันนึงอยู่ได้ 20 วันขึ้นไป ถือว่าเจ๋งมากๆครับ
มันทำอะไรได้บ้าง?
- เป็นนาฬิกา
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดก้าวเดิน
- วัดระยะทางเดิน
- วัดจำนวนแคลอรี่ที่ burn ในวั้นนั้นๆ
- บันทึกข้อมูลนอนหลับ
- จับข้อมูลการวิ่งออกกำลัง (เหมือนพวกแอป Nike+) ทั้งบน track และบนลู่วิ่ง
เริ่มเชื่อมต่อกับ iPhone
หน้าแรก เมื่อไอโฟนของเราเชื่อมต่อกับ band สำเร็จ
เรื่องความสามารถในการเชื่อมต่อ ถือว่าเยี่ยมครับ เชื่อมผ่าน Bluetooth ค่อนข้างเสถียร
ตั้งแต่ใช้มาราวๆ 1 เดือน ผมให้ 99% เลย
โดยหน้าหลักนี้จะบอกจำนวนก้าวเดิน, ระยะทาง, แคลอรี่ที่ burn ซึ่งเป็น real-time กันเลยครับ
ถัดลงไปจะพบกับเวลาที่คุณนอนไปทั้งหมดในตอนนั้น
ถัดลงมาจะพบกับ สถิติ Heart Rate ซึ่งเครื่องจะบันทึกลงใส่แอปเรื่อยๆ ที่เรากดดู Heart Rate ครับ
ลงไปอีกนั้นเป็นแท่งกราฟแสดงจำนวนก้าวที่คุณเดินในวันที่ผ่านๆมา
แท่งสีเหลืองบ่งบอกถึงว่า คุณได้เดินมากกว่าเป้าหมายที่คุณตั้งค่าไว้ครับ (ผมตั้งไว้ที่ 10,000 ก้าว/วัน)
ถัดจากภาพข้างบน ผมกดมาที่ Tab "Play"
ในหน้านี้ จะเป็นการตั้งค่าการเตือนต่างๆ ตามนี้ครับ
In coming call - แจ้งเตือนสายเข้า โดย band จะสั่น หน้าจอแสดงไอคอนแบบในรูปเลยครับ พร้อมชื่อคนโทรเข้าด้วย
และสามารถตั้งค่าได้ว่า จะให้ delay การเตือนหลังจากสายเข้า กี่วินาที (ตั้งได้ต่ำสุด 3 สูงสุด 5 วินาทีครับ)
โดยฟังก์ชั่นนี้มีข้อแม้ว่า
คุณจะต้องเชื่อมต่อ band กับไอโฟนไว้ด้วย มันถึงจะทำงาน
Alarm - เป็นไฮไลท์ แบบที่ไม่มีคนพูดถึงเลยแหละ ถามว่ามันดียังไง มันสามารถตั้งนาฬิกาปลุกได้ครับ
ส่วนที่ดีคือ เวลาปลุกมันจะสั่น (ไม่ส่งเสียงใดๆ) ให้ความรู้สึกเหมือนมีคนมาแตะๆที่มือเรา ทำให้เราตื่นนอนแบบ ไม่ panic
เหมือนกับโดนนาฬิกาปลุก ให้ความรู้สึกที่ดีกว่ามากๆ แล้วถ้าคุณนอนกับคนในบ้าน ก็จะไม่ทำให้คนอื่นตื่นอีกต่างหาก
ฟังก์ชั่นนี้ เชื่อมต่อกับไอโฟนเพื่อตั้งนาฬิกาปลุกเท่านั้น เสร็จแล้วปิดบลูทูธ ปิดมือถือนอนได้เลย
ไม่ต้องต่อทิ้งไว้ครับ
Mi Band Alert - ฟังก์ชั้นนี้เหมือนเตือนโทรศัพท์ครับ แต่เป็นการเตือนจากแอปแชทต่างๆแทน โดยแอปที่สนับสนุนก็มี
Mi Fit (ตัวแอปเอง), WhatApp, Facebook Messenger, Line, Skype, WeChat, Facebook, Instragram, Twitter, Calendar
แอปจะเตือนโดยการโชว์ไอคอน ของแอปนั้นๆเลยครับ สวยงาม และสะดวกต่อการแยกว่า มันกำลังเตือนแอปไหน
ฟังก์ชั่นนี้
ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ถึงจะทำงานได้ครับ
Idle Alert - ฟังก์ชั่นนี้ผมไม่เคยใช้ แต่มันคือการเตือนเมื่อคุณนั่งนานๆและไม่เคลื่อนไหว มันจะสั่นพร้อมโชว์ไอคอน
ให้คุณลุกมาออกกำลังกาย หรือเดิน เมื่อคุณอยู่กับที่นานๆครับ การตั้งค่าคือ เปิด/ปิด การเตือนเท่านั้น ตั้งเวลาไม่ได้ว่านั่งนานเท่าไร
Incoming SMS - เตือน เมื่อมี SMS เข้า
Incoming Mail - เตือนเมื่อมีอีเมลเข้า ใช้กับแอป Mail ที่ติดมากับไอโฟนเท่านั้น
Goal Notification - เตือนเมื่อคุณเดินถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ สามารถเซทได้เป็นก้าว เช่น 6000 / 8000 / 9000 / 10000
มาถึงแท็บ "Profile" แสดงก้าวเดินสะสม และระยะทางทั้งหมด ที่คุณเดินมาครับ
จริงๆหน้านี้มีไว้เพื่อเป็น Social network กับผู้ใช้ Band คนอื่นๆด้วย
ถัดลงมาเป็นการ Setting ตัว Band จะอธิบายในภาพต่อไป
ถัดลงมา คือที่ผมบอกครับ จำนวน Goal ของเราในแต่ละวัน ว่าจะกำหนดที่เท่าไร (WHO แนะนำที่ 8,000 ก้าว ต่อวัน)
การนับของมันจะนับเป็น 24 ชม. ต่อวัน ตัดที่เที่ยงคืนตรงเป้ะๆ
ต่อมาเมื่อคุณกด Setting ตัว Band (กดที่ Mi Band 2 ใต้แถบ My device รูปข้างบน) จะเจอกับหน้านี้ครับ
หน้านี้หลักๆ จะบอกว่าตั้งแต่ชาร์จเต็ม ตัวนาฬิกาอยู่มาแล้วกี่วันโดยที่ไม่ได้ชาร์จอีก ในภาพคือ 14 วัน
เท่าที่ลองสามารถใช้ได้ถึง 20 กว่าวันหายห่วง เวลาชาร์จที ใช้เวลาประมาณไม่ถึงชั่วโมงก็เต็ม ถือว่าเจ๋งสุดๆเรื่องแบต
Band Location - เลือกว่าคุณใส่อยู่ที่มือไหน
Mi Band Display setting - เป็นการเลือกว่าเวลากดปุ่มโฮมของ band จะให้โชว์ข้อมูลอะไรบ้าง การแสดงข้อมูลของมัน
จะแสดงวนไปเรื่อยๆโดยการกดปุ่มโฮมครับ เช่น กด 1 ครั้งคือนาฬิกา กดต่อมาอีกแสดงก้าวเดิน กดต่อมาแสดงระยะทาง
โดยเราสามารถกำหนดได้ว่า จะเอาอะไรออก สิ่งที่มันแสดงได้ก็มีดังนี้ครับ
+ เวลา (บังคับ เอาออกไม่ได้) + ก้าวเดิน + ระยะทาง + อัตราการเต้นหัวใจ + แคลอรี่ที่ burned + แบตเตอรี่คงเหลือ
Time format - เลือกแสดงเวลาได้ 2 แบบ แบบแสดงเวลาอย่างเดียว และแบบที่แสดงเวลาพร้อมวันที่
Lift to view - ตั้งว่าถ้าคุณใส่อยู่บนข้อมือ แล้วพลิกนาฬิกามาดู ให้แสดงเวลาได้เลยโดยไม่ต้องกดปุ้มโฮม
ข้อนี้ผมให้ลำบากนิดนึง เพราะมันไม่เป๊ะทุกครั้ง อาจจะเป็นเพราะข้อมือผมเล็กด้วยครับ ให้ความแม่นยำ 50% บางทีต้องกดเอาเอง
Rotate to switch - ตั้งว่าถ้ายกขึ้นมาดูแล้ว ต้องการดูข้อมูลต่อๆไปให้หมุนข้อมือ แทนการกดปุ่มโฮมเองได้
Heart rate sleep assist - อนุญาตให้ band จับอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอน เพื่อเป็นข้อมูลให้แม่นยำขึ้น ว่า
คุณนอนหลับจริง และแยกระหว่าง deep sleep กับ light sleep แนะนำให้เปิดครับ ถึงจะกินแบตมากขึ้น แต่แทบไม่มีผลเลย
มันอยู่ได้นานใกล้เคียงเท่าเดิม ได้ผลที่ดีต่อการเก็บข้อมูลด้วย
รูปแบบแสดงเวลาที่เลือกได้
สิ่งที่ตั้งค่าได้เวลากดปุ่มโฮม เพื่อดูข้อมูลครับ อันไหนเราไม่ค่อยดูก็เอาออกได้ เพราะเข้ามาดูในแอปได้อยู่แล้ว
** ขอหยุดแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาต่อนะครับ
[CR] [CR] Xiaomi Band 2 ฉบับต่อกับ iPhone ในแอปของมันมีอะไรให้เล่น
รีวิวนี้จะอธิบายถึงฟังก์ชั่นหลักๆ ความแม่นยำของการวัดค่าต่างๆ
และมันจะเป็นยังไงบ้าง เมื่อต้องต่อเข้ากับ iPhone
รูปภาพของ Xiaomi Band 2 เชื่อว่าทุกๆคนคงหาได้จากเว็บไซต์อยู่แล้ว
ซึ่งหน้าตามันก็ตามนั้นเลยครับ ผมจะขอรีวิวในส่วนของการเชื่อมต่อกับไอโฟนละกัน
คุณสมบัติเด่นๆ
- กันน้ำได้ตามมารตรฐาน IP7 เปียกฝนได้ เปิดน้ำใส่ได้
- แบตเตอรี่ชาร์จวันนึงอยู่ได้ 20 วันขึ้นไป ถือว่าเจ๋งมากๆครับ
มันทำอะไรได้บ้าง?
- เป็นนาฬิกา
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดก้าวเดิน
- วัดระยะทางเดิน
- วัดจำนวนแคลอรี่ที่ burn ในวั้นนั้นๆ
- บันทึกข้อมูลนอนหลับ
- จับข้อมูลการวิ่งออกกำลัง (เหมือนพวกแอป Nike+) ทั้งบน track และบนลู่วิ่ง
เริ่มเชื่อมต่อกับ iPhone
หน้าแรก เมื่อไอโฟนของเราเชื่อมต่อกับ band สำเร็จ
เรื่องความสามารถในการเชื่อมต่อ ถือว่าเยี่ยมครับ เชื่อมผ่าน Bluetooth ค่อนข้างเสถียร
ตั้งแต่ใช้มาราวๆ 1 เดือน ผมให้ 99% เลย
โดยหน้าหลักนี้จะบอกจำนวนก้าวเดิน, ระยะทาง, แคลอรี่ที่ burn ซึ่งเป็น real-time กันเลยครับ
ถัดลงไปจะพบกับเวลาที่คุณนอนไปทั้งหมดในตอนนั้น
ถัดลงมาจะพบกับ สถิติ Heart Rate ซึ่งเครื่องจะบันทึกลงใส่แอปเรื่อยๆ ที่เรากดดู Heart Rate ครับ
ลงไปอีกนั้นเป็นแท่งกราฟแสดงจำนวนก้าวที่คุณเดินในวันที่ผ่านๆมา
แท่งสีเหลืองบ่งบอกถึงว่า คุณได้เดินมากกว่าเป้าหมายที่คุณตั้งค่าไว้ครับ (ผมตั้งไว้ที่ 10,000 ก้าว/วัน)
ถัดจากภาพข้างบน ผมกดมาที่ Tab "Play"
ในหน้านี้ จะเป็นการตั้งค่าการเตือนต่างๆ ตามนี้ครับ
In coming call - แจ้งเตือนสายเข้า โดย band จะสั่น หน้าจอแสดงไอคอนแบบในรูปเลยครับ พร้อมชื่อคนโทรเข้าด้วย
และสามารถตั้งค่าได้ว่า จะให้ delay การเตือนหลังจากสายเข้า กี่วินาที (ตั้งได้ต่ำสุด 3 สูงสุด 5 วินาทีครับ)
โดยฟังก์ชั่นนี้มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องเชื่อมต่อ band กับไอโฟนไว้ด้วย มันถึงจะทำงาน
Alarm - เป็นไฮไลท์ แบบที่ไม่มีคนพูดถึงเลยแหละ ถามว่ามันดียังไง มันสามารถตั้งนาฬิกาปลุกได้ครับ
ส่วนที่ดีคือ เวลาปลุกมันจะสั่น (ไม่ส่งเสียงใดๆ) ให้ความรู้สึกเหมือนมีคนมาแตะๆที่มือเรา ทำให้เราตื่นนอนแบบ ไม่ panic
เหมือนกับโดนนาฬิกาปลุก ให้ความรู้สึกที่ดีกว่ามากๆ แล้วถ้าคุณนอนกับคนในบ้าน ก็จะไม่ทำให้คนอื่นตื่นอีกต่างหาก
ฟังก์ชั่นนี้ เชื่อมต่อกับไอโฟนเพื่อตั้งนาฬิกาปลุกเท่านั้น เสร็จแล้วปิดบลูทูธ ปิดมือถือนอนได้เลย ไม่ต้องต่อทิ้งไว้ครับ
Mi Band Alert - ฟังก์ชั้นนี้เหมือนเตือนโทรศัพท์ครับ แต่เป็นการเตือนจากแอปแชทต่างๆแทน โดยแอปที่สนับสนุนก็มี
Mi Fit (ตัวแอปเอง), WhatApp, Facebook Messenger, Line, Skype, WeChat, Facebook, Instragram, Twitter, Calendar
แอปจะเตือนโดยการโชว์ไอคอน ของแอปนั้นๆเลยครับ สวยงาม และสะดวกต่อการแยกว่า มันกำลังเตือนแอปไหน
ฟังก์ชั่นนี้ ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ถึงจะทำงานได้ครับ
Idle Alert - ฟังก์ชั่นนี้ผมไม่เคยใช้ แต่มันคือการเตือนเมื่อคุณนั่งนานๆและไม่เคลื่อนไหว มันจะสั่นพร้อมโชว์ไอคอน
ให้คุณลุกมาออกกำลังกาย หรือเดิน เมื่อคุณอยู่กับที่นานๆครับ การตั้งค่าคือ เปิด/ปิด การเตือนเท่านั้น ตั้งเวลาไม่ได้ว่านั่งนานเท่าไร
Incoming SMS - เตือน เมื่อมี SMS เข้า
Incoming Mail - เตือนเมื่อมีอีเมลเข้า ใช้กับแอป Mail ที่ติดมากับไอโฟนเท่านั้น
Goal Notification - เตือนเมื่อคุณเดินถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ สามารถเซทได้เป็นก้าว เช่น 6000 / 8000 / 9000 / 10000
มาถึงแท็บ "Profile" แสดงก้าวเดินสะสม และระยะทางทั้งหมด ที่คุณเดินมาครับ
จริงๆหน้านี้มีไว้เพื่อเป็น Social network กับผู้ใช้ Band คนอื่นๆด้วย
ถัดลงมาเป็นการ Setting ตัว Band จะอธิบายในภาพต่อไป
ถัดลงมา คือที่ผมบอกครับ จำนวน Goal ของเราในแต่ละวัน ว่าจะกำหนดที่เท่าไร (WHO แนะนำที่ 8,000 ก้าว ต่อวัน)
การนับของมันจะนับเป็น 24 ชม. ต่อวัน ตัดที่เที่ยงคืนตรงเป้ะๆ
ต่อมาเมื่อคุณกด Setting ตัว Band (กดที่ Mi Band 2 ใต้แถบ My device รูปข้างบน) จะเจอกับหน้านี้ครับ
หน้านี้หลักๆ จะบอกว่าตั้งแต่ชาร์จเต็ม ตัวนาฬิกาอยู่มาแล้วกี่วันโดยที่ไม่ได้ชาร์จอีก ในภาพคือ 14 วัน
เท่าที่ลองสามารถใช้ได้ถึง 20 กว่าวันหายห่วง เวลาชาร์จที ใช้เวลาประมาณไม่ถึงชั่วโมงก็เต็ม ถือว่าเจ๋งสุดๆเรื่องแบต
Band Location - เลือกว่าคุณใส่อยู่ที่มือไหน
Mi Band Display setting - เป็นการเลือกว่าเวลากดปุ่มโฮมของ band จะให้โชว์ข้อมูลอะไรบ้าง การแสดงข้อมูลของมัน
จะแสดงวนไปเรื่อยๆโดยการกดปุ่มโฮมครับ เช่น กด 1 ครั้งคือนาฬิกา กดต่อมาอีกแสดงก้าวเดิน กดต่อมาแสดงระยะทาง
โดยเราสามารถกำหนดได้ว่า จะเอาอะไรออก สิ่งที่มันแสดงได้ก็มีดังนี้ครับ
+ เวลา (บังคับ เอาออกไม่ได้) + ก้าวเดิน + ระยะทาง + อัตราการเต้นหัวใจ + แคลอรี่ที่ burned + แบตเตอรี่คงเหลือ
Time format - เลือกแสดงเวลาได้ 2 แบบ แบบแสดงเวลาอย่างเดียว และแบบที่แสดงเวลาพร้อมวันที่
Lift to view - ตั้งว่าถ้าคุณใส่อยู่บนข้อมือ แล้วพลิกนาฬิกามาดู ให้แสดงเวลาได้เลยโดยไม่ต้องกดปุ้มโฮม
ข้อนี้ผมให้ลำบากนิดนึง เพราะมันไม่เป๊ะทุกครั้ง อาจจะเป็นเพราะข้อมือผมเล็กด้วยครับ ให้ความแม่นยำ 50% บางทีต้องกดเอาเอง
Rotate to switch - ตั้งว่าถ้ายกขึ้นมาดูแล้ว ต้องการดูข้อมูลต่อๆไปให้หมุนข้อมือ แทนการกดปุ่มโฮมเองได้
Heart rate sleep assist - อนุญาตให้ band จับอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอน เพื่อเป็นข้อมูลให้แม่นยำขึ้น ว่า
คุณนอนหลับจริง และแยกระหว่าง deep sleep กับ light sleep แนะนำให้เปิดครับ ถึงจะกินแบตมากขึ้น แต่แทบไม่มีผลเลย
มันอยู่ได้นานใกล้เคียงเท่าเดิม ได้ผลที่ดีต่อการเก็บข้อมูลด้วย
รูปแบบแสดงเวลาที่เลือกได้
สิ่งที่ตั้งค่าได้เวลากดปุ่มโฮม เพื่อดูข้อมูลครับ อันไหนเราไม่ค่อยดูก็เอาออกได้ เพราะเข้ามาดูในแอปได้อยู่แล้ว
** ขอหยุดแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาต่อนะครับ