By มาร์ตี้ แม็คฟราย และ มัตสึโกะ
งดจากการออนแอร์ไปนานหลายเดือนสำหรับซีรีส์ที่หลายคนรอคอยชม เนื่องจากเหตุการณ์ในเรื่องกำลังขมวดปมที่ชวนติดตาม และเรียกได้ว่าเหมือนเป็นโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการเปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนรอคอย อีกทั้งเป็นตอนของตัวละครลับตัวหนึ่งที่เรารู้อะไรเกี่ยวกับตัวละครนี้น้อยมาก พาลไปถึงการคาดเดาว่าการกระทำของตัวละครนี้จะส่งผลบางอย่างต่อเรื่องราวแน่นอน คือตัวละคร ไอ่ หนุ่มที่เทียวไล้เทียวขื่อหญิงหน้าซื่อใจคดอย่าง ซอล
ผลของการหยุดออกอากาศไปนาน
ในคราวแรกคิดว่าไม่มีผลอะไร แต่หากดูจริง ๆ แล้วมีผลไม่มากก็น้อย เพราะซีรีส์ในประเภทนี้ ที่เดินเรื่องราวด้วยปริศนาและการคาดเดา จำเป็นจะต้องรับชมต่อเนื่องจริง ๆ เพราะคนดูยังคงคิดถึงและจดจำรายละเอียดปริศนาหรือแม้แต่ความรู้สึกสงสัยใคร่รู้ ที่ยังอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการหายไปหลายเดือนแบบนี้ ส่งผลต่อความจำ ความรู้สึกติดตาม และอยากรู้ไปโดยปริยาย กลายความรู้สึกในรูปแบบดูไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีข้อสงสัยบางประเด็นถูกเปิดเผยแล้ว แต่กลับไม่ส่งผลต่อการความรู้สึกตกใจ ตื่นเต้น มากเท่าเดิม และอีกส่วนหนึ่งคือ เราอาจจะคาดหวังว่าใน Ep. นี้ น่าจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น
หนุ่มผู้เทิดทูนความรักที่ชื่อ ไอ่
เรารู้จักตัวละครตัวนี้ เพียงแค่ว่า เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชอบซอลอย่างเปิดเผย และดูท่าว่าน่าจะยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายหญิงพอใจ และเป็นตัวละครที่เข้าข่ายของการเป็น "ผู้กระทำ”การที่สุดตามที่ทุกคนคาดเดามาตั้งแต่แรก ซึ่งหากใครได้ชมแล้ว คงจะได้รู้ผลที่ไม่ยากต่อการคาดเดาเท่าไรนัก
จุดสำคัญที่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นจุดด้อยที่สุดของ Ep. นี้ คือตัวละครตัวนี้เองที่คนดูนั้นคาดหวังสูงเกินไป (อาจเพราะใน Ep. ที่ผ่านมา บทหนังวางมิติตัวละครหลักแต่ละตัวได้ดีกว่านี้มาก) เพราะเอาเข้าจริง ตัวละครนี้ถือเป็นตัวละครที่แบนราบที่สุด ไร้มิติที่สุดในบรรดาตัวละครหลักทั้งสามคนก่อนหน้านี้ มันส่งผลถึงความน่าสนใจของตัวละครนี้ที่มีอยู่แต่แรก พอดูต่อไปความน่าสนใจนั้นก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะไม่มีแง่มุมใด ๆ ให้เราให้ตามไปมากกว่านิสัยที่ยอมทุกอย่างเพื่อความรัก ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรที่ชวนให้เจ็บช้ำน้ำใจก็ตาม ประกอบกับเราไม่สามารถเข้าใจได้มากพอว่าทำไมตัวละครนี้ต้องทำขนาดนั้น ทั้งที่รู้ว่าสูญเปล่า เมื่อไม่มีเหตุผลที่คนดูสามารถเห็นได้ คงสรุปได้อย่างเดียวว่า เพราะความรัก ..ทำให้ตาบอด
เหตุของการกระทำที่ไม่แข็งแรงพอ
ปัญหาต่อมาคือ รู้สึกถึงความไม่เพียงพอต่อแรงจูงใจลงมือกระทำการ คือถ้ามองในแง่ของเหตุผลมันอาจจะฟังดูเพียงพอแล้วที่ตัว ไอ่ มีความโกรธแค้นนานะอยู่แล้ว (จากฉากเซอร์ไพรส์วันเกิดซอล) บวกกับความที่อยากจะปกป้องคนที่เรารัก แต่ในแง่ของความรู้สึกของคนดูที่ได้รับชมและรับรู้ความรู้สึกของไอ่กลับรู้สึกว่า เพราะเหตุผลแค่นี้ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ เพราะจริง ๆ แค่ทำให้สลบแล้วลบข้อมูลในมือถือของนานะก็น่าจะเพียงพอแล้ว อาจเพราะเราไม่ค่อยได้เห็นผลกระทบจากสิ่งที่นานะทำกับไอ่รุนแรงสักเท่าไหร่ เราถึงได้ไม่รู้สึกตามไอจริง ๆ ว่า “ต้องทำแบบนี้เท่านั้น”
การกระทำอันน่าสงสัยจาก ซอล
อีกเรื่องที่เป็นปริศนาคือ ทำไมซอลถึงได้เปลี่ยนไปภายในไม่กี่ชั่วโมง จากที่ซอลเป็นดูเป็นคนที่อ่อนแอมากในฉากที่มาขอให้ไอ่ช่วย สู่ฉากที่กลับบ้านมาขอเป็นคนสานต่อแผนการแทนไอ่ ความผิดปกติตรงนี้ทำให้เรารู้สึกว่าซอลต้องมั่นใจในอะไรสักอย่างและที่ขอสานต่อแผนการต่อไม่ได้เป็นเพราะเป็นห่วงไอจริง ๆ และชวนให้คาดหวังต่อไปว่า ในตอนต่อไป ไอ่อาจได้เป็นแพะ (เพราะชวนให้คิดแบบนั้นจริง ๆ บวกกับส่วนตัวอยากเห็นผลของการกระทำของไอ่ที่หลงซอลจนเกินไป) ต้องรอดูในตอนสุดท้ายว่า อะไรทำให้ซอลตัดสินใจลงมือฆ่านานะ และไอ่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อซอลจะได้ความรักจากซอลกลับมาสมใจรึเปล่า (แต่อยากให้เป็นตรงกันข้าม)
การกำกับและบางอย่างที่ดูประดักประเดิด
ในแง่ของการกำกับใน Ep. นี้โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเรียบและธรรมดาเกินไป ไม่รู้สึกถึงกระบวนการทางภาพยนตร์มันเร้าความรู้สึกเท่าไรเลย กลับรู้สึกว่าสิ่งที่ทำหน้าที่สร้างความรู้สึกให้เราอยู่ตลอดเวลาคือดนตรีประกอบและตัวบทซีรีส์ (ที่ก็นับว่าราบเรียบเหลือเกินใน Ep. นี้) ส่วนด้านการแสดงยังทำหน้าที่ได้ยังไม่ดีและไม่หนักแน่นเท่าตอนก่อนหน้า นอกจากนั้นยังมีการตัดต่อของฉากในโรงหนัง ที่เลือกเสียงจากฉากในหนังเรื่อง แฟนเดย์ ได้ไม่เข้ากับบรรยากาศและสถานการณ์เอาเสียเลย ทำให้เป็นตอนที่รู้สึกว่าถ้าไม่มีดนตรีประกอบและตัวบทที่น่าสนใจอยู่แล้ว มันคงเป็น Ep. ที่ทำให้เราอยากกด Pause แล้วเปลี่ยน tap เป็น Facebook ได้แน่ ๆ
แต่ข้อดีที่เห็นชัด คือตัวบทและการวางรายละเอียดปมของทีมเขียนบท ยังต้องบอกตามตรงว่าส่วนที่พาคนดูให้คาดเดาไปต่าง ๆ นานา นั้นหลอกคนดูได้ดีเหลือเกิน เพราะกับเรื่องราวใน Ep. นี้ คงทำให้หลายคนเงิบไปตาม ๆ กันกับการคาดเดาไปไกลถึงคนนั้นคนนี้ซะเป็นตุเป็นตะ สุดท้ายคำตอบก็อยู่ใกล้เสียจนไม่รู้จะคิดไปไกลให้เหนื่อยทำไม ซึ่งไม่ว่าจะมีจุดด้อย ๆใด ๆ ตามแต่ละตอน แต่หน้าที่ของบทที่ทีมเขียนบทวางไว้นั้นยังทำหน้าที่ตลอดเวลา
ในอาทิตย์หน้าก็เป็นบทสรุปสุดท้ายแล้ว สำหรับเรื่องราวฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ที่เฝ้ารออยากรู้คำตอบกันมานาน กับตัวละครสุดท้ายอย่าง ซอล ที่อยากจะเห็นเหลือเกินถึงแรงจูงใจที่แท้จริง และความลึกสุดก้นบึ้งจิตใจอันมืดหม่น นั้นจะลึกสักแค่ไหน
ขอบคุณรูปจาก Fanpage FB : hateloveseries
หากอ่านแล้วชอบ ติดตามบทความจากภาพยนตร์และซีรีส์ได้ที่
https://www.facebook.com/thelastseatsontheleft/ นะครับ
I Hate You I Love You EP.4 : ความรักมันทำให้ตาบอด
By มาร์ตี้ แม็คฟราย และ มัตสึโกะ
งดจากการออนแอร์ไปนานหลายเดือนสำหรับซีรีส์ที่หลายคนรอคอยชม เนื่องจากเหตุการณ์ในเรื่องกำลังขมวดปมที่ชวนติดตาม และเรียกได้ว่าเหมือนเป็นโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการเปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนรอคอย อีกทั้งเป็นตอนของตัวละครลับตัวหนึ่งที่เรารู้อะไรเกี่ยวกับตัวละครนี้น้อยมาก พาลไปถึงการคาดเดาว่าการกระทำของตัวละครนี้จะส่งผลบางอย่างต่อเรื่องราวแน่นอน คือตัวละคร ไอ่ หนุ่มที่เทียวไล้เทียวขื่อหญิงหน้าซื่อใจคดอย่าง ซอล
ผลของการหยุดออกอากาศไปนาน
ในคราวแรกคิดว่าไม่มีผลอะไร แต่หากดูจริง ๆ แล้วมีผลไม่มากก็น้อย เพราะซีรีส์ในประเภทนี้ ที่เดินเรื่องราวด้วยปริศนาและการคาดเดา จำเป็นจะต้องรับชมต่อเนื่องจริง ๆ เพราะคนดูยังคงคิดถึงและจดจำรายละเอียดปริศนาหรือแม้แต่ความรู้สึกสงสัยใคร่รู้ ที่ยังอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการหายไปหลายเดือนแบบนี้ ส่งผลต่อความจำ ความรู้สึกติดตาม และอยากรู้ไปโดยปริยาย กลายความรู้สึกในรูปแบบดูไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีข้อสงสัยบางประเด็นถูกเปิดเผยแล้ว แต่กลับไม่ส่งผลต่อการความรู้สึกตกใจ ตื่นเต้น มากเท่าเดิม และอีกส่วนหนึ่งคือ เราอาจจะคาดหวังว่าใน Ep. นี้ น่าจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น
หนุ่มผู้เทิดทูนความรักที่ชื่อ ไอ่
เรารู้จักตัวละครตัวนี้ เพียงแค่ว่า เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชอบซอลอย่างเปิดเผย และดูท่าว่าน่าจะยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายหญิงพอใจ และเป็นตัวละครที่เข้าข่ายของการเป็น "ผู้กระทำ”การที่สุดตามที่ทุกคนคาดเดามาตั้งแต่แรก ซึ่งหากใครได้ชมแล้ว คงจะได้รู้ผลที่ไม่ยากต่อการคาดเดาเท่าไรนัก
จุดสำคัญที่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นจุดด้อยที่สุดของ Ep. นี้ คือตัวละครตัวนี้เองที่คนดูนั้นคาดหวังสูงเกินไป (อาจเพราะใน Ep. ที่ผ่านมา บทหนังวางมิติตัวละครหลักแต่ละตัวได้ดีกว่านี้มาก) เพราะเอาเข้าจริง ตัวละครนี้ถือเป็นตัวละครที่แบนราบที่สุด ไร้มิติที่สุดในบรรดาตัวละครหลักทั้งสามคนก่อนหน้านี้ มันส่งผลถึงความน่าสนใจของตัวละครนี้ที่มีอยู่แต่แรก พอดูต่อไปความน่าสนใจนั้นก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะไม่มีแง่มุมใด ๆ ให้เราให้ตามไปมากกว่านิสัยที่ยอมทุกอย่างเพื่อความรัก ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรที่ชวนให้เจ็บช้ำน้ำใจก็ตาม ประกอบกับเราไม่สามารถเข้าใจได้มากพอว่าทำไมตัวละครนี้ต้องทำขนาดนั้น ทั้งที่รู้ว่าสูญเปล่า เมื่อไม่มีเหตุผลที่คนดูสามารถเห็นได้ คงสรุปได้อย่างเดียวว่า เพราะความรัก ..ทำให้ตาบอด
เหตุของการกระทำที่ไม่แข็งแรงพอ
ปัญหาต่อมาคือ รู้สึกถึงความไม่เพียงพอต่อแรงจูงใจลงมือกระทำการ คือถ้ามองในแง่ของเหตุผลมันอาจจะฟังดูเพียงพอแล้วที่ตัว ไอ่ มีความโกรธแค้นนานะอยู่แล้ว (จากฉากเซอร์ไพรส์วันเกิดซอล) บวกกับความที่อยากจะปกป้องคนที่เรารัก แต่ในแง่ของความรู้สึกของคนดูที่ได้รับชมและรับรู้ความรู้สึกของไอ่กลับรู้สึกว่า เพราะเหตุผลแค่นี้ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ เพราะจริง ๆ แค่ทำให้สลบแล้วลบข้อมูลในมือถือของนานะก็น่าจะเพียงพอแล้ว อาจเพราะเราไม่ค่อยได้เห็นผลกระทบจากสิ่งที่นานะทำกับไอ่รุนแรงสักเท่าไหร่ เราถึงได้ไม่รู้สึกตามไอจริง ๆ ว่า “ต้องทำแบบนี้เท่านั้น”
การกระทำอันน่าสงสัยจาก ซอล
อีกเรื่องที่เป็นปริศนาคือ ทำไมซอลถึงได้เปลี่ยนไปภายในไม่กี่ชั่วโมง จากที่ซอลเป็นดูเป็นคนที่อ่อนแอมากในฉากที่มาขอให้ไอ่ช่วย สู่ฉากที่กลับบ้านมาขอเป็นคนสานต่อแผนการแทนไอ่ ความผิดปกติตรงนี้ทำให้เรารู้สึกว่าซอลต้องมั่นใจในอะไรสักอย่างและที่ขอสานต่อแผนการต่อไม่ได้เป็นเพราะเป็นห่วงไอจริง ๆ และชวนให้คาดหวังต่อไปว่า ในตอนต่อไป ไอ่อาจได้เป็นแพะ (เพราะชวนให้คิดแบบนั้นจริง ๆ บวกกับส่วนตัวอยากเห็นผลของการกระทำของไอ่ที่หลงซอลจนเกินไป) ต้องรอดูในตอนสุดท้ายว่า อะไรทำให้ซอลตัดสินใจลงมือฆ่านานะ และไอ่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อซอลจะได้ความรักจากซอลกลับมาสมใจรึเปล่า (แต่อยากให้เป็นตรงกันข้าม)
การกำกับและบางอย่างที่ดูประดักประเดิด
ในแง่ของการกำกับใน Ep. นี้โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเรียบและธรรมดาเกินไป ไม่รู้สึกถึงกระบวนการทางภาพยนตร์มันเร้าความรู้สึกเท่าไรเลย กลับรู้สึกว่าสิ่งที่ทำหน้าที่สร้างความรู้สึกให้เราอยู่ตลอดเวลาคือดนตรีประกอบและตัวบทซีรีส์ (ที่ก็นับว่าราบเรียบเหลือเกินใน Ep. นี้) ส่วนด้านการแสดงยังทำหน้าที่ได้ยังไม่ดีและไม่หนักแน่นเท่าตอนก่อนหน้า นอกจากนั้นยังมีการตัดต่อของฉากในโรงหนัง ที่เลือกเสียงจากฉากในหนังเรื่อง แฟนเดย์ ได้ไม่เข้ากับบรรยากาศและสถานการณ์เอาเสียเลย ทำให้เป็นตอนที่รู้สึกว่าถ้าไม่มีดนตรีประกอบและตัวบทที่น่าสนใจอยู่แล้ว มันคงเป็น Ep. ที่ทำให้เราอยากกด Pause แล้วเปลี่ยน tap เป็น Facebook ได้แน่ ๆ
แต่ข้อดีที่เห็นชัด คือตัวบทและการวางรายละเอียดปมของทีมเขียนบท ยังต้องบอกตามตรงว่าส่วนที่พาคนดูให้คาดเดาไปต่าง ๆ นานา นั้นหลอกคนดูได้ดีเหลือเกิน เพราะกับเรื่องราวใน Ep. นี้ คงทำให้หลายคนเงิบไปตาม ๆ กันกับการคาดเดาไปไกลถึงคนนั้นคนนี้ซะเป็นตุเป็นตะ สุดท้ายคำตอบก็อยู่ใกล้เสียจนไม่รู้จะคิดไปไกลให้เหนื่อยทำไม ซึ่งไม่ว่าจะมีจุดด้อย ๆใด ๆ ตามแต่ละตอน แต่หน้าที่ของบทที่ทีมเขียนบทวางไว้นั้นยังทำหน้าที่ตลอดเวลา
ในอาทิตย์หน้าก็เป็นบทสรุปสุดท้ายแล้ว สำหรับเรื่องราวฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ที่เฝ้ารออยากรู้คำตอบกันมานาน กับตัวละครสุดท้ายอย่าง ซอล ที่อยากจะเห็นเหลือเกินถึงแรงจูงใจที่แท้จริง และความลึกสุดก้นบึ้งจิตใจอันมืดหม่น นั้นจะลึกสักแค่ไหน
ขอบคุณรูปจาก Fanpage FB : hateloveseries
หากอ่านแล้วชอบ ติดตามบทความจากภาพยนตร์และซีรีส์ได้ที่ https://www.facebook.com/thelastseatsontheleft/ นะครับ