หนังเก่าเล่าใหม่ 036: My Sassy Girl (Jae-young Kwak,2001)
“ สะพานที่เชื่อมระหว่างความรักคือโชคชะตาหรือเปล่านะ? ที่ทำให้เราได้เจอกัน ” My Sassy Girl ใช้ชื่อไทยว่า “ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม” เป็นหนังอีกเรื่องที่เราชอบมากและเอากลับมาดูซ้ำหลายครั้ง ทุกๆครั้งที่หยิบกลับมาดูเรารู้สึกว่าความหมายมันไม่เหมือนเดิมและแตกต่างออกไป ในกาลเวลาที่อายุเรามากขึ้น “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ความรัก” ถูกนิยามความหมายมากกมายเหลือเกินทั้งที่เราได้พบเจอ ได้อ่านเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับความหมายของสิ่งนั้น หรือได้ดูหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวความหมายของ “ความรัก” ยิ่งเวลาผ่านไปอะไรที่ถูกนิยาม ณ ตอนนั้น มักถูก นิยามและเขียนขึ้นมาใหม่เสมอ ณ เวลานี้ การได้ดู My Sassy Girl อีกครั้ง แปรเปลี่ยนจากหนังตลก เฮฮ่า ตอนที่เรายังเป็นเด็ก กลายเป็นหนังรักที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนสองคนได้ลึกซึ้งในความเรียบง่ายที่สุดเรื่องหนึ่ง
เพียงแค่ฉากเริ่มเรื่อง ณ สถานีรถไฟหญิงสาวกำลังเมาไม่ได้สติและกำลังจะตกรางรถไฟ เวลานั้นชายหนุ่มก็เข้ามารับร่างกายอันบอบบางของเธอไว้ได้ทัน “ยุนจี” คือหญิงสาวคนนั้น และชายหนุ่มเจี๋ยมเจี้ยม “เกียนยู” คือผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอไว้ โชคชะตาหรือฟ้าลิขิตกันนะที่นำนางฟ้ามาให้หรือแท้จริงเป็นนางร้ายต่างหาก แค่เปิดเรื่องก็ชวนให้เรา อมยิ้มไปหลายรอบ เพราะหนังเล่าเรื่องราวในมุมของผู้ชายบ้านๆคนหนึ่ง หนังเล่าเรื่องโดยอาศัยความคิดของ “เกียนยู” ทีมีต่อ “ยุนจี” ในการดำเนินเรื่อง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ความฝันที่แสนจะพิเศษของเกียนยูกับยุนจี ไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาฝันไว้ เพราะตลอดทั้งเรื่อง เกียนยู กลับเป็นผู้ชายที่ถูก ยุนจี ทำร้ายร่างกาย บังคับให้ทำนั้นทำนี้ ต้นเรื่องเลยเต็มไปด้วยฉากน่ารักๆ คำพูดที่ว่า “อยากตายหรอ??” ชวนให้เรารู้สึกว่ามันแสนจะโรแมนติกไงไม่รู้ “ โชคชะตาคงทำให้เราได้เจอกัน หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของเราสองคน ” คงไม่แปลกหรอกที่ เกียนยูจะยอมยุนจี ไปซะทุกเรื่อง ในโลกนี้เราจะมีโอกาสได้เจอคนที่เรารักขนาดนั้นบ่อยๆที่ไหนกัน ถ้าเจอแล้วการ “ยอมแพ้” เพื่อให้คนที่เรารัก “ยิ้มได้ขนาดนั้น” มันก็โอเคไม่ใช่หรอ?? ต้นเรื่องจึงเต็มไปด้วยความคิดของ เกียนยู ที่มีต่อ ยุนจี และความฝันของ ยุนจี กลายเป็นฉากที่โรแมนติกแปลกๆ แต่รู้สึกดี ตลอดเวลา มันเลยกลายเป็นการที่เรากำลังนั่งดูผู้ชายคนหนึ่งที่มองเห็นความอ่อนแอที่หลบซ้อนตัวอยู่ในผู้หญิงที่เขาได้พบเจอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่า “กำลังเติมเต็ม” จุดที่อ่อนแอจุดนั้นให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆอีกครั้งหนึ่ง
หญิงสาวที่อ่อนแอ ผิดหวังในความรัก ถ้ายุนจี จะมีใครสักคนที่เห็น รอยแผลในใจของเธอ มุมที่ไม่แสดงออกให้ใครเห็น คนที่จะเข้ามาดูแลเธอให้ดีขึ้นคงเป็น เกียนยู ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอด้วยความบังเอิญ เกียนยูคือคนที่มองเห็นถึง “ความเศร้า” ที่คนอื่นมองไม่เห็น มีหลายฉากที่เราชอบมากๆ เช่น ฉากในสวนสนุกหรือฉากที่เกียนยูอธิบายการรับมือ ยุนจี ให้หนุ่มอีกคนฟัง แม้กระทั้งฉากฝนตก ดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครสักคนจะมอบของขวัญหรือความรักให้กับใครอีกคน หลังจากนั้นหนังก็เปลี่ยนโหมดเป็น “ดราม่า” น้ำตาซึม เมื่อทุกอย่างคลายตัวลง เมื่อยุนจีได้พบผู้ชายในโลกอนาคตที่ทำให้เขาได้รู้จักการ “รักใคร” อีกครั้ง และนั้นคือผู้ชายที่ชื่อ "เกียนยู" เราว่า “My Sassy Girl” ให้นิยามความรักคือ การได้พบกัน ได้เจอกัน และจากกันในที่สุด ในท้ายเรื่องทั้งสองคนได้เขียนจดหมายให้กัน ใส่ไว้ใน “กล่องหยุดเวลา” และฝังไว้ใต้ต้นไม้ รอวันที่จะมาเปิดอ่านพร้อมกันในอีก สองปี หลังจากนี้ ทำไมต้องสองปีด้วย?? เพราะการลืมความรักในอดีตเพื่อเจอความรักในอนาคต สองปีอาจจะไม่พอสำหรับยุนจีหรืออาจไม่พอด้วยซ้ำไปสำหรับใครบางคน การพลัดพรากจากกันเป็นสิ่งธรรมดาระหว่างคนสองคน “โชคชะตาหรือเปล่านะ ที่ทำให้เราได้พบเจอ...รักแท้…อีกครั้งในโลกอนาคต ”
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
หนังเก่าเล่าใหม่ 036: My Sassy Girl (Jae-young Kwak,2001) เขียนโดย Form Corleone
“ สะพานที่เชื่อมระหว่างความรักคือโชคชะตาหรือเปล่านะ? ที่ทำให้เราได้เจอกัน ” My Sassy Girl ใช้ชื่อไทยว่า “ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม” เป็นหนังอีกเรื่องที่เราชอบมากและเอากลับมาดูซ้ำหลายครั้ง ทุกๆครั้งที่หยิบกลับมาดูเรารู้สึกว่าความหมายมันไม่เหมือนเดิมและแตกต่างออกไป ในกาลเวลาที่อายุเรามากขึ้น “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ความรัก” ถูกนิยามความหมายมากกมายเหลือเกินทั้งที่เราได้พบเจอ ได้อ่านเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับความหมายของสิ่งนั้น หรือได้ดูหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวความหมายของ “ความรัก” ยิ่งเวลาผ่านไปอะไรที่ถูกนิยาม ณ ตอนนั้น มักถูก นิยามและเขียนขึ้นมาใหม่เสมอ ณ เวลานี้ การได้ดู My Sassy Girl อีกครั้ง แปรเปลี่ยนจากหนังตลก เฮฮ่า ตอนที่เรายังเป็นเด็ก กลายเป็นหนังรักที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนสองคนได้ลึกซึ้งในความเรียบง่ายที่สุดเรื่องหนึ่ง
เพียงแค่ฉากเริ่มเรื่อง ณ สถานีรถไฟหญิงสาวกำลังเมาไม่ได้สติและกำลังจะตกรางรถไฟ เวลานั้นชายหนุ่มก็เข้ามารับร่างกายอันบอบบางของเธอไว้ได้ทัน “ยุนจี” คือหญิงสาวคนนั้น และชายหนุ่มเจี๋ยมเจี้ยม “เกียนยู” คือผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอไว้ โชคชะตาหรือฟ้าลิขิตกันนะที่นำนางฟ้ามาให้หรือแท้จริงเป็นนางร้ายต่างหาก แค่เปิดเรื่องก็ชวนให้เรา อมยิ้มไปหลายรอบ เพราะหนังเล่าเรื่องราวในมุมของผู้ชายบ้านๆคนหนึ่ง หนังเล่าเรื่องโดยอาศัยความคิดของ “เกียนยู” ทีมีต่อ “ยุนจี” ในการดำเนินเรื่อง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ความฝันที่แสนจะพิเศษของเกียนยูกับยุนจี ไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาฝันไว้ เพราะตลอดทั้งเรื่อง เกียนยู กลับเป็นผู้ชายที่ถูก ยุนจี ทำร้ายร่างกาย บังคับให้ทำนั้นทำนี้ ต้นเรื่องเลยเต็มไปด้วยฉากน่ารักๆ คำพูดที่ว่า “อยากตายหรอ??” ชวนให้เรารู้สึกว่ามันแสนจะโรแมนติกไงไม่รู้ “ โชคชะตาคงทำให้เราได้เจอกัน หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของเราสองคน ” คงไม่แปลกหรอกที่ เกียนยูจะยอมยุนจี ไปซะทุกเรื่อง ในโลกนี้เราจะมีโอกาสได้เจอคนที่เรารักขนาดนั้นบ่อยๆที่ไหนกัน ถ้าเจอแล้วการ “ยอมแพ้” เพื่อให้คนที่เรารัก “ยิ้มได้ขนาดนั้น” มันก็โอเคไม่ใช่หรอ?? ต้นเรื่องจึงเต็มไปด้วยความคิดของ เกียนยู ที่มีต่อ ยุนจี และความฝันของ ยุนจี กลายเป็นฉากที่โรแมนติกแปลกๆ แต่รู้สึกดี ตลอดเวลา มันเลยกลายเป็นการที่เรากำลังนั่งดูผู้ชายคนหนึ่งที่มองเห็นความอ่อนแอที่หลบซ้อนตัวอยู่ในผู้หญิงที่เขาได้พบเจอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่า “กำลังเติมเต็ม” จุดที่อ่อนแอจุดนั้นให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆอีกครั้งหนึ่ง
หญิงสาวที่อ่อนแอ ผิดหวังในความรัก ถ้ายุนจี จะมีใครสักคนที่เห็น รอยแผลในใจของเธอ มุมที่ไม่แสดงออกให้ใครเห็น คนที่จะเข้ามาดูแลเธอให้ดีขึ้นคงเป็น เกียนยู ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอด้วยความบังเอิญ เกียนยูคือคนที่มองเห็นถึง “ความเศร้า” ที่คนอื่นมองไม่เห็น มีหลายฉากที่เราชอบมากๆ เช่น ฉากในสวนสนุกหรือฉากที่เกียนยูอธิบายการรับมือ ยุนจี ให้หนุ่มอีกคนฟัง แม้กระทั้งฉากฝนตก ดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครสักคนจะมอบของขวัญหรือความรักให้กับใครอีกคน หลังจากนั้นหนังก็เปลี่ยนโหมดเป็น “ดราม่า” น้ำตาซึม เมื่อทุกอย่างคลายตัวลง เมื่อยุนจีได้พบผู้ชายในโลกอนาคตที่ทำให้เขาได้รู้จักการ “รักใคร” อีกครั้ง และนั้นคือผู้ชายที่ชื่อ "เกียนยู" เราว่า “My Sassy Girl” ให้นิยามความรักคือ การได้พบกัน ได้เจอกัน และจากกันในที่สุด ในท้ายเรื่องทั้งสองคนได้เขียนจดหมายให้กัน ใส่ไว้ใน “กล่องหยุดเวลา” และฝังไว้ใต้ต้นไม้ รอวันที่จะมาเปิดอ่านพร้อมกันในอีก สองปี หลังจากนี้ ทำไมต้องสองปีด้วย?? เพราะการลืมความรักในอดีตเพื่อเจอความรักในอนาคต สองปีอาจจะไม่พอสำหรับยุนจีหรืออาจไม่พอด้วยซ้ำไปสำหรับใครบางคน การพลัดพรากจากกันเป็นสิ่งธรรมดาระหว่างคนสองคน “โชคชะตาหรือเปล่านะ ที่ทำให้เราได้พบเจอ...รักแท้…อีกครั้งในโลกอนาคต ”
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/