สวัสดีค่ะ   วันนี้เราก็จะมาทำมินิรีวิวของกินบริเวณท่าพระจันทร์-วังหลัง-ท่ามหาราช ด้วยงบ300บาท

                   การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังจากเดินออกจากประตูมอฝั่งท่าพระจันทร์แล้ว  
เราก็เดินเลี้ยวขวาและตรงไปเพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปวังหลัง ระหว่างเดินไปขึ้นเรือ กลิ่นหอมๆก็โชยมา เราเลยเดินตามกลิ่นหอมนั้นไป(แฮร่...ไม่ใช่หมานะ) และที่มาของกลิ่นนั้นก็คือ.... ทอดมันปลาหมึกนั่นเอง!!! ไม่รอช้าจึงจัดมา 1 ขีด  คุณลุงกับคุณป้าเจ้าของร้านใจดีมากๆ พูดคุยยิ้มแย้มกับลูกค้าตลอด  ส่วนเรื่องรสชาตินั้นจัดว่าเด็ดเลย เนื้อปลาหมึกแท้ๆเต็มๆคำ เคี้ยวหนึบๆ ราดน้ำจิ้มรสเด็ดของทางร้าน  ลงตัวมากๆ

                             


ร้านนายชาติทอดมันปลาหมึก

เปิดทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์  เวลา09.00-18.00 น.

ขีดละ 25 บาท (1ขีด ได้ 5 ชิ้น)

เบอร์โทรศัพท์ 086-5154008

รสชาติ 4/5 (ขอหักตรงที่แอบเผ็ดไปนิดหน่อย )


หลังจากที่ทานทอดมันปลาหมึกหมดแล้ว คอก็เริ่มแห้ง บังเอิญระหว่างเดินไปขึ้นเรือก็เจอร้านชานมไข่มุกพอดี  เราเลยไม่รอช้าสั่งโกโก้ไข่มุกมา 1 แก้ว ค่าเสียหายสำหรับแก้วนี้ 30 บาท  รสชาติก็เหมือนกับชานมไข่มุกทั่วๆไปเลย




ร้าน Bubble Milk Tea

เปิดทุกวัน

รสชาติ 3/5 (ส่วนตัวรู้สึกว่ายังจืดๆไปหน่อย)


หลังจากซื้อเสร็จ ก็ได้เวลาเดินขึ้นเรือข้ามฟาก ค่าโดยสารคนละ 3 บาท



ใช้เวลานั่งเรือประมาณ3 นาที ก็ถึงท่าวังหลัง



ท้องก็เริ่มร้องพอดี เราเลยรีบตรงดิ่งไปที่ร้านชูชิที่ขึ้นชื่อของวังหลัง ที่ถ้าใครมาแล้วไม่ได้ไป   ถือว่ามาไม่ถึงวังหลัง นั้นก็คือ “อรทัยซูชิ” นั่นเอง  
ก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปในร้าน เราเหลือบไปเห็นร้านแพนเค้ก บวกกับกลิ่นที่หอมชวนซื้อมากๆ เราจึงจัดไปอีก 1 กล่อง  
ซึ่งทางร้านไม่ได้ขายแต่แพนเค้กนะ แต่ยังมีขนมรังผึ้งอีกด้วย




ราคากล่องละ 20 บาท

รสชาติ 4/5 (แพนเค้กนุ่มและหอมดี)


หลังจากที่แวะดูโน่นซื้อนี่มาสักพัก ก็ได้เวลากินซูชิสักที เย่ๆ  เลือกโต๊ะนั่งเรียบร้อยแล้ว บนโต๊ะก็จะมีเมนู กับ ใบสั่งอาหารวางไว้อยู่




สั่งอาหารเสร็จก็รอประมาณ 10 นาที อาหารก็มาเสิร์ฟ (เราสั่งชูชิไป 12 ชิ้น กับ น้ำชาเขียวซึ่งรสหวานไปมากกก) ค่าเสียหายประมาณ 98 บาท
เรากินกันคนละครึ่งกับเพื่อน


ส่วนนี้ของเพื่อนอีกคน ถ่ายทันแค่ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด+ ซุป  ราคา 139 บาท
                                                      

ร้านอรทัยซูชิ

เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.30 น

เบอร์โทรศัพท์084-138-8334 /089774-8716/02866-8828

รสชาติ 2.5/5 (ในส่วนของซูชิรสชาติก็ถือว่าพอใช้ได้กับราคาในประมาณนี้ แต่แอบผิดหวังกับชาเขียวมาก ไม่มีความเป็นชาเขียวเลย
แนะนำว่าอย่าสั่ง แต่ถ้าใครอยากจะลองก็สั่งก็ได้นะ เพราะราคาแค่ 7 บาทเอง ส่วนข้าวแกงกะหรี่ เพื่อนบอกว่าไม่ค่อยอร่อย )


หลังจากกินเสร็จ ก็เจอร้านขนมปัง แอบได้ยินมาว่าเป็นเจ้าเด็ดของที่นี่เหมือนกัน เราได้แต่ยืนถ่ายรูป เพราะคนต่อคิวซื้อเยอะมาก (ไว้คราวหน้ามาใหม่
จะไม่พลาดซื้อชิมแน่นอน)

ร้านวังหลังเบเกอรี่

เปิดทุกวัน เวลา09.30-18.30 น

เบอร์โทรศัพท์ 028661649

รสชาติ  - (ไว้คราวหน้าจะมาบอก)


จากนั้นเราก็เดินเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆ  ก็เจอกับร้านขนมไทย เราจึงไม่พลาดจัดมา 4 ชิ้น ค่าเสียหาย 40 บาท





ร้านขนมไทยกรุงเก่า (วังหลัง)

เปิดทุกวัน เริ่มขายตั้งแต่เที่ยงๆไปจนกว่าของจะหมด (โดยปกติจะหมดประมาณ 4โมง)

เบอร์โทรศัพท์  087-752-1753

รสชาติ 4/5 (หักไป1 คะแนน เพราะบางอย่างพอกินไปเรื่อยๆ รู้สึกว่ามันหวานไปนิดนึง)


พอช้อปปิ้งที่วังหลังเสร็จ เราก็นั่งเรือข้ามฟากไปท่ามหาราชต่อกันเลย  ค่าเรือคนละ 3 บาทเหมือนเดิม  พอลงเรือก็เลยตรงดิ่งไปหาร้านน้ำทันที (แอบหิวน้ำหลังจากกินขนมชั้น) ก็จะเจอกับร้านคอฟฟี่เล็กๆ ชื่อ “pier view cafe”

หลังจากเลือกเมนูได้แล้ว  ก็ยืนรอประมาณ 4 นาที Iced chocolate ก็มาเสิร์ฟ ค่าเสียหายแก้วนี้ 60 บาท


ร้าน pier view cafe

เปิดทุกวัน เวลา08.00-17.30

เบอร์โทรศัพท์ 085 915 3838

รสชาติ 3.5/5 (หักไป1.5 เพราะรู้สึกรสชาติยังกลางๆ ไม่เข้มข้นเท่าที่ควร)


พอดูนาฬิกาอีกทีก็ตกเย็นซะแล้ว.....เราก็เริ่มอิ่มขึ้นมานิดๆ เลยเดินย้อนกลับไปท่าพระจันทร์หาของกินเล่นรองท้องเล็กๆน้อยๆก่อนกลับบ้าน  เดินๆไปเรื่อยๆก็เจอร้านซูชิ (อีกแล้ว)ที่บริเวณหน้าตู้ atm ธนาคารTMB   เป็นซูชิที่ชื้นใหญ่มากๆ (น่าจะใหญ่กว่าอรทัย 1-2 เท่า) ราคาชิ้นละ 13 บาท เราเลยจัดมา 2 ชื้น



ร้านซูชิหน้าแน่น

เปิดทุกวัน เวลา 5 โมงเย็นไปจนกว่าของจะหมด

รสชาติ 4/5 (รสชาติส่วนตัวคิดว่าเหมือนซูชิทั่วๆไป แต่ร้านดูสะอาด)



หลังจากที่หาอะไรกินกันมาทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลากลับบ้าน เราเลยเดินลัดในมหา’ลัยเพื่อไปขึ้นรถเมล์ตรงโรงละครวังหน้า พอเดินไปเรื่อยๆจนถึงบริเวณประตูฝั่งท่าพระอาทิตย์ ก็จะเจอร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง (เจอของกินอีกแล้ววว...) ร้านอาจจะดูโทรมไปบ้าง แต่พอได้ชิม รสชาติก็ใช้ได้เลยทีเดียว



ค่าเสียหายครั้งนี้ 15 บาท

หมูปิ้ง 1 ไม้ ข้าวเหนียว 1 ห่อ

รสชาติ 3/5 (หัก 1 คะแนน เพราะมันไม่ค่อยร้อน แล้วมันหมูก็เยอะไปนิด ปกติเราไม่ชอบมันหมู)

















                        และทั้งหมดนี้ก็คือร้านที่เราไปตะลุยกินกันมา จริงๆแล้วยังมีร้านที่น่าสนใจอีกหลายร้าน ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะคะ นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเราเลย