เป็นคำถามที่ผมมาฉุกคิดได้ ตอนเข้าสู่วัยทำงานนี่แหละครับ และเพิ่งจบใหม่ๆ ( ปล. ยาวหน่อยนะครับ )

เหตุการณ์ครั้งแรกที่รู้สึกว่า ชื่อเสียงของโรงเรียนก็มีผลต่อความน่าสนใจในการรับเข้าทำงาน
**เนื่องจาก เจอคำถามว่า จบจากโรงเรียนประถมที่ไหน จบจากโรงเรียนมัธยม ที่ไหน ประมาณนี้อ่ะครับ ซึ่งผมเอง ก็จบประถม กับมัธยม ในโรงเรียนรัฐบาลธรรมดา ในกรุงเทพฯ ที่ค่าเทอมอยู่ที่ 2 พัน - 3 พัน เท่าที่จำได้สมัยนั้น เรียนจนจบ ม.6 ก็สอบเข้ามหาลัยด้วยการแอดมิดชั่น เข้ามหาลัยที่มีชื่อเสียงระดับนึงในสายงานที่ผมทำ **

**เมื่อเข้าไปสังคมมหาลัย แน่นอนว่า ก็จะเจอกลุ่มเพื่อนหลายรูปแบบแต่ไม่ใช่ทั้งหมด มีบางกลุ่มที่เจอคือ ค่อนข้างเหยียดโรงเรียนที่ไม่ได้ชั้นนำ หรือมีชื่อเสียงเหมือนที่พวกเพื่อนเหล่านั้นจบมา (ย้ำว่าแค่บางกลุ่ม) ผมก็เฉยๆเพราะคิดว่าพวกนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตผมอยู่แล้ว

** ย้อนอดีตไป ตอน ก่อนเข้าเรียน ป.1 ด้วยความที่บ้านผมก็ไม่ได้มีฐานะเพียงพอที่จะส่งลูกเรียนเอกชนที่ราคาแพงๆ ก็อยากให้ลูกได้เรียนที่ดีๆสังคมดีๆในแบบฉบับของพ่อแม่ที่ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก จึงพาผมไปสอบเข้าโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ย่านใจกลางเมือง ซึ่งผลปรากฎว่าก็สอบไม่ติด สุดท้ายจึงได้เรียนโรงเรียนรัฐแถวบ้าน
******* เมื่อจบ ป.6 พ่อก็เป็นคนวางแผนอีกแล้วว่าให้ไปสอบเข้า ม.1  รร ชายล้วน แห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและดังจนเป็นที่ยอมรับในสมัยนั้น ตอนนั้นผมยังเด็ก เลยไม่ได้ตั้งใจสอบเท่าไหร่ เพราะด้วยยึดติดสังคมเพื่อนตอนประถม ที่เน้นว่าต้องเรียนใกล้บ้าน ก็ไปต่อมัธยมในโรงเรียนเดียวกัน
(ในใจตอนนั้น ผมคิดแค่ว่า จะตั้งใจทำข้อสอบให้คะแนนแย่ๆ เผื่อจะได้ไม่ต้องติด เพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาสอบ เหมือนกับว่ายังไม่เข้าใจเหตุผลว่า ทำไมพ่อต้องให้สอบเข้า รร นั้นด้วย ซึ่งเพื่อนๆเราประถม ก็ไม่เห็นต้องพยายามขนาดนั้นเลย) จนผลออกมาก็ไม่ติด อาจจะเพราะผมทำข้อสอบจริงๆไม่ได้หรือป่าวก็ไม่รู้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเลย สุดท้ายก็ได้เข้า ม.1 เรียนโรงเรียนมัธยมรัฐบาล ตามเพื่อนๆตอนประถม  

****ผมเรียนมาจน ม.3 ปุ๊บ เมื่อจบ ม.3 แน่นอนว่า จะมีกลุ่มเพื่อนบางคนที่ไปสายอาชีวะ หรือ สายอาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยในห้องผมที่จะไปสายอาชีพ ด้วยความที่ผมเป็นเด็กห้องคิง ของ รร นั้น เมื่อนึกย้อนไปก็มีเพื่อนห้องเดียวกัน บอกจะไปสอบต่อ ม.4 รร อื่น ในใจเราก็คิดว่า ทำไมต้องไปสอบ ต่อ ม.4 รร อื่นให้ลำบากว่ะ สุดท้ายเพื่อนคนนั้น มันก็สอบได้ รร ที่มันจะไปต่อ ม.4 ส่วนเราก็ยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเรียนที่เดิมก็ได้ ไม่อยากดิ้นรนให้เหนื่อย**

***การเข้าเรียน ม.4 ของ รร เดิม เมื่อเริ่มเรียนไปสักพัก มีงานแนะแนวเกี่ยวกับคณะ มหาลัยต่างๆเข้ามา รวมถึงรุ่นพี่ กลับมา รร พร้อมชุดนิสิต สถาบันต่างๆมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับ น้องๆใน รร ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดแล้วว่า ผมจะไปต่อทางสายไหนดี
ก็ไปเปิดโลกทัศน์ตัวเอง ด้วยการโอเพ่นเฮ้าส์ คณะ มหาลัยต่างๆ หาข้อมูลเอง ไปเอง   จน ม.6 ก็ได้ตั้งใจที่จะสอบตรงคณะ และมหาลัยในฝัน แต่ก็ไม่ติดครับ เลยตั้งใจสอบ โอเน็ต ให้มากๆ เพื่อใช้เป็นคะแนนแอดมิชชั่น ( ม.4 ผมก็ขอพ่อไปเรียนพิเศษเพิ่มวิชาภาษาอังกฤษ แถวศรีย่าน เนื่องจากคิดว่าตัวเองไม่แน่นเลย ส่วนตัวก็ไม่อยากจะโทษการเรียนการสอนของ อ.ที่ผ่านๆมาหรอกครับ แต่อาจจะเป็นเพราะผมเองก็ได้มั้ง ที่พื้นฐานไม่ดี )

**************ในที่สุดผมก็แอดมิชชั่นติดคณะและมหาลัย อันดับ 3 ด้วยคะแนนที่เฉียดฉิวมากครับ******
ผมเรียนมหาลัยมา จนจบ และได้ทำงานในวันนี้ ก็ค่อนข้างต่อสู้กับโอกาสเหมือนกันครับ เหมือนต้องวิ่งหาโอกาสเหมือนคนส่วนใหญ่ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย
*** ถ้าวันนั้น ผมได้เรียนใน รร ที่พ่อวางแผนไว้ ตอนประถม และมัธยม
ผมว่ามันก็มีผลกับความรู้และประสบการณ์ของผมในการวิ่งหาโอกาสการทำงาน  ของผมอาจจะเหนื่อยไม่เท่าทุกวันนี้  *** (นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผมครับ ) แต่อีกมุม ผมก็ภูมิใจที่มาได้ไกลกว่าเพื่อนหลายๆคนตอนเรียนประถมและมัธยมครับ
***ขอบคุณที่อ่านจนจบ***

เข้าสู่คำถามครับ
*** 1.คุณคิดว่าการเข้าเรียนในโรงเรียน มีชื่อเสียง การจัดการเรียนการสอนที่ดี แตกต่างกันในเรื่องมาตรฐาน ได้สร้างความเหลื่อมล้ำ หรือความได้เปรียบ กับชีวิตเรายังไงบ้าง

****2. ในการทำงาน หรือ สังคมทำงาน คนที่ชอบถามว่าจบประถมจากที่ไหน จบมัธยมจากที่ไหน คุณคิดว่าสิ่งที่เค้าตั้งคำถามมีผลต่อการตัดสินใจ ในบางเรื่อง หรือ มีการยอมรับมาก หรือน้อย แค่ไหนครับ เพราะอะไรทำให้เค้าคิดเช่นนั้น

**ขอบคุณที่แชร์เรื่องราว ประสบการณ์ของคุณมานะครับ***