โอ้... ความรัก

อยากลองแต่งนิยายดูบ้าง มือใหม่สุดๆครับ
เป็นเรื่องราวสมัยที่อินเตอร์เน็ตยังเป็นแบบการต่อโมเด็ม มือถือยังไม่แพร่หลาย จะจีบกันก็คือโทรเค้าเบอร์บ้าน วัยรุ่นยุค ’90 น่าจะนึกภาพออกนะครับ

ณ ห้องเรียนแห่งหนึ่ง
“เห้ยๆ เอก  น้ำเค้ามองหันมามองหลายรอบแล้ว กูว่าเค้าต้องชอบแน่เลย” เสียงกระซิบของแดน หนึ่งเพื่อนร่วมกลุ่มวิชาเคมีของผม ทำเอาผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาลอกกระดานจากลายมือของอาจารย์สุวพร ต้องละสายตาจากสมุดเงยหน้าขึ้นมามองไปที่น้ำโดยที่ไม่ต้องบอกเลยว่าน้ำนั่งอยู่ตรงไหนเพราะผมเองก็แอบมองเธออยู่บ่อยครั้งไป พอมองออกไปโต๊ะอีกกลุ่มที่อยู่ไปข้างหน้าทางซ้ายของตัวเอง “ไอห่า นี่หลอกกูอีกแล้วใช่มั้ย” ผมว่าไอ้แดนกลับไปเมื่อพบว่าน้ำไม่ได้กำลังมองมาที่ผม “เห้ย กูพูดจริงๆ ไม่เชื่อถามไอ้ชัชดูดิวะ” “น้ำเค้ามองมาจริงๆ...”  ไอ้ชัชรีบพูดขึ้นมาทันที แต่ไม่ทันที่มันจะพูดจบผมก็ตัดบทพวกมัน “มองมาห่าไร ก็เนี่ยกูมองอยู่ไม่เห็นจะเป็นอย่างที่พูดกันเลย รีบจดเลย อาจารย์ยิ่งเขียนเร็วลบเร็วอยู่” พูดจบผมก็กลับไปมีสมาธิกับการลอกกระดานต่อไป แต่ในใจก็แอบยิ้มเล็กๆ ว่า จริงหรอว้า...ที่หนึ่งในดาวของห้องอย่างน้ำจะหันมามองเรา

น้ำ เป็นเพื่อนผู้หญิงร่วมห้องม.4 ของผม ด้วยความสวยของเธอที่หน้าตาคม คิ้วหนาพอดี จมูกเป็นสัน เพื่อนๆ ผู้ชายอย่างเรายกให้เธอเป็นดาวของห้อง แต่ห้องของผมนั้นไม่ได้มีน้ำที่เป็นดาวคนเดียว ยังมีพลอยที่ออกจะเป็นสาวหวาน และริมฝีปากอวบอิ่มที่เป็นเอกลัษณ์อีกคน เรียกว่าใครๆ ก็ต้องอิจฉาห้องของเราแน่นอนที่มีสาวสวยอยู่ถึงสองคน

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงหมดคาบเรียนดังขึ้น พวกเรารีบเก็บสมุดเรียนลงกระเป๋า แล้วเตรียมตัวไปกินข้าวที่โรงอาหารกัน โดยปกติแล้วผู้ชายกับผู้หญิงก็แยกๆกันไปแยกกันนั่งอยู่แล้ว แต่วันนี้ไม่รู้ไอ้แดนมันผีเข้าที่ไหน ทันที่ที่มันเก็บกระเป๋าเสร็จมันเดินไปที่โต๊ะที่น้ำนั่งอยู่ “น้ำๆ พักเที่ยงไปกินข้าวพร้อมกันมั้ย” สี่สาวในโต๊ะ น้ำ พลอย กบและไอติม ไม่มีใครปฏิเสธ สรุปจึงกลายเป็นว่าวันนี้ผมได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันกับน้ำ และก็ทำให้ผมได้รู้ว่ากบ เป็นผู้หญิงที่พูดเก่งมากเพราะเธอสามารถพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้ตั้งแต่เดินไปโรงอาหาร นั่งกินจนกระทั่งเดินกลับมาที่ห้องรอเข้าเรียบคาบถัดไป ส่วนไอติมผู้หญิงตัวอวบ คล้ำที่ซึ่งไม่เป็นสเปคของใครเลยก็คอยเป็นลูกคู่กับกบได้เป็นอย่างดี

หลังจากพักเที่ยงวันนั้น ทำให้ผมและน้ำ ได้พูดคุยกันมากขึ้นและมากขึ้น มากจนกระทั่งทุกวิชาที่เป็นการนั่งรวมกลุ่มกันผมจะย้ายตัวมานั่งรวมกลุ่มกับน้ำตลอด และเวลาเปลี่ยนห้องเรียนผมก็จะอาสาถือกระเป๋าให้น้ำไปด้วย

หลังกลับถึงบ้าน ช่วงค่ำๆผมก็โทรหานืทุกวัน มีทั้งคุยการบ้าน เล่าเรื่องกลุ่มเพื่อน คุยจิปาถะ สารพัดจะคุย คุยกันยาวจนถึงเวลาอาบน้ำนอน
จนมาวันนึง เทพ ซึ่งเป็นเพื่อนต่างห้องที่เตะฟุตบอลด้วยกัน เข้ามาถามว่า “หลังๆนี้เห็นสนิทกับน้ำหรอวะ น้ำเค้ามีแฟนแล้วนะเว่ย” “เฮ้ย เป็นไปได้ไงวะ ไม่เห็นน้ำเคยจะพูดถึงเลย” “รู้จัก ไอ้แมนป่ะ ที่อยู่แก๊งน้ำปั่นอะ” แก๊งน้ำปั่นที่ไอ้เทพพูดถึงก็คือกลุ่มเด็กที่ไม่ค่อยสนใจเรียน ชอบจับกลุ่มรวมกันแถวร้านน้ำปั่น จริงๆไอ้เทพเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น เพียงแต่มันเป็นคนเรียนเก่ง ไอ้เทพเลยได้อยู่ห้องต้นๆ ส่วนเด็กส่วนมากของกลุ่มนั้นจะอยู่ห้องท้ายๆ “คือจริงๆ ช่วงนี้เค้าทะเลาะกันอยู่ เห็นไอ้แมนมันก็บ่นๆ อยู่ว่าน้ำขอเลิกกับมัน” ไอ้เทพพูดอย่างจริงจัง จนผมไม่คิดว่ามันจะพูดเล่นกับผม “เดี๋ยวกูไปถามน้ำดูก่อนละกัน ขอบใจที่เตือนนะ” “ระวังตัวไว้ด้วยหละ ไอ้แมนมันคิดว่าเป็นเพราะนี่หละ น้ำเลยไปขอเลิกกับมัน” คำพูดสุดท้ายที่เทพทิ้งไว้ ทำเอาผมคิดหนักอยู่เหมือนกัน

คืนนั้นที่คุยโทรศัพท์กันผมก็เลยถามน้ำไปตรงๆว่า “น้ำ เรามีเรื่องจะถามอย่างนึง” “ทำไมเอกเสียงดูซีเรียสจัง เราบอกแล้วมีอะไรคุยกับเราได้นะ” “คือวันนี้มีคนมาบอกเราว่าน้ำมีแฟนยู่แล้ว จริงป่ะ” “... เอกรู้มาจากไหนอะ” “มีคนบอกละกัน น้ำแค่ตอบมาก็พอว่าจริงรึป่าว” “...” ไม่มีเสียงกลับจากอีกฝั่ง “น้ำ น้ำบอกมาสิว่าจริงรึป่าว” “...จริง แต่เอกฟังน้ำก่อนนะ ” ถึงเวลานี้ผมช็อค อึ้งไปหมด ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป นึกไม่ออกจริงๆ ว่าควรทำยังไงต่อไป ได้แต่วางสายน้ำไปเลย

กริ๊งงงงงงง ..... กริ๊งงงงงงง ...... กริ๊งงงงงงง   “เอก รับโทรศัพท์ด้วย น้ำโทรมา” เสียงของแม่ตะโกนบอกให้รับโทรศัพท์
“เอก เอกฟังน้ำก่อนนะ” เสียงของน้ำดังขึ้นทันที่ที่ผมยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา เสียงของน้ำฟังดูสั่นๆ
“น้ำกำลังจะเลิกแมนแล้วเอก เอกเชื่อน้ำนะ น้ำกับแมนทะเลาะกันมานานแล้ว...น้ำพยายามบอกเลิกไปหลายรอบแล้ว แต่แมนก็ไม่ยอมเลิก” “ก็เลยเอาเราเข้ามาช่วยให้เลิกอะหรอ” ผมตอบเธอกลับไป “ไม่ใช่นะ เราจะเลิกกับแมนเค้าอยู่แล้วจริงๆ กับเอกน้ำคุยด้วยแล้วรู้สึกดี น้ำรู้สึกดีกับเอกจริงๆ นะ น้ำขอโทษ.....” เสียงของน้ำฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเธอกำลังร้องไห้อยู่ด้วย “เอกขอเวลาหน่อยละกันนะ เอกไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ” “เอก... เอกอย่าทิ้งน้ำไปนะ น้ำขอโทษ” ผมวางโทรศัพท์แล้วก็ยกหูออก เพื่อที่น้ำจะไม่สามารถโทรมาได้อีก

สมองของผมชาไปหมดไม่รู้จะทำยังไงดี ผมเองก็รู้สึกดีกับน้ำแต่มันจะต้องไม่ใช่แบบนี้แบบที่เรากำลังเป็นมือที่สามของเค้า ถึงแม้เค้ากำลังจะเลิกกันอยู่แล้วแต่เค้าก็ยังไม่ได้เลิกกัน ผมควรจะทำอย่างไรดี ผมทิ้งตัวลงที่นอนอย่างนิ่งๆ นอนลืมตาคิดแต่ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไร จนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้...


-รอติดตามตอนต่อไป-


ก่อนจะเริ่มตอนต่อไป ใครมีคำติชมอะไร บอกกันได้เลยนะคร้าบ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่