รีวิว La La Land : 9/10
ต้นปีนี้มีหนังดีๆให้ดูกันเยอะมาก เพราะใกล้ช่วงงานประกาศผลรางวัลต่างๆด้วย ดีใจนะที่โรงหนังบ้านเราเดี๋ยวนี้เปิดกว้างมากขึ้นเอาหนังสายรางวัลมาฉายกันรัวๆ ใช่จะมีแต่หนังแมสๆ
บอกก่อนเลยว่า ชอบทุกอย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นบท ความแปลกใหม่ การดำเนินเรื่อง เพลง นักแสดง ฯลฯ ไม่ได้อวยนะครับแต่ชอบจริงๆ555 โดยเฉพาะสองนักแสดงนำ และ โดยเฉพาะ เอ็มม่า สโตน ที่ให้การแสดงที่โคตรมีเสน่ห์ และชวนหลงรักได้ง่ายๆ (แล้วพระนางเรื่องนี้ก็พึ่งคว้าลูกโลกทองคำไปคนละลูก)
LaLaLand เป็นหนัง musical ที่ร้องเพลงกันเกือบทั้งเรื่อง หนังออกแนวเพ้อฝันหน่อยๆมีความโอเวอร์นิดๆตามสไตล์หนังเพลง
ตัวหนังใส่มุขเสียดสีและให้ความเคารพแวดวงเพลงและวงการภาพยนตร์มาเยอะอยู่ หากใครที่ฟังเพลงมามากๆหรือดูหนังมาเยอะ(โดยเฉพาะหนังเก่าและเพลงเก่าๆ)ก็น่าจะอินกับประเด็นต่างๆที่หนังหยิบใส่มาได้ไม่ยาก
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือประเด็นที่พูดถึงวัฒนธรรมการฟังเพลงรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ โดยหนังพยายามบอกกับเราว่า เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนศิลปะด้านดนตรี(ในหนังพูดถึงเพลงแจ้ส) ก็ควรเปลี่ยนตามให้เข้ากับยุคสมัย หากยังต้องการรักษาศิลปะดนตรีแขนงนั้นไว้ ก็ควรผสมผสานให้คนรุ่นใหม่ฟังได้และเข้าถึงได้ ทำให้นึกถึงวงการเพลงลูกทุ่งบ้านเราเช่นกันนะเพราะเด่วนี้เพลงลูกทุ่งก็มักจะเป็นลูกทุ่งแบบสมัยใหม่ที่กลายเป็นเพลงป้อปกลายๆเพื่อให้คนรุ่นหลังฟังได้และเข้าถึงง่ายๆ ..... แต่กระนั้นหนังก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ฝั่งที่ขัดแย้ง(อย่างตัวพระเอกที่ก็เกือบถูกวัฒนธรรมสมัยใหม่กลืนกินความเป็นตัวเองไป) และบอกกับเราว่าอีกทีว่ายังไงๆคนที่ชอบศิลปะแบบดั้งเดิมก็มีอยู่นะเว้ย อย่าลืมสิว่าศิลปะไม่ว่าจะด้านไหนมันก็คือศิลปะมันไม่ตายกันไปง่ายๆหรอกหากยังมีคนที่สนใจและคอยรักษามันไว้อยู่แม้จะน้อยนิดก็ตาม
LaLaLand ยังเป็นหนังเพลงที่ว่าด้วยเรื่องความรัก ความฝัน การฝ่าฟันอุปสรรค และเป็นภาพยนตร์ที่ให้แรงบรรดาลใจชั้นดี เป็นหนังที่น่ารักและตลก มีเพลงสนุกๆให้ฟัง มีการแสดงที่เข้าขากันของพระนางให้ดู
เอาเป็นว่า LaLaLand สำหรับผมมันคือภาพยนตร์ที่มหัศจรรย์มาก ต้องชม ผกก ที่กล้านำเสนอให้ออกมาแปลกใหม่และเป็นตัวเองได้ขนาดนี้
เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ต้องลองไปดูกับตาครับ ใครกำลังมีความฝันและอยากได้แรงบรรดาลใจเพื่อจุดประกายในชีวิตก็ควรลองไปดู ใครกำลังมีความรักก็ควรดู กำลังอกหักหรือเศร้าสร้อยยิ่งต้องไปดู ใครชอบฟังเพลงก็จะสนุกไปกับเรื่องนี้ นี่ดูจบยังต้องไปหาเพลงแจ็สมาฟังรัวๆ
บทสรุปของหนัง10นาทีสุดท้าย มันพีคมากๆเอาใจไปเลย อินมาก 555
*****
จุดนี้ สปอยล์
ชอบที่หนังเล่นบอกกับเราว่า คนบางคนเกิดมาเพื่อรักกัน เพื่อเป็นแรงบรรดาลใจ และ แรงผลักดันให้กันและกัน แม้จะไม่ได้เป็นคู่ชีวิตกันก็ตาม
La La Land : แดนมหัสจรรย์
ต้นปีนี้มีหนังดีๆให้ดูกันเยอะมาก เพราะใกล้ช่วงงานประกาศผลรางวัลต่างๆด้วย ดีใจนะที่โรงหนังบ้านเราเดี๋ยวนี้เปิดกว้างมากขึ้นเอาหนังสายรางวัลมาฉายกันรัวๆ ใช่จะมีแต่หนังแมสๆ
บอกก่อนเลยว่า ชอบทุกอย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นบท ความแปลกใหม่ การดำเนินเรื่อง เพลง นักแสดง ฯลฯ ไม่ได้อวยนะครับแต่ชอบจริงๆ555 โดยเฉพาะสองนักแสดงนำ และ โดยเฉพาะ เอ็มม่า สโตน ที่ให้การแสดงที่โคตรมีเสน่ห์ และชวนหลงรักได้ง่ายๆ (แล้วพระนางเรื่องนี้ก็พึ่งคว้าลูกโลกทองคำไปคนละลูก)
LaLaLand เป็นหนัง musical ที่ร้องเพลงกันเกือบทั้งเรื่อง หนังออกแนวเพ้อฝันหน่อยๆมีความโอเวอร์นิดๆตามสไตล์หนังเพลง
ตัวหนังใส่มุขเสียดสีและให้ความเคารพแวดวงเพลงและวงการภาพยนตร์มาเยอะอยู่ หากใครที่ฟังเพลงมามากๆหรือดูหนังมาเยอะ(โดยเฉพาะหนังเก่าและเพลงเก่าๆ)ก็น่าจะอินกับประเด็นต่างๆที่หนังหยิบใส่มาได้ไม่ยาก
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือประเด็นที่พูดถึงวัฒนธรรมการฟังเพลงรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ โดยหนังพยายามบอกกับเราว่า เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนศิลปะด้านดนตรี(ในหนังพูดถึงเพลงแจ้ส) ก็ควรเปลี่ยนตามให้เข้ากับยุคสมัย หากยังต้องการรักษาศิลปะดนตรีแขนงนั้นไว้ ก็ควรผสมผสานให้คนรุ่นใหม่ฟังได้และเข้าถึงได้ ทำให้นึกถึงวงการเพลงลูกทุ่งบ้านเราเช่นกันนะเพราะเด่วนี้เพลงลูกทุ่งก็มักจะเป็นลูกทุ่งแบบสมัยใหม่ที่กลายเป็นเพลงป้อปกลายๆเพื่อให้คนรุ่นหลังฟังได้และเข้าถึงง่ายๆ ..... แต่กระนั้นหนังก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ฝั่งที่ขัดแย้ง(อย่างตัวพระเอกที่ก็เกือบถูกวัฒนธรรมสมัยใหม่กลืนกินความเป็นตัวเองไป) และบอกกับเราว่าอีกทีว่ายังไงๆคนที่ชอบศิลปะแบบดั้งเดิมก็มีอยู่นะเว้ย อย่าลืมสิว่าศิลปะไม่ว่าจะด้านไหนมันก็คือศิลปะมันไม่ตายกันไปง่ายๆหรอกหากยังมีคนที่สนใจและคอยรักษามันไว้อยู่แม้จะน้อยนิดก็ตาม
LaLaLand ยังเป็นหนังเพลงที่ว่าด้วยเรื่องความรัก ความฝัน การฝ่าฟันอุปสรรค และเป็นภาพยนตร์ที่ให้แรงบรรดาลใจชั้นดี เป็นหนังที่น่ารักและตลก มีเพลงสนุกๆให้ฟัง มีการแสดงที่เข้าขากันของพระนางให้ดู
เอาเป็นว่า LaLaLand สำหรับผมมันคือภาพยนตร์ที่มหัศจรรย์มาก ต้องชม ผกก ที่กล้านำเสนอให้ออกมาแปลกใหม่และเป็นตัวเองได้ขนาดนี้
เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ต้องลองไปดูกับตาครับ ใครกำลังมีความฝันและอยากได้แรงบรรดาลใจเพื่อจุดประกายในชีวิตก็ควรลองไปดู ใครกำลังมีความรักก็ควรดู กำลังอกหักหรือเศร้าสร้อยยิ่งต้องไปดู ใครชอบฟังเพลงก็จะสนุกไปกับเรื่องนี้ นี่ดูจบยังต้องไปหาเพลงแจ็สมาฟังรัวๆ
บทสรุปของหนัง10นาทีสุดท้าย มันพีคมากๆเอาใจไปเลย อินมาก 555
*****
จุดนี้ สปอยล์
ชอบที่หนังเล่นบอกกับเราว่า คนบางคนเกิดมาเพื่อรักกัน เพื่อเป็นแรงบรรดาลใจ และ แรงผลักดันให้กันและกัน แม้จะไม่ได้เป็นคู่ชีวิตกันก็ตาม