สวัสสสสสสสดีย์! เหล่านักผจญภัยและนักเดินทางทั้งหลาย~ วันนี้พวกเรา "แก๊งอ่อน" อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของเราให้ทุกคนได้ชื่นชมชื่นมื่นชื่นช่ำชื่นใจชื่นบายชื่น... พอละ นั่นแหละคับ เรื่องมีอยู่ว่า ปีที่แล้วพวกเราได้ไปเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง มาาา เอออออ แต่กลับมาแล้วก้ไม่ได้รีวิวเพราะความ "ขี้เกียจ" ล้วนๆ55 พวกเราเลยสัญญากันว่า(ไปสัญญากันตอนไหนวะ?) จบทริปครั้งนี้จะต้องมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันเผื่อจะได้เป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากไปในที่ที่เราไปกันหน่อยยยยย~ ป.ล.ยืมแอคเค้าว์ เพื่อนมาสร้างกระทู้

   เนื่องจากปีที่แล้ว พวกเราได้ไปภูกระดึงกัน แล้วรู้สึกว่า เห้ยยย โคตรดีโครสวยโคตรคูลโคตรระทับใจเลยหว่ะะ ถึงจะเหนื่อยแต่ขึ้นไปคือความสวยงามล้วนๆ เหมือนกับ "ไม่มีของดีๆที่ได้มาง่ายๆหรอก" (นี่คิดเอง) ปีนี้เลยคิดว่า ต้องหาที่ๆดิบๆเถื่อนๆสายถึกทนขึ้นยากๆหฤโหดนิดๆ(เขียนถูกป่าว?) ที่มีความสวยงามสุดยอดอึ่งทึ่งเสียวอยุ่ข้างบน และ des-ti-na-tion (กระแดะไปดิ) ในครั้งนี้ของพวกเรา จากที่ได้เสาะหาข้อมูลรวมทั้งเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากผู้มีประสบการณ์มาแล้ว บอกเลย! ดิบเถื่อน! ซึ่งก็คือออ อุทยานแห่งชาติ "ภู สอย ดาวววว" พร้อมแล้วไปดูกันนนนน

   ปล.คำพูดและภาพถ่าย(ถ่ายด้วยกล้องDSLR cannon50D และIphone)ของเรา อาจจะอ่อนและไปบ้าง หากมีอะไรผิดพลาดหรือไม่พอใจ ข้าน้อยและคณะแก๊งอ่อนก้ขอกราบขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ ~
   ปล2.อยากให้ทุกท่านใช้หัวใจของท่านดูเหมือนกับที่พวกเราใช้หัวใจทำรีวิวนี้ด้วยคับ จิบิ ~

   และนี่คือแก๊งของพวกเราาาา #GangonkharnSoiDao
     สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปอุทยานแห่งชาติ "ภูสอยดาว"
1.ระยะทางในการเดินขึ้นไม่มากประมาณ6.5km แต่ทางเดินขึ้นสู่ลานสน ซึ่งเป็นจุดตั้งแคมป์นั้น ไม่ธรรมดาเลยนะ ถือว่าถ้าขึ้นที่นี่ได้ ที่อื่นก็จิ๊บนะ กิกิ
2.ข้างบนไม่มีร้านอาหารหรือน้ำให้เลยนะคับ ต้องเตรียมอาหารขึ้นไปกินไปทานเองไม่ว่าจะเป็นมาม่าต้มโจ๊กทอดไข่มันเผาข้าวจี่เนื้อหมูเห็ดเป็ดไก่เครื่องปรุงนู่นนี่ เอาขึ้นไปเอง ส่วนน้ำ จะแบกขึ้นไปก้ได้ หรือ ข้างบน เจ้าหน้าที่จะรองน้ำไว้ให้ เป็นน้ำฝนและน้ำลำธารนั่นเอง ต้มกินชิว น้ำสีเหลืองสดใส น้ำแร่ของแท้ต้องสีเหลืองงง (พวกเราก้กิน)
3.ข้างบนก่อไฟได้ มีอุปกรณ์ให้เช่าด้วย หม้อ เตาแก๊ส เตาถ่าน ถ่าน ถังน้ำ ฯลฯ เตรียมไปแค่เงิน เงิน เงิน... หมดตัว (แนะนำให้ก่อไฟทำอาหารเอง เพราะแก๊สเบามากกกกกก)
4.ถ้าต้องการก่อกองไฟ แนะนำให้เตรียมเชื้อนำไฟไปจุดถ้าไม่ชำนาญ เช่น กระดาษหนังสือพิม, ตั๋วรถที่เรานั่งไป(เราก็ใช้), เทียน ฯลฯ ส่วนไม้ฟืนก้ต้องไปหาเองข้างบน เดินหาไม้มาเผาก้ได้ โดยเฉพาะไม้กับเปลือกไม้สน มีน้ำมันจุดไฟง่าย (ถ่านที่ให้ซื้อแพง หาเองดีกว่า แนะนำ)
5.ข้างบนไม่มีไฟใช้นาจา powerbank จะเป็นชีวิตเดียวของคุณ
6.ใครที่ติดSocialจัด แนะนำจ้าาาา คุณอาจะขาดใจตาย55 ไม่ขนาดนั้น ข้างบนลานสนมีสัญญาณ AIS ที่เราเจอ ซึ่งมีจุดเดียววว หน้าห้องงน้ำ - 3- ผู้ใดติดsocial จะตั้งเต๊นท์แถวห้องน้ำก็ตามสบายได้เล้ยยย
7.ห้องน้ำไม่มีน้ำนาจา จะล้างตูดกดส้วมนู่นนี่ ต้องใช้ถังน้ำตักน้ำไปด้วยนา ไม่ก็กระดาษเปียก พกขึ้นไป
8.เนื่องจากพวกเราไปช่วงหน้าหนาว การอาบน้ำ ไม่ต่างกับ"การเข้าไปตายยย" ถ้าคุณทนไม่ไหวจิงๆ กระดาษเปียกถูๆตัวเถอะ ไม่ก็ต้องิาบตอนเที่ยงๆเลย
9.น้ำค้างตอนเช้าหนักมากๆเลยยย แบบเปียกสึสทั่วบริเวณ ถ้าของมีค่าเยอะ เตรียมถุงซิปไปใส่ก็ดี
10.ระหว่างทางขึ้น แนะนำให้เตรียมน้ำซักขวดนึงกับอะไรหวานๆไว้กินระหว่างทาง เพราะระยะทางหลังๆ ถ้าคุณเกิดวูบ อันตรายมากๆเลยนะ หน้าผาทั้งนั้น

นึกไม่ออกละ เยิ้นเย้อซะยาว เราออกเดินทางกันเลยดีกว่าาา~

     เดินทางสู่"อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว"
   ทริปของเราไปช่วงฤดูหนาว วันที่ 24-27 ธ.ค. 2016 ซึ่งมหาลัยพวกเราพึ่งปิดเทอมพอดี เลยขอแว๊บไปเที่ยวก่อนปีใหม่ซะหน่อยยย กรุงเทพหน้าหนาวก้ยังร้อน เลยขอหนีร้อนไปภูสอยดาวละกันน
   เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพ เราเดินทางโดยรถทัวของ นครชัยแอร์ Gold Class ราคา393บาท อาจจะแพงไปหน่อย แต่นั่งสบายสุดๆไปเลย ขึ้นรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์กรุงเทพ รถออก21.45น จากกรุงเทพ-อุตรดิตถ์ แต่ลงที่ บขส.พิษณุโลกนา มารอก่อนกลัวตกรถ ซึ่งเป็นช่วงใกล้ปลายปีแล้ว คนเยอะมากกก กกยืดขาได้ด้วย ดูหนังฟังเพลงก้ได้ ใหม่ด้วยเออ ยาวๆไป6ชม.หลังจากหลับเป็นตาย ก็ถึงบขส.พิษณุโลก เวลาตี3กว่า เราต้องต่อรถไปอำเภอชาติตระการ ซึ่งเปิดขายตั๋ว ตี5! รอไปปป หนาวละด้วย !เตือนเลยจังหวะนี้! ทันทีที่รถมา ขึ้นรถทันที! ใครช้ายืนนาจา 2-3ชม.นา เราโดนมาแล้ววว ราคา84บาทจ้า และแล้วก็มาถึง อำเภอชาติตระการ~ พอถึงปั๊ป เราต้องต่อรถเข้าไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเอง โดยจะมีคุณลุงรถตู้เหมาอยู่ พอดีมีพี่ที่จะไปภูสอยดาวเหมือนกัน เลยรวมกลุ่มกันซะเลย 10คนคนละ100บาท ก่อนขึ้นก็ต้องแวะซื้อของที่ตลาดก่อนซะหน่อยยย ช้อปปิ้ง!หลังจากหลับไปล้านตื่น ทางคดเดี้ยวโคตรๆ ลมก็หนาวว ถึงแล้วววว!เสียค่าเข้าอุทยาน 20 บาทต่อคนสำหรับนักศึกษา การจะแบกของที่หนักขนาดนี้ขึ้นไปนั้น ไม่ไหวววว ลูกหาบบบ! ลูกหาบที่นี่คิดกิโลละ30 ดูของที่เหมือนย้ายบ้านนั่นสิ เบ็ดเสร็จรวมแล้วทุกคน 76กิโล! ลูกหาบเอาเงินไปสร้างตัวได้เลยเด้ออ~ จ่ายธรรมเนียมต่างๆ จะเช่าเต๊นท์จะอะไรก็ทำที่นี่หมด ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วก็ มีค่ามัดจำขยะด้วยนา 200บาท จะได้คืนต้องแบกขยะของเราลงมาด้วยนาาาเราต้องนั่งรถเจ้าหน้าที่มาที่ทางขึ้นอีก1km และก้ถึงทางขึ้น ซึ่งข้างหน้าคือ น้ำตกภูสอยดาววว ก่อนขึ้นก็ไหว้ศาลก่อน ให้ท่านช่วยดูแลให้พวกเราปลอดภัย มา! เตรียมพร้อมก็เดินทางเล้ยยย!จุดแรกที่เจอ สามผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ และก็ธารน้ำที่ไหลลงไปเป็นขั้นๆสู่น้ำตกภูสอยดาวด้านล่าง ทางแรกๆยังชิวๆการจะเดินขึ้นไปลานสนได้ ต้องผ่านเนินทั้งหมด5เนิน ซึ่งเริ่มจากเดินจนถึงคลาน555 เนินแรกที่ต้องเจอคือ เนินส่งญาติหลังจากผ่านกับมา มีขึ้นมีลงบ้าง ต่อไปก็เป็น เนินปราบเซียนเริ่มชันขึ้นละ ขอพักหน่อย ซิกแพคนี่เกร็งไปหมดเนินต่อไป เนินป่าก่อออ เริ่มมีวิวให้เห็นกันแล้ว (ดูวิวไปหอบไป)เนินต่อไป เนินเสือโคร่งง บอกเลยว่า รูปจะน้อยลง เริ่มไม่มีแรงถือกล้อง555 เนินต่อจากนี้ จะเปลี่ยนการเดินเป็นคลานไปโดยปริยาย และสุดท้าย เป็นเนินที่ทรมานที่สุดทั้งสูงชันทั้งร้อนทั้งเสียวตกหน้าผา เป็นเนินที่ทำให้รู้เลยว่า ความลำบากของการขึ้นภูนี้คือเนินนี้นี่เอง เนินมรณะ! คลานกันเต้อะะใกล้แล้วๆอีกนิดนึงเพิ่ลๆ มีคนเสียน้ำตาให้เนินนี้มาแล้วว คิดว่าใครและแล้วววว หลังความทรหดความลำบาก บอกเลยหายเหนื่อยสึสเมื่อกับป้ายเน้~ ข้าคือผู้พิชิตตตตตตต!