เรามีแฟนคะ คบกันได้ย่างปีที่ 6 แล้วคะ คบกันตั้งแต่สมัยตอนที่ยังเรียนอยู่คะ เราอายุ 25 แฟนเรา 26 คะ การคบกันนานของเราสองคน บางครั้งเราเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่ามันใช่หรือไม่ หรือเป็นแค่เพียงรักในวัยเด็ก เวลาจะเลิกกันก็กลัวว่าจะต้องมาเริ่มต้นใหม่กะใครคนอื่น เสียดายเวลาที่คบกันเลยไม่เลิกกัน เวลามีปัญหาเข้ามาในชีวิตคู่เราสองคน เราจึงเลือกที่จะอดทนคะ แต่เมื่อเราโตขึ้นมา เราพบว่าความรักอย่างเดียวไม่พอหรอกคะ มันต้องให้เกียรติกัน ช่วยเหลือกัน ดูแลเอาใจความรู้สึกกัน มีกันและกันเวลาที่ลำบากคะ หลังจากเราเรียนจบและทำงานเราวางแผนที่จะแต่งงานด้วยกันคะ แฟนเราทำงานธุรกิจส่วนตัวคะ บ้านเค้าขายน้ำดื่มคะ ฐานะทางบ้านครอบครัวของเค้าก็จัดอยู่ในระดับปานกลางคะ เราขอเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟังน่ะคะ เหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้เราเสียใจมากคะ
ตอนนั้นหลังจากที่เราพึ่งเรียนจบ เริ่มทำงานได้ไม่กี่เดือน คุณพ่อของเราเสียคะ ด้วยอุบัติเหตุ เราเสียใจมากคะมันกะทันหันมากคะ เราทุกคนในครอบครัวเตรียมตัวไม่ทัน วันแรกที่งานศพพ่อเรา เราแต่งตัวสกปรกและมอมแมมมากคะ เพราะยุ่งกับงานศพของพ่อคะ แฟนเรามาส่งน้ำดื่มที่งานศพ พอตอนเย็นเค้าก็โทรมาหาบอกให้เราแต่งตัวให้ดีๆหน่อยมันมอมแมมไม่สวยเลย เราก็บอกว่าพ่อเพิ่งเสียใครจะมานั่งแต่งตัวสวยยุ แต่หลังจากนั้นเราก็พยายามแต่งตัวให้ดูดีขึ้นคะ แฟนเรามางานจะได้ไม่อายคนคะ แฟนเราก็มางานศพคะ มาช่วยเสริฟโต๊ะแขกในงานตอนเย็นถึงกลางคืน บางคืนก็พาเพือนๆมานั่ง (ชวนคนมานั่งในงานศพจะได้ไม่เงียบตอนกลางคืนคะ) มานั่งกินเหล้ากันด้วยนะคะ เราก็รู้สึกไม่โอเครนะคะ งานศพพ่อเรา แฟนเรามานั่งกินเหล้านิเราไม่ชอบคะ ถ้าแขกคนอื่นมานั่งกินเหล้าก็ว่าไปอย่างคะ (แฟนเราปกติเป็นคนกินเหล้าคะ แต่ไม่เยอะมาก แต่กินเกือบทุกวันเลยคะ) และเมื่องานศพเสร็จเราจัดงานศพที่บ้านก็ขาดทุนคะ ขาดทุนประมาณห้าหกหมื่นบาทคะ หลังจากเสร็จงานศพ เค้าก็มาเก็บเงินค่าของ ค่าหมูค่ากับข้าว ค่าข้าวสาร ค่าเต้นท์ในงานศพ บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด จัดงานศพจะต้องใช้เงินค่อนข้างมาก เลี้ยงอาหารคนที่มาในงานอย่างน้อย5-7วัน แต่โชคดีที่พ่อเราทำประกันชีวิตไว้หลายทีประมาณ3แสนคะ แต่กว่าจะได้เงินประกันมาจัดงานศพ เราก็ต้องลงทุนเงินของตัวเองไปก่อนคะ
ซึ่งหลังจากงานศพเสร็จ บ้านเราช็อตหมุนเงินไม่ทันคะ และเราสั่งน้ำดื่มที่แฟนเราทำมาใช้ในงานศพคะ ค่าน้ำดื่มของแฟนประมาณ6พันบาทคะ แฟนเราทำกิจการน้ำดื่มกับคุณแม่คุณพ่อของเค้าคะ เค้ารับเงินเดือนจากพ่อแม่อีกทีนึงคะ เค้ามาเก็บเงินค่าน้ำดื่มในงานศพ ช่วงนั้นเราไม่ค่อยมีเงินคะ เราคุยโทรศัพท์กันคะ เราเลยขอร้องให้เค้าช่วยคะ จะลดให้หรือไม่คิดเงินก็แล้วแต่เค้า เพราะเราหมุนเงินไม่ทันคะ เราพึ่งทำงานได้ไม่กี่เดือน เงินเก็บก็ยังไม่มี แม่เราก็ภาระหลายอย่างคะ แต่แฟนเรากลับปฏิเสธขึ้นมาทันควันเลยคะ ตอนที่เราถามว่าให้เค้าลดให้หรือไม่คิดเงินได้ไหม เราไม่ค่อยมีตังค์ เค้าพูดกับเรากลับมาว่าเงินประกันชีวิตไปไหนหมด ค่าน้ำดื่มนี้เป็นของแม่เค้า เค้าไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แค่เก็บเงินให้พ่อแม่อย่างเดียว แล้วรับมาแต่เงินเดือน คำพูดเค้าตอนนั้นเราหน้าชาไปเลยคะ เราคบกันมาสี่ปีคะ ณ วันที่พ่อเราเสีย แต่ผู้ชายที่เป็นแฟนเราพูดกับเราในวันที่เราเสียใจที่สุดด้วยประโยคแบบนั้น เรานี้โคตรเจ็บเลยคะ คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้ คงไม่ใช่แล้วแระ เงินแค่ 6พันบาท แต่เค้าพูดปฏิเสธมาอย่างเลือดเย็น ไม่มีการคิดไตร่ตรองด้วยคะ ไม่ได้ถามพ่อแม่เค้าก่อนด้วยว่าจะลดให้ไหมหรืออย่างไร ใช้ความรู้ขอตัวเองแวบแรกตอบเรามาเลยคะ (เราคิดแบบนั้นนะคะ) เพราะถ้าคนมีเจตนาที่จะช่วย มันต้องคิดทบทวนก่อน ไม่ใช่พูดตัดบทเลย เราคิดว่าเค้ามองเหมือนเราเป็นแค่คนอื่น
หลังจากวันเค้ามาหาเราที่บ้าน มาเก็บค่าน้ำ เราก็พูดตรงๆกับเค้าไปว่าเราไม่ได้มีเงิน และขอร้องให้เค้าช่วยเรื่องค่าน้ำ แต่เค้าพูดมากอย่างนั้น เราเลยบอกไปว่า ค่าน้ำเราจ่ายให้หมดก็ได้คะ แต่ให้เค้าช่วยเดินทางออกไปจากชีวิตเราด้วยน่ะ เราไม่ต้องการผู้ชายแบบนึ้ เราเสียพ่อไปคนนึงแล้วคะ จะเสียผู้ชายแบบนี้ไปอีกสักคนจะเป็นไรไป คนเราถ้าไม่อยู่ด้วยกันในวันที่ลำบาก แล้วจะช่วยเหลือกันตอนไหน แฟนเราเค้าก็ตกใจมากคะ และดูเหมือนเค้าจะเสียใจไม่น้อยไปกว่าเรา เค้าเลยยอมลดเงินค่าน้ำให้เราประมาณ สองพันบาทได้มั่งคะ เราจ่ายอีกสี่พัน แต่ในใจเรา ณ ตอนนั้น มันความรู้สึกไม่ดีๆกับเค้าไปแล้ว แต่ เค้าก็มาขอร้องให้เราให้โอกาสเค้าอีกสักครั้งนึง เค้าไม่อยาเลิกกับเรา ขอร้องให้เราคบต่อ เราก็เป็นคนใจอ่อนคะ เราเลยยอมให้โอกาส และคบกันต่อคะ แต่ระหว่างนั้นเราก็ยังไม่โอเครน่ะคะ เราใช้เวลาอยู่ประมาณ สามเดือนถึงจะดีขึ้น พยายามกลับมาคบกันให้เหมือนเดิมมากที่สุด ไม่เก็บเรื่องเก่ามาคิดแล้วคะ แต่ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน เรื่องนี้มันก็จะลอยมาในหัวเราตลอดคะเราไม่เคยลืมเลยคะ และอีกอย่างเราเป็นคนชอบคิดมาก เก็บทุกเรื่องมาคิดด้วยคะ ทำให้ไม่ค่อยสบายใจ และตอนนี้เราวางแผนที่จะแต่งงานด้วยกัน อีกไม่เกิน สองปี แต่มันมีปัญหาเข้ามาตลอดเลยคะ ในลักษณะคล้ายเดิม เราเริ่มรู้สึกว่าเค้าเห็นแก่ตัว และไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรษเท่าไหรคะ
เรื่องราวของเรายังไม่จบนะคะ ยังมีต่ออีกครั้ง เดียวมาเล่าให้ฟังนะคะ
ผู้ชายแบบนี้ เราควรแต่งงานด้วยไหม
ตอนนั้นหลังจากที่เราพึ่งเรียนจบ เริ่มทำงานได้ไม่กี่เดือน คุณพ่อของเราเสียคะ ด้วยอุบัติเหตุ เราเสียใจมากคะมันกะทันหันมากคะ เราทุกคนในครอบครัวเตรียมตัวไม่ทัน วันแรกที่งานศพพ่อเรา เราแต่งตัวสกปรกและมอมแมมมากคะ เพราะยุ่งกับงานศพของพ่อคะ แฟนเรามาส่งน้ำดื่มที่งานศพ พอตอนเย็นเค้าก็โทรมาหาบอกให้เราแต่งตัวให้ดีๆหน่อยมันมอมแมมไม่สวยเลย เราก็บอกว่าพ่อเพิ่งเสียใครจะมานั่งแต่งตัวสวยยุ แต่หลังจากนั้นเราก็พยายามแต่งตัวให้ดูดีขึ้นคะ แฟนเรามางานจะได้ไม่อายคนคะ แฟนเราก็มางานศพคะ มาช่วยเสริฟโต๊ะแขกในงานตอนเย็นถึงกลางคืน บางคืนก็พาเพือนๆมานั่ง (ชวนคนมานั่งในงานศพจะได้ไม่เงียบตอนกลางคืนคะ) มานั่งกินเหล้ากันด้วยนะคะ เราก็รู้สึกไม่โอเครนะคะ งานศพพ่อเรา แฟนเรามานั่งกินเหล้านิเราไม่ชอบคะ ถ้าแขกคนอื่นมานั่งกินเหล้าก็ว่าไปอย่างคะ (แฟนเราปกติเป็นคนกินเหล้าคะ แต่ไม่เยอะมาก แต่กินเกือบทุกวันเลยคะ) และเมื่องานศพเสร็จเราจัดงานศพที่บ้านก็ขาดทุนคะ ขาดทุนประมาณห้าหกหมื่นบาทคะ หลังจากเสร็จงานศพ เค้าก็มาเก็บเงินค่าของ ค่าหมูค่ากับข้าว ค่าข้าวสาร ค่าเต้นท์ในงานศพ บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด จัดงานศพจะต้องใช้เงินค่อนข้างมาก เลี้ยงอาหารคนที่มาในงานอย่างน้อย5-7วัน แต่โชคดีที่พ่อเราทำประกันชีวิตไว้หลายทีประมาณ3แสนคะ แต่กว่าจะได้เงินประกันมาจัดงานศพ เราก็ต้องลงทุนเงินของตัวเองไปก่อนคะ
ซึ่งหลังจากงานศพเสร็จ บ้านเราช็อตหมุนเงินไม่ทันคะ และเราสั่งน้ำดื่มที่แฟนเราทำมาใช้ในงานศพคะ ค่าน้ำดื่มของแฟนประมาณ6พันบาทคะ แฟนเราทำกิจการน้ำดื่มกับคุณแม่คุณพ่อของเค้าคะ เค้ารับเงินเดือนจากพ่อแม่อีกทีนึงคะ เค้ามาเก็บเงินค่าน้ำดื่มในงานศพ ช่วงนั้นเราไม่ค่อยมีเงินคะ เราคุยโทรศัพท์กันคะ เราเลยขอร้องให้เค้าช่วยคะ จะลดให้หรือไม่คิดเงินก็แล้วแต่เค้า เพราะเราหมุนเงินไม่ทันคะ เราพึ่งทำงานได้ไม่กี่เดือน เงินเก็บก็ยังไม่มี แม่เราก็ภาระหลายอย่างคะ แต่แฟนเรากลับปฏิเสธขึ้นมาทันควันเลยคะ ตอนที่เราถามว่าให้เค้าลดให้หรือไม่คิดเงินได้ไหม เราไม่ค่อยมีตังค์ เค้าพูดกับเรากลับมาว่าเงินประกันชีวิตไปไหนหมด ค่าน้ำดื่มนี้เป็นของแม่เค้า เค้าไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แค่เก็บเงินให้พ่อแม่อย่างเดียว แล้วรับมาแต่เงินเดือน คำพูดเค้าตอนนั้นเราหน้าชาไปเลยคะ เราคบกันมาสี่ปีคะ ณ วันที่พ่อเราเสีย แต่ผู้ชายที่เป็นแฟนเราพูดกับเราในวันที่เราเสียใจที่สุดด้วยประโยคแบบนั้น เรานี้โคตรเจ็บเลยคะ คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้ คงไม่ใช่แล้วแระ เงินแค่ 6พันบาท แต่เค้าพูดปฏิเสธมาอย่างเลือดเย็น ไม่มีการคิดไตร่ตรองด้วยคะ ไม่ได้ถามพ่อแม่เค้าก่อนด้วยว่าจะลดให้ไหมหรืออย่างไร ใช้ความรู้ขอตัวเองแวบแรกตอบเรามาเลยคะ (เราคิดแบบนั้นนะคะ) เพราะถ้าคนมีเจตนาที่จะช่วย มันต้องคิดทบทวนก่อน ไม่ใช่พูดตัดบทเลย เราคิดว่าเค้ามองเหมือนเราเป็นแค่คนอื่น
หลังจากวันเค้ามาหาเราที่บ้าน มาเก็บค่าน้ำ เราก็พูดตรงๆกับเค้าไปว่าเราไม่ได้มีเงิน และขอร้องให้เค้าช่วยเรื่องค่าน้ำ แต่เค้าพูดมากอย่างนั้น เราเลยบอกไปว่า ค่าน้ำเราจ่ายให้หมดก็ได้คะ แต่ให้เค้าช่วยเดินทางออกไปจากชีวิตเราด้วยน่ะ เราไม่ต้องการผู้ชายแบบนึ้ เราเสียพ่อไปคนนึงแล้วคะ จะเสียผู้ชายแบบนี้ไปอีกสักคนจะเป็นไรไป คนเราถ้าไม่อยู่ด้วยกันในวันที่ลำบาก แล้วจะช่วยเหลือกันตอนไหน แฟนเราเค้าก็ตกใจมากคะ และดูเหมือนเค้าจะเสียใจไม่น้อยไปกว่าเรา เค้าเลยยอมลดเงินค่าน้ำให้เราประมาณ สองพันบาทได้มั่งคะ เราจ่ายอีกสี่พัน แต่ในใจเรา ณ ตอนนั้น มันความรู้สึกไม่ดีๆกับเค้าไปแล้ว แต่ เค้าก็มาขอร้องให้เราให้โอกาสเค้าอีกสักครั้งนึง เค้าไม่อยาเลิกกับเรา ขอร้องให้เราคบต่อ เราก็เป็นคนใจอ่อนคะ เราเลยยอมให้โอกาส และคบกันต่อคะ แต่ระหว่างนั้นเราก็ยังไม่โอเครน่ะคะ เราใช้เวลาอยู่ประมาณ สามเดือนถึงจะดีขึ้น พยายามกลับมาคบกันให้เหมือนเดิมมากที่สุด ไม่เก็บเรื่องเก่ามาคิดแล้วคะ แต่ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน เรื่องนี้มันก็จะลอยมาในหัวเราตลอดคะเราไม่เคยลืมเลยคะ และอีกอย่างเราเป็นคนชอบคิดมาก เก็บทุกเรื่องมาคิดด้วยคะ ทำให้ไม่ค่อยสบายใจ และตอนนี้เราวางแผนที่จะแต่งงานด้วยกัน อีกไม่เกิน สองปี แต่มันมีปัญหาเข้ามาตลอดเลยคะ ในลักษณะคล้ายเดิม เราเริ่มรู้สึกว่าเค้าเห็นแก่ตัว และไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรษเท่าไหรคะ
เรื่องราวของเรายังไม่จบนะคะ ยังมีต่ออีกครั้ง เดียวมาเล่าให้ฟังนะคะ