Slovenia ประเทศในทวีปยุโรปที่คนไทยน้อยคนจะรู้จัก ซึ่งจริงๆแล้วก่อนหน้านี้ผมก็ไม่รู้จักประเทศนี้หรอกเพียงแต่บังเอิญได้มีโอกาสเดินทางผ่านประเทศแห่งนี้ จึงอยากจะนำบรรยากาศบางส่วนของประเทศนี้มาแลกเปลี่ยนให้คนอื่นๆได้สัมผัสดูครับ

เมืองที่ผมได้ไปเยี่ยมชมใน Slovenia มีทั้งหมด 3 เมือง ก็คือ
1) เมือง Bled และโบสถ์กลางน้ำอันเลื่องชื่อ
2) เมืองหลวงสีชมพู Ljubljana (อ่านว่า "ลุ๊บ-เบียอา-นา" มั้งนะครับเท่าที่ฟังคนท้องถิ่นอ่านๆให้ฟัง )
3) เมือง Novo mesto เมืองเล็กๆใกล้ชายแดนSlovenia-Croatia

ข้อมูลเพิ่มเติม

- กระทู้นี้เป็นส่วนหนึ่งของ "SeaShoreHaiKwaiFungTrip" ซึ่งเป็นทริปที่เดินทางเป็นเส้นตรงยาวลงมาจากประเทศเยอรมันตอนใต้ ผ่านSalzburg Slovenia Croatia Montenegro Albania และไปจบลงที่ Greece ครับ สามารถอ่านตอนอื่นๆได้ตามlinkข้างล่างครับ
Chapter 1 : Mt.Herzogstand :วันหนึ่งวันบนเทือกเขาเขตบาวาเรีย :: https://ppantip.com/topic/35682638

-สามารถติดตามรูปถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ Instagram : everysimplestories

-กล้องถ่ายภาพและเลนส์ที่ใช้คือ : Sony A7 mark II + sony FE 28mm f2.0  

จุดจอดรถระหว่างทางจาก Salzburg, Austria ไปยังเมือง Bled, Slovenia

City#1 Bled & Bled castle


เมืองBled เป็นเมืองเล็กๆของประเทศสโลวีเนียที่มี "โบสถ์กลางน้ำ" และ "ปราสาทที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา" เป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะตกตะลึงในความงามเมื่อได้เห็นเป็นครั้งแรก รอบๆเมืองแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยป่าไม้ซะเป็นส่วนใหญ่ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นการปรับอารมณ์จากถนนที่วุ่นวายเข้ามาเป็นตัวเมืองที่เงียบงัน

เราลงจากรถที่ริมทะเลสาบเพื่อหาเรือนั่งข้ามไปยังโบสถ์ที่อยู่ใจกลางทะเลสาบ น้ำของทะเลสาบBledนั้นมีสีฟ้าใสสะอาดทำหน้าเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวเกาะและโบสถ์ที่อยู่กลางทะเลสาบได้เป็นอย่างดี

หลังจากจ่ายเงินคนละสิบกว่ายูโรเราก็ขึ้นเรือพร้อมออกเดินทางไปยังเกาะแห่งนั้น นอกจากกรุ๊ปของเราแล้วก็มีสามีภรรยาชาวออสเตรเลียอีก2ท่านที่ขึ้นเรือมากับเราด้วย เราลำนี้จอดส่งเราที่ท่าเรือซึ่งเชื่อมต่อกับบันไดที่เราจะต้องเดินขึ้นเพื่อไปยังโบสถ์ที่อยู่บนที่ราบด้านบน

บันใดที่จะพาเราขึ้นไปยังโบสถ์ข้างบน สังเกตุได้ว่ามีนักท่องเที่ยวเยอะมากซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนยุโรปแทบจะไม่มีคนเอเชียเลย

เสียงระฆังดังสนั่นหวันไหวตลอดเวลาที่เราเยี่ยมชมเกาะใจกลางน้ำแห่งนี้ เสียงระฆังนั้นมีที่มาจากภายในโบสถ์ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเคาะเขย่าระฆังเล่นได้แต่มีข้อแม้ก็คือจะต้องจ่ายค่าเข้าโบสถ์เพิ่มเติมอีกประมาณ6ยูโร (ผมเลยไม่ได้เข้าไป)

เพราะว่าไม่ได้เข้าโบสถ์ผมจึงเหลือเวลาเดินเล่นรอบๆเกาะอีกถึงครึ่งชั่วโมง ซึ่งความจริงแล้วใช้เวลาเพียงห้านาทีก็สามารถเดินวนครบรอบได้แล้วเพราะตัวเกาะมันเล็กมากๆ สภาพทางเดินรอบเกาะนั้นแทบจะมีต้นไม้คลุมอยู่ตลอดทาง เมื่อเส้นทางเปิดออกสู่ริมน้ำข้างทาง ก็จะเห็นเรือลำเล็กๆจอดอยู่เป็นระยะๆซึ่งเรือเหล่านี้ก็ถูกใช้เพื่อให้บริการคู่รักที่ต้องการจะมาสวีทกันที่นี้นั้นเอง

เรือสำหรับคู่รักและที่เห็นอยู่ลิบๆก็คือ ปราสาทเมือง Bled ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา

เราใช้เวลาอยู่บนเกาะประมาณ 1ชั่วโมง ก่อนจะออกมาลองชิมขนมชื่อดังของเมือง คือ "Custard cake" ราคาเพียง3ยูโรแต่ปริมาณที่ได้นั้นเยอะมากและรสชาติก็อร่อยมากๆเลยครับ (อาจจะหวานไปหน่อยสำหรับบางท่าน)

Custard cake พร้อมกาแฟร้อนๆ //ค่ดฟิน ><


City#2 Ljubljana เมืองหลวงสีชมพู


จากเมืองBled ผมเดินทางไปยังเมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย เมือง Ljubljana (ลุ๊บ-เบียอา-นา) เพื่อนอนพักในคืนนี้
ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้เมื่อมาถึงเมืองหลวงแห่งนี้ก็คือ "เมืองอะไรมันจะอมชมพูขนาดนั้น" เลนจักรยานก็สีชมพู ตัวอาคารก็สีชมพู โบสถ์ในเมืองก็สีชมพู บุพการียังใส่เสื้อสีชมพูอีก ..... ให้มันเป็นสีชมพู แค่ให้หัวใจของเราได้รู้ ว่าโลกใบนี้เป็นสีชมพู

สถานที่แรกที่เราไปชมในเมืองหลวงแห่งนี้ก็คือ โบสถ์ St. Nicholas เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของโบสถ์ในประเทศสโลวีเนียก็คือ ประตูโบสถ์ที่จะมีประติมากรรมนูนสูงประดับอยู่ โดยส่วนมากจะเป็นรูปหล่อนูนสูงของนักบวชและแม่ชี ยกตัวอย่างได้ดังภาพข้างล่าง


โบสถ์แห่งนี้ตอนแรกถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Gothic แต่หลังจากนั้นก็ถูกสร้างใหม่ในแบบ Baroque  ภายนอกของโบสถ์มีหอคอยสองอันและโดมสีเขียวอันโดดเด่นสามารถใช้เป็นlandmarkของเมืองได้ ส่วนภายในโบสถ์ก็ถูกประดับประดาเป็นอย่างดี ดูแล้วงดงามตามภาพข้างล่างนี้



จากโบสถ์St. Nicholas ก็ถึงเวลาที่จะต้องรับประทานอาหารเย็นแล้วครับ
หลังจากเราได้ข่าวมาว่าประเทศสโลวีเนียมีไวน์แดงและไวน์ขาวที่ขึ้นชื่อ เราจึงเลือกอาหารที่เหมาะจะรับประทานร่วมกันกับไวน์เป็น สเต็กเนื้อแกะและปลาย่าง ตบท้ายด้วยไอศกรีมถั่วพิสตาชิโอและช็อกโกแลตท็อปปิ๊งด้วยสตอเบอรรี่และครีมสด // Full course กันไปเลยทีเดียวครับ

สเต็กร้อนๆเสิร์ฟพร้อมกับไวน์ท้องถิ่น

ของหวานที่เรารับประทานที่อีกร้านหนึ่ง อร่อยมากๆเลยครับ แต่จำชื่อร้านไม่ได้ TT

หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนลง ก่อนจะกลับที่พักผมได้ลองตระเวนเดินชมบรรยากาศริมแม่น้ำของเมือง Ljubljana อีกพัก ทุกๆอย่างดูสวยไปหมดเลยจนต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ "Goodnight Ljubljana"

ขวดเบียร์สัญชาติCzeckที่ถูกทิ้งเอาไว้ใต้สะพานข้ามแม่น้ำ

เส้นทางเดินริมแม่น้ำ ตามทางมีร้านอาหารมากมายหลากหลายชนิด