เรารักเขา..ที่นาคูหา
เพราะเขา.. คือลมหายใจ ให้โอโซนที่บริสุทธิ์
เพราะเขา..คือป่าไม้และสายน้ำ
เพราะเขา..คือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่น่าหลงใหล และเขายังมีดอกซากุระสุดสวย เป็นที่ตั้งพระธาตุอินแขวน มีถ้ำที่อันซีนๆ มีผาหัวสิงห์ที่ชวนให้ไปพิชิต มีสวนสตอเบอรี่ มีแหล่งปลูก ต้นห้อมชั้นดี เฮ้ย! เขา..ไม่ธรรมดานะ ที่นี่..ไปเลยกันดีกว่า
#แพร่ #phrae.tv #เที่ยวแพร่ #icemedia #นาคูหา

ชิวๆ ควบมอเตอร์ไซค์สัมผัสอากาศเย็นสบาย สูดโอโซนเต็มปอด ตลอดเส้นทาง วันนี้เราออกเดินทางจากตัวอำเภอเมืองจังหวัดแพร่มาประมาณ 25 กิโลเมตร ก็จะถึง จุดแรกที่เราหยุดชมวิวข้าง ก่อนถึงพระธาตุอินแขวน ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขาอันเขียวขจีพร้อมเมฆหมอกที่ปกคลุมสุดแสนสดชื่น  ด้วยเส้นทางที่เป็นถนนลาดยางตลอดสายช่วงท้ายเส้นทางจะเริ่มแคบลง การขับขี่ควรใช้ความระมัดระวังนะคะ

วัดพระธาตุอินทร์แขวนพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีจอวันที่เรามานี้กำลังมีพิธี บรรจุหัวใจรูปหล่อพระมหาโพธิวงศาจารย์ ตุ๊ลุงจี๋ ผู้ก่อตั้ง ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ และพิธีวันนี้มีนายวัฒนา พุฒิชาติผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธี (ในภาพ) พิกัด gps18.115988, 100.299377

และเมื่อเดินลงมาด้านข้างอีกเพียงนิดเดียวจะพบกับบันไดซึ่งจะพาเราไปชมดอกซากุระซึ่งกำลังเบ่งบานโดยมี 18 ต้นนี้ นำมาจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ทำให้เรารู้ว่า อากาศที่นี่บริสุทธิ์เย็นสดชื่นทำให้ดอกซากุระเบ่งบานได้อย่างสวยงาม

เขา..มีดอกซากุระที่สุดสวย สีชมพู love love นับเป็นโชคดีของเราที่ได้เห็น เพราะนี่คือ การบานของดอกซากุระครั้งแรกที่จังหวัดแพร่ทำให้เรารู้ว่าที่นี่มีโอโซนสุดยอดอุณหภูมิสบายสบายเหมาะสมแก่การปลูกต้นซากุระ ได้ดี

มาถึงแล้วค่ะวัดนาคูหา วัดเล็กๆท่ามกลางหุบเขาที่เงียบสงบ แล้วมากราบพระด้วยกันนะคะ พิกัด GPS 18.127961, 100.318089

ภายในวิหารมีพระประธาน พุทธศิลป์แบบพื้นถิ่นที่ดูเรียบง่ายแต่ยังคง งดงามเอกลักษณ์แบบล้านนา

เงียบสงบงดงาม วันนี้เป็นวันหยุดช่วงขึ้นปีใหม่มีประชาชนและนักท่องเที่ยว มาเยี่ยมชม และกราบพระ อยู่เป็นระยะ

เรากำลังจะไปหา..เขา เพราะที่เขามีถ้ำน้อยและมีธารแก้วน้ำตก ที่เล่าต่อกันมาว่างดงามแวววาวสุดๆ เรามาที่วัดนาคูหา แล้วจะเดินไปเที่ยวถ้ำต้องมีคนพานำทางไปนะเพื่อความปลอดภัย ซึ่งชาวบ้านที่นี่เขาจัดบริการนำเที่ยวไว้ค่ะ เพียง 200 บาท ตอนนี้มี 2 คนเบอร์ติดต่อจากนี้นะจา
0903200789 น้อยอ๊อด/0642351430 สาคร : สิ่งที่ต้องเตรียมไปเมื่อจะไปเที่ยวถ้ำ 1 น้ำคนละ 1 ขวด  :  2 ไฟฉาย และร่างกายที่ฟิตพอสมควรนะจ๊ะ

เดินออกมาจากวัดประมาณ 500 เมตรก็จะเริ่มขึ้นเนินกันนาจา บริเวณนี้มีไม้เท้าให้ยืมใช้ต้องพกไปด้วยนะครับช่วยได้เยอะแนะนำ

หนุ่มมะเด่น ไกด์ นำทางสุดหล่อของเราในวันนี้กำลังบอกว่า เป้าหมายของเราต่อไปอยู่โน่นนาจา oh !

ทางเดินเป็นลักษณะบันไดดินซึ่งชาวบ้านที่นี่ช่วยกันทำพึ่งใหม่ๆเพื่อการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยขึ้น วันนี้ทีมเราต้องแบก น้ำหนักกว่าเกือบร้อยกิโลกันเลย! น้ำหนักคนแบกรวมอุปกรณ์นะจ๊ะ

ช่วงต่อมา จะเริ่มเข้าสู่ใต้ร่มไม้ ลักษณะเป็นป่าไผ่ ทางเดินจะแคบลงเหลือประมาณไม่เกิน 1 เมตร

แล้วก็มาถึงช่วงทางชัน ถ้าขึ้นแนวตรง ก็เรียกว่าเกือบ 90 องศา กันเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ เราต้อง เดินสลับ วนวนกันไป เป็นลักษณะฟันปลาขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงนี้สำหรับเราถือว่าเป็นประมาณ หอบที่ 3 (เหนื่อยๆ) ช่วงนี้รู้เลยว่าไม้เท้ามีประโยชน์มาก


ประตูหิน จุดพักถ่ายรูป จุดพักเหนื่อยที่ 2 ของเรา ยังสามารถเช็คอินกันได้ด้วยเครือข่ายทรูนะคะ

และแล้วก็มาถึงปากถ้ำน้อยใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ฮ่าๆ 59 นาทีเอง ช่วงท้ายพักกันบ่อยมาก ประมาณว่าขึ้นบันไดตึกประมาณ 15 ชั้น
แต่พักเหนื่อยทุก 3 ชั้น

กล้องแบกมาแล้วก็ต้องถ่ายบันทึกความทรงจำความประทับใจ เอาไปไว้ฝากเพื่อนๆชมกัน ให้ได้นะครับ

ทางเข้าปากถ้ำน้อย ช่วงแรกจะแคบต้องย่อตัว เพื่อผ่านไปเข้า ช่วงนี้มองไปข้างหน้าก็เริ่มไม่เห็นอะไรแล้วมืดมาก ลุ้นๆ

ถ้ำ ช่วงแรกมีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ความกว้างประมาณ 5 เมตรลึกประมาณ 20 เมตรเห็นจะได้ ช่วงนี้ถ้าปิดไฟก็คือมือสนิทเลย โชคดีที่เราพอมีอุปกรณ์ไฟฉายติดมา 2 อัน 1 หน้าขึ้นมองเพดานจะมีลวดลายที่เกิดจาก หินงอกหินย้อยอยู่ทั่วผนังถ้ำ บางแห่งยังมีน้ำหยดรวมถึงยังมี เห็นงอกที่มีน้ำไหลออกมา อีกหลายจุด

มื่อเดินมาตาม ถ้ำช่วงแรก สุดทางที่ 20 เมตรแล้ว ทางขวามือ จะมีลักษณะเหมือนประตูห้อง ที่เชื่อมไปอีกถ้ำ ตรงนี้พวกเรายิ่งตื่นเต้น เพราะมองไม่เห็นเลยว่า อีกฝั่งจะมีอะไรอยู่ มองเห็นลางๆเหมือน มีลักษณะ หลุมลึกลงไป

ตะลึง และเมื่อเราตั้งกล้อง ถ่ายภาพโดยใช้เทคนิคถ่ายในที่มืด และใช้ไฟที่นำมาด้วยส่องสว่างช่วย ภาพที่ปรากฏ ก็ต้องร้องโอ้โห "ธารแก้วน้ำตก" ปรากฏอยู่ตรงหน้า ส่องระยิบระยับสู้แสง งดงามมาก อันซีนสุดๆไปเลยสำหรับเราในวันนี้ คุ้มค่าหายเหนื่อย ภาพนี้ในความเป็นจริงแทบมองไม่เห็นอะไร นะครับถ่ายภาพโดยเปิดหน้ากล้องไว้ 25 วินาที

หลังจากออกจากถ้ำข้างทางเราก็พบ ดอกไม้ดอกนี้เลยถ่ายมาฝากกันครับใครทราบบ้างว่าคือดอกอะไร

พักถ่ายรูปขาลง จุดนี้จะ มองเห็นหมู่บ้านนาคูหา ที่อยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา อันเขียวขจี

เขา..ยังมีต้นจันทร์ผา  กระจายอยู่ทั่วภูเขาทั้งลูก กันเลยนะจ๊ะ

ดอกงา ที่ถูกตัดมาตากแห้งไว้ บริเวณเชิงเขา

พี่ เจ้าของสวน กำลังทุบก้านต้นงาเพื่อให้ดอกงาร่วงลงในกระสอบ

ได้แล้วจ้าเมล็ดงา ขนานละ 50 บาท ที่เราใช้ตำกับข้าวเหนียวเป็น ข้าวนึกงา ไงจ้า

พระพุทธรูปองค์ใหญ่ เหลืองอร่าม งดงามท่ามกลาง ขุนเขา

ไหว้พระขอพรก่อนเดินทางกลับ

โรงเรียนบ้านนาคูหา ตรงเข้าไปขวามือจะมี ทางลาดลงไป ที่สวนห้อม สวนสตอเบอรี่ สวนกาแฟ พิกัด : 18.125945, 100.315985

ต้นห้อม เจริญเติบโตได้ดีที่บ้านนาคูหาแห่งนี้ ที่จะนำใบไปมากแล้วจะเกิดเป็นสีน้ำเงิน ใช้ยอมเป็นผ้าหม้อห้อม
พิกัด 18.125723, 100.315992

ใบของต้นหอมที่หมักแล้วจะนำมากรองเพื่อเอาเนื้อสี ในห้องนี้กันนะจ๊ะ

สีจากต้นห้อม ที่พร้อมจำหน่ายแล้ว กิโลละ 300 บาท ถุงนี้นำหนัก 2 กิโล 600 บาทนะจ๊ะ ช่วงนี้เรียกว่ามีเท่าไหร่เหมาหมด ไม่พอขาย wow นึกแล้วก็อยากจะมีที่สัก 1 ไร่ ที่บ้านนาคูหา ไว้ปลูกในห้อมขายเหมือนกันนะเนี่ย


ต้นกาแฟ พันธุ์อาราบิก้า ก็เจริญเติบโตได้ดีที่นี่ กำลังออกเมล็ดกาแฟเต็มต้นเลย

สวนสตอเบอรี่ เขา...ก็มี

เขา..มีสตอเบอรี่ รสอมเปรี้ยว อมหวาน ชิมแล้วอร่อยเวอร์

นี่คือบ่อเต่าซึ่งที่บ้านนาคูหานี้มีอยู่หลายแห่ง ทำให้เรารู้ว่าธรรมชาติที่นี่ค่อนข้างจะบริสุทธิ์สะอาด เนื่องจากเตาหรือสาหร่ายน้ำจืด จะขึ้นเฉพาะน้ำที่สะอาดเท่านั้นนะจ๊ะ  พิกัด 18.118125, 100.303488

เตาหรือสาหร่ายน้ำจืดกำลังถูกแปรรูปมาเป็นข้าวเกรียบเตา และบรรจุเพื่อขายต่อ

ข้าวเกรียบเตาถุงละ 10 บาท มาเที่ยวบ้านนาคูหา อย่าลืมอุดหนุนไปฝาก เพื่อนเพื่อนๆกันได้นะคะ

ได้ของที่ระลึก ชิ้นเดียวในโลกกับบ้านอีกแล้ว นี่คือพวงกุญแจ ผลผลิต ธรรมชาติจาก..เขาอีกแล้ว

ผาหัวสิงห์ และนี่คือเป้าหมายของทริปต่อไปของพวกเรา ผาหัวสิงห์ สุดยอดผาตรงบริเวณ ที่ตั้งธงชาติอยู่ และยังรอให้คุณมาเป็นผู้พิชิต ผาหัวสิงห์แห่งนี้ วันนี้หมดแรงข้าวต้มกันแล้ว
#ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมแล้วพบกันใหม่ ทริปหน้า
เพราะ" ยิ่งรู้จัก ยิ่งฮักแป้"