เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจ ปี 2560 จะเป็นปีที่ “ยังคงย่ำแย่และซึมต่อเนื่อง” จากปี 2559 การทึ่รัฐบาลพยายามจะขายฝันว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโต 4-5 % ได้ตามศักยภาพ เท่ากับยอมรับว่าที่ผ่านมา 2 ปีกว่า ที่เศรษฐกิจไทยโต 0.7%, 2.8% และ ปี 2559 ที่โตประมาณ 3.3% เป็นการเสียโอกาสของประเทศในการพัฒนาไปอย่างมาก และโอกาสปีนี้ที่จะโต 4-5% ก็เป็นไปแทบไม่ได้เลย ทั้งนี้เพราะทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศไม่เอื้ออำนวย ภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีนัก สหรัฐมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังต้องเฝ้าดูนโยบายอเมริกามาก่อนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร ยุโรปยังคงย่ำแย่และอาจจะมีบางประเทศที่จะแยกตัวออกจากอียูเพิ่มเติมจากอังกฤษ ญี่ปุ่นยังไม่ฟื้นดี และจีนก็มีแนวโน้มไม่ค่อยดีนักจากภาวะหนี้เสียจำนวนมากในภาคธนาคาร อาเซียนยังคงดีอยู่โดยมีไทยที่จะโตต่ำสุดอีกปีหนึ่ง หันมามองในประเทศ การส่งออกปี 2560 ไม่น่าจะเพิ่มได้ 3% ตามที่รัฐบาลบอก ปีที่แล้วบอกส่งออกจะโต 5% ก็ไม่โตเลย ทั้งนี้เพราะไม่มีการลงทุนใหม่เพื่อขยายการส่งออกมา 2 ปีแล้ว และปีนี้การลงทุนภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ยังไม่น่าฟื้น โดยเฉพาะปัจจัยความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในปี 2560 จะยิ่งทำให้การลงทุนยิ่งหดหาย และการเจรจาข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆก็จะยังทำไม่ได้ จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นายพิชัย กล่าวว่า ปัญหาหลักที่น่าเป็นห่วงคือ ปัญหาหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้นในระบบธนาคารจากบริษัทที่ขาดทุนจนต้องปิดกิจการเพิ่มขึ้น และ ปัญหาการว่างงานที่จะเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวเศรษฐกิจที่ต่ำมาหลายปีติดกันและการลงทุนที่หดหาย นอกจากนี้ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีใหม่จะมีการจ้างคนทำงานน้อยลงซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมตัวรับมือกับปัญหานี้ โดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ยังไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น เหมือนที่ ดร. วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ บอกว่าปี 2560 จะเป็นปีแห่งการชะลอตัว โดยที่รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ยังคงจะย่ำแย่และเศรษฐกิจไทยจะยังคงซึมต่อเนื่องจากการลงทุนที่หายไปและการส่งออกที่ยังไม่กระเตื้อง โดยเฉพาะหากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักกว่าเดิม เพราะเศรษฐกิจจะหยุดนิ่งเพื่อเฝ้าดูว่าจะมีการเลือกตั้งจริงหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของเศรษฐกิจไทยที่ต้องพึ่งต่างประเทศที่มีสัดส่วนสูง ปีจจัยทางการเมืองจะมีผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2560 นี้