·ปี 2529 เล่นฟุตบอลให้สโมสรสินธนา (ชื่อเดิม ทีมบางเตยสุวรรณน้อย )
·ปี 2532 ติดทีมชาติไทย คนแรกของสโมสรฯ ( ตำแหน่งกองหน้า )
·ปี 2533 เล่นฟุตบอลอาชีพใน มาเลเซีย ลีก (ในนามทีมชาติบรูไนฯ)
·ปี 2536 เล่นฟุตบอลอาชีพใน บังคลาเทศ ลีก
· ปี 2544 เข้าอบรมโค้ชต้นแบบ “ซี ไลเซนส์”
· ปี 2545 ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรสินธนา และเข้าอบรมโค้ช “บี ไลเซนส์”
·ปี 2546 เข้าอบรมโค้ช “เอ ไลเซนส์”
·ปี 2547 เข้าอบรมโค้ชเยาวชนโดยเฉพาะ “Youth Coach” กับโค้ชของอะคาเดมี่ ในเครือของสโมสรอินเตอร์ มิลาน ประเทศอิตาลี
·ปี 2548 เป็นผู้จัดการฝ่ายกีฬาของ โรงเรียนสอนฟุตบอล อินเตอร์ แคมปัส ประจำประเทศไทย
· ปี 2549 เปิดสถาบันสอนลูกหนัง อินเตอร์ ไทยแลนด์
·ปัจจุบัน ผู้อำนวยการสถาบันอินเตอร์ ไทยแลนด์
“เขาเกิดจากที่นี่ พ่อกับแม่ เป็นลูกจ้างรดน้ำสนามหญ้า เขามายืนมองผมสอนฟุตบอลให้เด็กๆคนอื่น เขาอยากฝึกฟุตบอลให้เขา คือมาแบบเท้าเปล่าเลย ชุดบอลก็ไม่มี ผมเป็นคนหาให้ แต่ผมบอกว่ายังเด็กเกินไป รอให้โตกว่านี้ก่อน เขาก็ไม่ยอม ผมเลยบอกว่าถ้าอยากฝึกกับผม เดาะบอลให้ได้ 10 ครั้งก่อน เขาก็กลับไปฝึกจนทำได้ ผมเลยรับให้เขามาฝึกช่วงเสาร์-อาทิตย์ เพราะวันธรรมดาผมจะฝึกเด็กที่อายุเยอะกว่ามาก”
“แต่เขาอยากฝึกวันธรรมดาด้วย ผมเลยทำเหมือนเส้าหลินว่า ถ้าอยากให้ผมรับเป็นศิษย์ ต้องผ่านบททดสอบก่อน ถ้าน้องพีอยากฝึกวันธรรมดา ไปยิงบอลชนคานให้ได้ เขาก็พยายามอยู่เป็นปีกว่าจะยิงโดน ช่วงระหว่างนั้นผมก็ให้ทำโน้น ทำนี้ เพื่อทดสอบ และเราก็ได้เห็นว่า น้องเป็นเด็กที่มีความพยายามสูง ทำให้เขาเก่งเกินวัย” อาจารย์ สมบัติ กล่าวต่อ
“สิ่งที่เขาโดดเด่นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน คงเป็นเท้าซ้ายของเขาที่มีพละกำลังมาก เขาสามารถยิงฟรีคิกได้ดีมาก ทั้งน้ำหนักและทิศทาง ซึ่งเขาอยากเป็นแบบ ลิโอเนล เมสซี่ เพราะเป็นนักเตะรูปร่างเล็กเหมือนกับเขา การที่เขาเตะชนคานได้เท่ากับว่าน้องมีความแม่นยำ แต่เขาต้องเรียนรู้อีกเยอะมากหากในเรื่องของเกม การเล่นเพรสซิ่ง การแย่งบอล ทักษะต่างๆ เพราะฟุตบอลไม่ได้มีแค่นั้น”
ส่วนเรื่องโอกาสในการได้สัญชาติไทย ของ น้องพี สุวิน นั้น อาจารย์สมบัติ เชื่อว่าอนาคตหากน้องสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ ก็น่าจะรับความช่วยเหลือในเรื่องนี้ “เขาเป็นเด็กสัญชาติมอญ ไม่มีนามสกุล ชื่อจริง สุวิน ก็มาจากชื่อพ่อและแม่รวม พ่อชื่อสุ แม่ชื่อวิน แต่คิดว่าในอนาคตหากเขายังพัฒนาตัวเองขึ้นไป ทุกคนก็คงอยากเห็นเขาติดทีมชาติไทย และเขาน่าจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในเรื่องของสัญชาติต่อไป”
เครดิตที่มา โกลไทยแลนด์
http://m.goal.com/s/th/news/4280/ฟุตบอลไทย/2017/01/08/31266482/ลูกคนงานรดน้ำ-อสมบัติเผยน้องพีมาเท้าเปล่าขอเข้าอะคาเดมี่?utm_referrer=https%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2F
ประวัติโค้ช อ.สมบัติ ลีกำเนิดไทย ผู้สอนน้องพียิงฟรีคิกชนคาน
·ปี 2532 ติดทีมชาติไทย คนแรกของสโมสรฯ ( ตำแหน่งกองหน้า )
·ปี 2533 เล่นฟุตบอลอาชีพใน มาเลเซีย ลีก (ในนามทีมชาติบรูไนฯ)
·ปี 2536 เล่นฟุตบอลอาชีพใน บังคลาเทศ ลีก
· ปี 2544 เข้าอบรมโค้ชต้นแบบ “ซี ไลเซนส์”
· ปี 2545 ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรสินธนา และเข้าอบรมโค้ช “บี ไลเซนส์”
·ปี 2546 เข้าอบรมโค้ช “เอ ไลเซนส์”
·ปี 2547 เข้าอบรมโค้ชเยาวชนโดยเฉพาะ “Youth Coach” กับโค้ชของอะคาเดมี่ ในเครือของสโมสรอินเตอร์ มิลาน ประเทศอิตาลี
·ปี 2548 เป็นผู้จัดการฝ่ายกีฬาของ โรงเรียนสอนฟุตบอล อินเตอร์ แคมปัส ประจำประเทศไทย
· ปี 2549 เปิดสถาบันสอนลูกหนัง อินเตอร์ ไทยแลนด์
·ปัจจุบัน ผู้อำนวยการสถาบันอินเตอร์ ไทยแลนด์
“เขาเกิดจากที่นี่ พ่อกับแม่ เป็นลูกจ้างรดน้ำสนามหญ้า เขามายืนมองผมสอนฟุตบอลให้เด็กๆคนอื่น เขาอยากฝึกฟุตบอลให้เขา คือมาแบบเท้าเปล่าเลย ชุดบอลก็ไม่มี ผมเป็นคนหาให้ แต่ผมบอกว่ายังเด็กเกินไป รอให้โตกว่านี้ก่อน เขาก็ไม่ยอม ผมเลยบอกว่าถ้าอยากฝึกกับผม เดาะบอลให้ได้ 10 ครั้งก่อน เขาก็กลับไปฝึกจนทำได้ ผมเลยรับให้เขามาฝึกช่วงเสาร์-อาทิตย์ เพราะวันธรรมดาผมจะฝึกเด็กที่อายุเยอะกว่ามาก”
“แต่เขาอยากฝึกวันธรรมดาด้วย ผมเลยทำเหมือนเส้าหลินว่า ถ้าอยากให้ผมรับเป็นศิษย์ ต้องผ่านบททดสอบก่อน ถ้าน้องพีอยากฝึกวันธรรมดา ไปยิงบอลชนคานให้ได้ เขาก็พยายามอยู่เป็นปีกว่าจะยิงโดน ช่วงระหว่างนั้นผมก็ให้ทำโน้น ทำนี้ เพื่อทดสอบ และเราก็ได้เห็นว่า น้องเป็นเด็กที่มีความพยายามสูง ทำให้เขาเก่งเกินวัย” อาจารย์ สมบัติ กล่าวต่อ
“สิ่งที่เขาโดดเด่นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน คงเป็นเท้าซ้ายของเขาที่มีพละกำลังมาก เขาสามารถยิงฟรีคิกได้ดีมาก ทั้งน้ำหนักและทิศทาง ซึ่งเขาอยากเป็นแบบ ลิโอเนล เมสซี่ เพราะเป็นนักเตะรูปร่างเล็กเหมือนกับเขา การที่เขาเตะชนคานได้เท่ากับว่าน้องมีความแม่นยำ แต่เขาต้องเรียนรู้อีกเยอะมากหากในเรื่องของเกม การเล่นเพรสซิ่ง การแย่งบอล ทักษะต่างๆ เพราะฟุตบอลไม่ได้มีแค่นั้น”
ส่วนเรื่องโอกาสในการได้สัญชาติไทย ของ น้องพี สุวิน นั้น อาจารย์สมบัติ เชื่อว่าอนาคตหากน้องสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ ก็น่าจะรับความช่วยเหลือในเรื่องนี้ “เขาเป็นเด็กสัญชาติมอญ ไม่มีนามสกุล ชื่อจริง สุวิน ก็มาจากชื่อพ่อและแม่รวม พ่อชื่อสุ แม่ชื่อวิน แต่คิดว่าในอนาคตหากเขายังพัฒนาตัวเองขึ้นไป ทุกคนก็คงอยากเห็นเขาติดทีมชาติไทย และเขาน่าจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในเรื่องของสัญชาติต่อไป”
เครดิตที่มา โกลไทยแลนด์
http://m.goal.com/s/th/news/4280/ฟุตบอลไทย/2017/01/08/31266482/ลูกคนงานรดน้ำ-อสมบัติเผยน้องพีมาเท้าเปล่าขอเข้าอะคาเดมี่?utm_referrer=https%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2F