เผยความในใจครั้งแรก..ของครอบครัว(วศิน เหลืองแจ่ม)หลังโจรฆ่าชิงไอโฟน !!!
คิดอย่างไรกับโจรที่ฆ่าวศิน ? คนไทยควรแก้ปัญหานี้อย่างไรที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
เคลียร์ชัด !! วศินทำบุญตั้งเยอะ..ทำไมบุญไม่ช่วย ?
นี่คือ..กรณีศึกษาที่คนไทยทุกคนต้องรู้ด่วนที่สุด
คุณคิดว่า..เรื่องสะเทือนขวัญขนาดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวคุณแค่ไหน ?
หากวันใด..สิ่งนี้มาเกิดกับครอบครัวเราบ้างจะทำใจได้ไหม ?
ถ้าไม่ได้..ต้องทำอย่างไร ที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายต่อไป ?
หลังจากคลิปฆาตกรรมสดไวรัลสะพัดไปในโลกโซเชียลจนเป็นประเด็นสะเทือนขวัญคนไทยภายในชั่วข้ามคืน ทำให้เกิดกระแสจนผู้คนหันมาระวังภัยที่อาจเกิดกับตัวเองมากขึ้น เพราะสิ่งนี้หลายคนก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับตัวเอง เพราะแม้แต่คนใกล้ตัวผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า..เหตุการณ์อันเหี้ยมโหดจะมาเกิดขึ้นกับคนที่เขารักอย่างฉับพลันขนาดนี้ !!!
จากปูมหลังของ ครอบครัวเหลืองแจ่ม เราพบว่า..เป็นครอบครัวมีฐานะเพียบพร้อมที่สมบูรณ์มาก เพราะคุณพ่อมีดีกรีเป็นถึงระดับดอกเตอร์ซึ่งเป็นนักวิจัยระดับประเทศ ที่ถูกเลือกให้ไปทำงานยังประเทศญี่ปุ่น (ดร.เจษฏา เหลืองแจ่ม) ส่วน คุณแม่นิราพร ก็มีจิตวิทยาการเลี้ยงลูกสูง เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเปิดเนอสเซอรี่มามากกว่า 10 ปี จึงทำให้ผู้หญิงคนนี้ทำหน้าที่แม่ได้สมบูรณ์มากๆ จนลูกทั้ง 3 คนได้รับความอบอุ่นอย่างเหลือเฟือ ซึ่งลูกผู้โชคดีนั้นก็คือ แมลงปอ มะปราง และ มะปิน (วศิน) เหยื่อผู้จบชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยวัยเพียง 25 ปี
ว่าไปแล้ว..ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ครอบครัวนี้..จะเป็นครอบครัวในอุดมคติที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะลูกทุกคนเรียนดี มีอาชีพการงานที่ดี และที่สำคัญ..ผู้เป็นพ่อแม่ก็ไม่เคยมีความทุกข์ใจในเรื่องลูกเกเรเลย
คุณอยากรู้ไหม..ว่าครอบครัวนี้ทำอย่างไร ?
คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูมะปินอย่างไร ?
“เนื่องจากคุณตาคุณยายของมะปินปลูกฝังเรื่องธรรมะให้แม่ตั้งแต่เด็กๆ เพราะท่านเข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดด้วยกันทั้งคู่ ด้วยเหตุนี้..พอแม่มีลูก..ก็ได้ปลูกฝังให้ลูกทุกคนรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ และไปวัดตั้งแต่เล็กๆ เหมือนกัน จนกระทั่งมะปินอายุ 13 ปี แม่ก็ให้มะปินบวชสามเณรที่วัดป่า และพออายุครบ 14 ปี มะปินก็ขออนุญาตแม่บวชในโครงการมัชฌิมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนอีก
จากการให้ลูกศึกษาธรรมะนี่เอง ทำให้มะปินเป็นคนจิตใจอ่อนโยน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความสุขในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และเกิดจิตอาสาอยากเข้ามาบำเพ็ญประโยชน์ช่วยงานวัด โดยมาเป็นอาสาสมัครทุกวันอาทิตย์ ซึ่งตรงนี้ทำให้เราหมดห่วง ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะไปติดยา หรือเข้าไปอยู่ในวงจรสุ่มเสี่ยง เพราะการมาวัดเป็นการชักนำให้ลูกไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี อีกทั้งวัดยังมีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์รองรับ จนมะปินถึงกับพูดว่า.. “แม่ครับ..ผมภูมิใจที่ได้เป็นเด็กดีวีสตาร์รุ่น 1 และรู้สึกได้บุญเยอะที่ได้มาเป็นอาสาสมัคร”
จากกิจกรรมตรงนี้เอง..ทำให้มะปินมีพัฒนาการจนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เร็วมาก และพอมะปินเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็มีจิตอาสาเสียสละเพื่อสังคมด้วยตัวเขาเองจากสิ่งที่ถูกหล่อหลอมมาจากวัด
มะปินชอบทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้สังคมหลายอย่าง เช่น ทำงานสโมสรนิสิต จัดค่ายอาสาพัฒนาชนบท ออกไปช่วยเด็กกำพร้า ซึ่งการช่วยเหลือเด็กกำพร้านี้..เป็นสิ่งที่มะปินคุ้นเคยอยู่แล้ว เพราะครอบครัวเราก็รับเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์นำเด็กกำพร้าตั้งแต่เป็นทารกมาช่วยเลี้ยงที่บ้านเหมือนเป็นลูกเราคนหนึ่ง ซึ่งเราก็รับเลี้ยงไปหลายคนแล้ว”
ภูมิใจอะไรในตัวมะปิน ?
“ตลอด 25 ปีที่เรามีลูกอยู่ด้วย เราได้ให้ความรัก ให้เวลา ให้ความอบอุ่นและดูแลมะปินเต็มที่ ทำนองเดียวกันมะปินก็ทำหน้าที่ลูกชายคนเล็กอย่างดีที่สุดเหมือนกัน มะปินเป็นคนที่ห่วงใยและรักครอบครัวมาก เวลาไปไหนมาไหนจะบอกแม่ทุกครั้ง เราจะกอดกันก่อนออกจากบ้าน แม้มะปินเรียนจบ ป.ตรี เริ่มหาประสบการณ์โดยการทำงานแล้ว เราก็ยังทำข้าวกล่องไปให้ลูกกินที่ทำงานด้วยทุกวัน ไม่ใช่เพราะเราไม่มีฐานะที่จะให้ลูกซื้อข้าวกินเอง แต่เป็นเพราะลูกมีความสุขที่จะได้กินข้าวที่ผสมความรักของแม่อยู่ในนั้นด้วย
มะปินเป็นคนเคารพและรักพี่ ๆ มาก เขาจะขับรถคอยไปส่งพี่สาวคนรองเพื่อไปสอนเปียโนทุกวันเสาร์ และไปรับหมาจากพี่สาวคนโตมาดูแลให้ช่วงที่พี่สาวคนโตติดงานอยู่เสมอ
และที่เราภูมิใจที่สุด มะปินได้ทำหน้าที่ลูกชายที่สมบูรณ์ที่สุด คือ บวชพระให้พ่อแม่เองโดยไม่ได้ขอร้องอะไรเขาเลย เราปลื้มที่ลูกบวช เพราะแม้จะรักลูกแค่ไหน เราก็ตามไปดูแลลูกตลอดเวลาไม่ได้ เนื่องจากเราต้องตายจากกันสักวัน แต่การที่มะปินบวชพระ บุญตรงนี้..จะตามดูแลมะปินแทนเรา บุญจะช่วยให้มะปินมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ทุกภพทุกชาติ”
มะปินทำบุญตั้งเยอะ..ทำไมบุญไม่ช่วย ?
เผยความในใจครั้งแรก..ของครอบครัว(วศิน เหลืองแจ่ม)หลังโจรฆ่าชิงไอโฟน !!!
คิดอย่างไรกับโจรที่ฆ่าวศิน ? คนไทยควรแก้ปัญหานี้อย่างไรที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
เคลียร์ชัด !! วศินทำบุญตั้งเยอะ..ทำไมบุญไม่ช่วย ?
นี่คือ..กรณีศึกษาที่คนไทยทุกคนต้องรู้ด่วนที่สุด
คุณคิดว่า..เรื่องสะเทือนขวัญขนาดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวคุณแค่ไหน ?
หากวันใด..สิ่งนี้มาเกิดกับครอบครัวเราบ้างจะทำใจได้ไหม ?
ถ้าไม่ได้..ต้องทำอย่างไร ที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายต่อไป ?
หลังจากคลิปฆาตกรรมสดไวรัลสะพัดไปในโลกโซเชียลจนเป็นประเด็นสะเทือนขวัญคนไทยภายในชั่วข้ามคืน ทำให้เกิดกระแสจนผู้คนหันมาระวังภัยที่อาจเกิดกับตัวเองมากขึ้น เพราะสิ่งนี้หลายคนก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับตัวเอง เพราะแม้แต่คนใกล้ตัวผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า..เหตุการณ์อันเหี้ยมโหดจะมาเกิดขึ้นกับคนที่เขารักอย่างฉับพลันขนาดนี้ !!!
จากปูมหลังของ ครอบครัวเหลืองแจ่ม เราพบว่า..เป็นครอบครัวมีฐานะเพียบพร้อมที่สมบูรณ์มาก เพราะคุณพ่อมีดีกรีเป็นถึงระดับดอกเตอร์ซึ่งเป็นนักวิจัยระดับประเทศ ที่ถูกเลือกให้ไปทำงานยังประเทศญี่ปุ่น (ดร.เจษฏา เหลืองแจ่ม) ส่วน คุณแม่นิราพร ก็มีจิตวิทยาการเลี้ยงลูกสูง เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเปิดเนอสเซอรี่มามากกว่า 10 ปี จึงทำให้ผู้หญิงคนนี้ทำหน้าที่แม่ได้สมบูรณ์มากๆ จนลูกทั้ง 3 คนได้รับความอบอุ่นอย่างเหลือเฟือ ซึ่งลูกผู้โชคดีนั้นก็คือ แมลงปอ มะปราง และ มะปิน (วศิน) เหยื่อผู้จบชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยวัยเพียง 25 ปี
ว่าไปแล้ว..ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ครอบครัวนี้..จะเป็นครอบครัวในอุดมคติที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะลูกทุกคนเรียนดี มีอาชีพการงานที่ดี และที่สำคัญ..ผู้เป็นพ่อแม่ก็ไม่เคยมีความทุกข์ใจในเรื่องลูกเกเรเลย
คุณอยากรู้ไหม..ว่าครอบครัวนี้ทำอย่างไร ?
คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูมะปินอย่างไร ?
“เนื่องจากคุณตาคุณยายของมะปินปลูกฝังเรื่องธรรมะให้แม่ตั้งแต่เด็กๆ เพราะท่านเข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดด้วยกันทั้งคู่ ด้วยเหตุนี้..พอแม่มีลูก..ก็ได้ปลูกฝังให้ลูกทุกคนรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ และไปวัดตั้งแต่เล็กๆ เหมือนกัน จนกระทั่งมะปินอายุ 13 ปี แม่ก็ให้มะปินบวชสามเณรที่วัดป่า และพออายุครบ 14 ปี มะปินก็ขออนุญาตแม่บวชในโครงการมัชฌิมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนอีก
จากการให้ลูกศึกษาธรรมะนี่เอง ทำให้มะปินเป็นคนจิตใจอ่อนโยน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความสุขในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และเกิดจิตอาสาอยากเข้ามาบำเพ็ญประโยชน์ช่วยงานวัด โดยมาเป็นอาสาสมัครทุกวันอาทิตย์ ซึ่งตรงนี้ทำให้เราหมดห่วง ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะไปติดยา หรือเข้าไปอยู่ในวงจรสุ่มเสี่ยง เพราะการมาวัดเป็นการชักนำให้ลูกไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี อีกทั้งวัดยังมีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์รองรับ จนมะปินถึงกับพูดว่า.. “แม่ครับ..ผมภูมิใจที่ได้เป็นเด็กดีวีสตาร์รุ่น 1 และรู้สึกได้บุญเยอะที่ได้มาเป็นอาสาสมัคร”
จากกิจกรรมตรงนี้เอง..ทำให้มะปินมีพัฒนาการจนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เร็วมาก และพอมะปินเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็มีจิตอาสาเสียสละเพื่อสังคมด้วยตัวเขาเองจากสิ่งที่ถูกหล่อหลอมมาจากวัด
มะปินชอบทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้สังคมหลายอย่าง เช่น ทำงานสโมสรนิสิต จัดค่ายอาสาพัฒนาชนบท ออกไปช่วยเด็กกำพร้า ซึ่งการช่วยเหลือเด็กกำพร้านี้..เป็นสิ่งที่มะปินคุ้นเคยอยู่แล้ว เพราะครอบครัวเราก็รับเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์นำเด็กกำพร้าตั้งแต่เป็นทารกมาช่วยเลี้ยงที่บ้านเหมือนเป็นลูกเราคนหนึ่ง ซึ่งเราก็รับเลี้ยงไปหลายคนแล้ว”
ภูมิใจอะไรในตัวมะปิน ?
“ตลอด 25 ปีที่เรามีลูกอยู่ด้วย เราได้ให้ความรัก ให้เวลา ให้ความอบอุ่นและดูแลมะปินเต็มที่ ทำนองเดียวกันมะปินก็ทำหน้าที่ลูกชายคนเล็กอย่างดีที่สุดเหมือนกัน มะปินเป็นคนที่ห่วงใยและรักครอบครัวมาก เวลาไปไหนมาไหนจะบอกแม่ทุกครั้ง เราจะกอดกันก่อนออกจากบ้าน แม้มะปินเรียนจบ ป.ตรี เริ่มหาประสบการณ์โดยการทำงานแล้ว เราก็ยังทำข้าวกล่องไปให้ลูกกินที่ทำงานด้วยทุกวัน ไม่ใช่เพราะเราไม่มีฐานะที่จะให้ลูกซื้อข้าวกินเอง แต่เป็นเพราะลูกมีความสุขที่จะได้กินข้าวที่ผสมความรักของแม่อยู่ในนั้นด้วย
มะปินเป็นคนเคารพและรักพี่ ๆ มาก เขาจะขับรถคอยไปส่งพี่สาวคนรองเพื่อไปสอนเปียโนทุกวันเสาร์ และไปรับหมาจากพี่สาวคนโตมาดูแลให้ช่วงที่พี่สาวคนโตติดงานอยู่เสมอ
และที่เราภูมิใจที่สุด มะปินได้ทำหน้าที่ลูกชายที่สมบูรณ์ที่สุด คือ บวชพระให้พ่อแม่เองโดยไม่ได้ขอร้องอะไรเขาเลย เราปลื้มที่ลูกบวช เพราะแม้จะรักลูกแค่ไหน เราก็ตามไปดูแลลูกตลอดเวลาไม่ได้ เนื่องจากเราต้องตายจากกันสักวัน แต่การที่มะปินบวชพระ บุญตรงนี้..จะตามดูแลมะปินแทนเรา บุญจะช่วยให้มะปินมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ทุกภพทุกชาติ”