สุดระอา .. นักท่องเที่ยวเขาใหญ่ เอาผ้าเช็ดตัวมารองส้วม ทิ้งกระดาษเช็ดก้น นอกถังขยะ

วันที่: 29 ธ.ค. 59 เวลา: 17:55 น.

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Duanghatai Reangkesa ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปท่องเที่ยวและใช้บริการบ้านพักในบนอุทยานฯ เขาใหญ่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ โดยขอความเห็นใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่คอยให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากในช่วงสิ้นปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวบนอุทยานฯ เขาใหญ่จำนวนมาก และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวมีความแตกต่างหลากหลาย โดยในช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในบ้านพักของอุทยานฯ ได้นำผ้าเช็ดตัวที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯเตรียมไว้สำหรับผู้เข้าพักไปปูที่พื้นห้องน้ำเพื่อรองเท้านั่งชักโครก เพราะอากาศที่หนาวเย็น จึงนำผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวไปรองเท้ากันหนาว นอกจากนั้นบางรายยังสวมรองเท้าที่เปื้อนโคลนจากเส้นทางเดินป่าเข้าไปเหยียบย่ำทิ้งร่องรอยสกปรกไว้บนพื้นห้องน้ำ โดยไม่สนใจผู้มาใช้ห้องน้ำต่อ ขณะที่ห้องน้ำบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมถังขยะแบบใช้เท้าเหยียบเปิดผาเพื่อให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะได้โดยสะดวก แต่กลับมีการทิ้งขยะโดยเฉพาะเศษกระดาษชำระเกลื่อนกลาดกองไว้นอกถัง เป็นต้น สร้างความหนักใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องคอยให้บริการนักท่องเที่ยว และดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ด้านนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเขาใหญ่มากกว่าทุกปี บ้านพักอุทยานเต็มไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนลานกางเต็นท์ก็เกือบเต็มทุกวัน คนที่มาเที่ยวนั้นมีทุกชนชั้น เรื่องที่นักท่องเที่ยวเอาผ้าเช็ดตัวมาปูพื้นในห้องน้ำ ได้ยินมาจากเจ้าหน้าที่บ้าง เป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปห้าม เป็นเรื่องของพฤติกรรมส่วนตัวที่อยู่ในห้องเข้าใจว่าอากาศหนาวเมื่อไปนั่งชักโครกต้องการสร้างความอบอุ่นให้เท้า ซึ่งเมื่อแขกออกจากพักเจ้าหน้าที่ก็ไปเก็บทำความสะอาด ทำห้องให้เรียบร้อยเหมือนเดิม

“สำหรับห้องน้ำสาธารณะ ในอุทยานเราก็พยายามทำให้ได้เหมือนปั๊มน้ำมันใหญ่ๆคือ ทำความสะอาดทุกชั่วโมง แต่ด้วยความที่คนใช้ห้องน้ำมีความหลากหลายมาก ในบางช่วงเวลาอาจจะเห็นภาพที่ไม่เหมาะไม่ควรบ้าง แต่ทุกคนก็เข้าใจดี และต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกคนให้ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย”นายครรชิต กล่าว

คัดข่าวบางส่วนจากมติชน http://www.matichon.co.th/news/410956
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่